เปิดรายชื่อ 23 กก.บห.เพื่อไทยชุดใหม่ 'ชลน่าน' นั่งหัวหน้า ดันคนรุ่นใหม่เสริมทัพ
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_6701984
เปิดรายชื่อ 23 กก.บห.เพื่อไทยชุดใหม่ ‘ชลน่าน’ นั่งหัวหน้า ดันคนรุ่นใหม่เสริมทัพเพียบ พร้อมตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ด้วย
วันที่ 28 ต.ค.64 หลังจากนาย
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศลาออกจากตำแหน่งในการประชุมใหญ่พรรคที่จ.ขอนแก่น ต่อมามีวาระการประชุม เพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
ขณะที่ผลการลงคะแนนที่ประชุมได้เลือก นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ แบบไร้คู่แข่ง พร้อมกันนี้ได้ปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารในตำแหน่งอื่นๆ ด้วย โดยมีรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จำนวน 23 คน ประกอบด้วย
1.
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค
2. นาย
ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรค
3. นาย
สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค
4. นาย
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค
5. นาย
สรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค
6. นาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค
7. นาย
วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ รองเลขาธิการพรรค
8. นาย
จิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ รองเลขาธิการพรรค
9. นาง
มนพร เจริญศรี รองเลขาธิการพรรค
10. นาย
คุณากร ปรีชาชนะชัย รองเลขาธิการพรรค
11. นาย
จักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการพรรค
12. นาย
นพ ชีวานันท์ รองเลขาธิการพรรค
13. นาย
เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค
14. น.ส.
อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค
15. นาย
ทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เหรัญญิกพรรค
16. นาย
จักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนสมาชิกพรรค
17. น.ส.
ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค
18. น.ส.
ณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรค
19. น.ส.
จิราพร สินธุไพร กรรมการบริหารพรรค
20. นาย
เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล กรรมการบริหารพรรค
21. นาย
พชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหารพรรค
22. น.ส.
กิตติ์ธัญญา วาจาดี กรรมการบริหารพรรค
23. น.ส.
ธีราภา ไพโรหกุล กรรมการบริหารพรรค
นอกจากนี้ยังตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค จำนวน 15 คน ประกอบด้วย
1. นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค
2. นาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค
3. นาย
สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค
4. นาย
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค
5. นาย
สรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค
6. นาง
มนพร เจริญศรี รองเลขาธิการพรรค
7. น.ส.
ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค
8. นาย
สมัคร บุญปก หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 1 จังหวัดอุดรธานี
9. นาย
สุเทพ สายทอง หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่
10. นาย
วิทวัส ดุลพินิจพัฒนา หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 4 จังหวัดภูเก็ต
11. นาย
พันศักดิ์ จันทร์ใบเล็ก หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 5 จังหวัดนนทบุรี
12. นาย
สัมพันธ์ แสงพรมชาลี ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดสกลนคร เขตเลือกตั้งที่ 2
13. นาย
ประสิทธิ์ จันทาทอง ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดหนองคาย เขตเลือกตั้งที่ 2
14. น.ส.
ประภาพร ทองปากน้ำ ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดสุโขทัย เขตเลือกตั้งที่ 1
15. นาย
ธนภพ กองโภค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขตเลือกตั้งที่ 2
ที่ประชุมยังมีการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย โดยมีนาย
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นาย
เสนาะ เทียนทอง พล.ต.ท.
วิโรจน์ เปาอินทร์ และร.ต.อ
.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นที่ปรึกษา
มีนาย
ชัยเกษม นิติสิริ เป็นประธานคณะกรรมการ นาย
กิตติรัตน์ ณ ระนอง นาย
เกรียง กัลป์ตินันท์ นาย
นพดล ปัทมะ นาย
พิชัย นริพทะพันธุ์ นาย
พวงเพ็ชร ชุนละเอียด เป็นรองประธานคณะกรรมการ
มีนพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว นาย
กิตติ ลิ่มสกุล นพ.
เชิดชัย ตันติศิรินทร์ นาย
ชูศักดิ์ ดิ์ศิรินิล นาย
ไชยา พรหมา นาง
ณหทัย ทิวไผ่งาม นา
งนลินี ทวีสิน นาย
ประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ นาย
พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นพ.
พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นาย
ภูมิธรรม เวชยชัย นาย
วิชาญ มีนชัยนันท์ นาย
วิทยา บุรณศิริ นาย
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ นาย
วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล นาย
สุชาติ ธาดาธำรงเวช นพ.
สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และนาย
อดิศร เพียงเกษ เป็นกรรมการ
มีนาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ และ นาย
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เป็นกรรมการและรองเลขานุการคณะกรรมการ
ยิ่งอยู่ ยิ่งแย่ลง! Bloomberg จัดอันดับไทยฟื้นตัวจากโควิดแย่กว่าเก่า อีกแล้ว
https://brandinside.asia/bloomberg-covid-resilience-ranking-for-thailand-october-2021/
ถึงเวลาที่ Bloomberg รายงานการจัดอันดับ การฟื้นตัวจากโควิดของประเทศต่างๆ อีกครั้ง แน่นอน ไทยก็ยังถูกจัดอันดับเหมือนเดิม แต่คราวนี้แย่ลงกว่าเดิม (อีกแล้ว?) ไทยค่อยๆ ตกอันดับจาก 39 เป็น 41 จากนั้นก็ตกมาอยู่อันดับที่ 49 และเลื่อนลงมาเป็นอันดับที่ 50 ในรอบห้าเดือนไทยถูกจัดอันดับ 5 ครั้ง เลื่อนอันดับลงมาเรื่อยๆ ทุกครั้ง จนกระทั่งครั้งนี้ ไทยตกอันดับเหมือนเคย รอบนี้อยู่อันดับที่ 51
สำหรับประเทศที่มีการฟื้นตัวจากโควิดได้ดียังตกเป็นของกลุ่มประเทศยุโรปอย่างไม่ต้องสงสัย ไอร์แลนด์ยังครองอันดับที่ 1 เป็นเดือนที่สองติดต่อกันหลังจากมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้วกว่า 90% ไอร์แลนด์ค่อยๆ เปิดประเทศอย่างระมัดระวัง เปิดให้ร้านอาหาร ผับ บาร์ค่อยๆ กลับมาดำเนินธุรกิจอย่างปกติได้ สำหรับ 10 ประเทศที่ Bloomberg จัดให้อยู่ Top 10 จากทั้งหมด 53 ประเทศ มีดังนี้
1. ไอร์แลนด์ (รักษาแชมป์ไว้ได้) การฟื้นตัวอยู่ที่ 75.1 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 73.8% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -12% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 14.8%
2. สเปน (รักษาแชมป์ไว้ได้) การฟื้นตัวอยู่ที่ 74.6 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 76.7% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -13.1% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 5.5%
3. สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ (ดีขึ้น 3 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 74.6 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 97.3% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -0.2% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 2.3%
4. เดนมาร์ก (ดีขึ้น 1 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 74.3 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 76.1% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -2.1% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 3.3%
5. ฟินแลนด์ (แย่ลง 1 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 74.2 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 72.6% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -11.8% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 3.2%
6. นอร์เวย์ (ดีขึ้น 4 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 73.1 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 73.9% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -6.3% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 3.7%
7. ฝรั่งเศส (อันดับคงที่) การฟื้นตัวอยู่ที่ 71.5 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 75.5% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -8.7% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 6.1%
8. ชิลี (ดีขึ้นมาก 23 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 71.4 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 92.4% การเดินทางของบุคคลในชุมชน 1% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 10.6%
9. สวิตเซอร์แลนด์ (แย่ลง 1 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 71.3 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 64.2% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -11.8% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 3.4%
10. เนเธอร์แลนด์ (แย่ลง 7 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 71.3 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 69.3% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -9.9% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 3.8%
ใน 10 อันดับแรกจาก 53 ประเทศที่มีการฟื้นตัวจากโควิดได้ค่อนข้างดีนั้น ไอร์แลนด์กับสเปนยังเป็นประเทศที่รักษาตำแหน่งได้ดี สามารถครองแชมป์ 2 อันดับแรกได้อยู่ ขณะที่ประเทศที่ตีตื้นขึ้นมา อันดับดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจสำหรับ Top 10 แรกของโลกคือประเทศชิลี ที่ไต่อันดับสูงขึ้นถึง 23 อันดับ
นอกจากประเทศชิลีที่ไต่อันดับเป็นประเทศที่มีการฟื้นตัวจากโควิดดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจถึง 23 อันดับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 8 ของโลก ประเทศที่น่าสนใจหลังจากนั้นก็ยังมีอีก มีลักษณะดีขึ้นในระดับหลักสิบ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ อันดับที่ 14 (ไต่ขึ้น 12 อันดับ) ญี่ปุ่น อันดับที่ 16 (ไต่ขึ้นจากเดิม 13 อันดับ) อิสราเอล อยู่อันดับที่ 29 (ดีขึ้น 12 อันดับ) อิหร่าน อันดับที่ 34 (ดีขึ้น 14 อันดับ) ปากีสถาน อันดับที่ 36 (ดีขึ้น 10 อันดับ)
ขณะที่ประเทศที่มีอันดับที่แย่ลงระดับหลักสิบ อาทิ เบลเยียม อันดับที่ 22 (แย่ลง 11 อันดับ) รัสเซีย อันดับที่ 46 (แย่ลง 11 อันดับ) โรมาเนีย อันดับที่ 49 (แย่ลง 22 อันดับ)
มาดูกันบ้าง ระดับประเทศในอาเซียนที่ Bloomberg นำมาพิจารณาจัดอันดับมีอยู่ 6 ประเทศด้วยกัน เริ่มที่ สิงคโปร์ก่อนเลย เพราะอยู่อันดับสูงสุดในบรรดากลุ่มประเทศอาเซียน อยู่อันดับที่ 39 (แย่ลง 20 อันดับ) ตามด้วย อินโดนีเซีย อันดับที่ 48 (แย่ลง 1 อันดับ) มาเลเซีย อันดับที่ 50 (ดีขึ้น 1 อันดับ) เวียดนาม อันดับที่ 52 (รักษาตำแหน่ง ไม่ดีขึ้น ไม่แย่ลง) ฟิลิปปินส์ อันดับ 53 (ไม่ดีขึ้น ไม่แย่ลงเช่นกัน)
ส่วนไทย อยู่อันดับที่ 51 (แย่ลง 1 อันดับ) คะแนนการฟื้นตัวอยู่ที่ 46.8 คะแนน ผู้คนฉีดวัคซีนราว 50.6% การเดินทางในชุมชนอยู่ที่ -21.7% คาดการณ์จีดีพี เติบโตที่ 4.4% ดัชนีการพัฒนามนุษย์อยู่ที่ 0.72
สำหรับประเทศที่จะเปิดให้มีการเดินทางระหว่างประเทศได้ เส้นทางค่อนข้างน้อย อาทิ อินเดีย จีน นอร์เวย์ ส่วนไทยอยู่ในระดับกลางๆ มีทั้งเปิดและปิด ขณะที่เดนมาร์กมีการเริ่มเปิดเส้นทางระหว่างประเทศมากขึ้น รวมทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดาด้วย
ไม่ดีขึ้น! Bloomberg จัดไทยฟื้นตัวจากดควิดแย่ลง ได้ที่ 50 จากทั้งหมด 53 อันดับ
ที่มา –
Bloomberg
น้ำมันพุ่งไม่หยุด ! “ม็อบรถบรรทุก” ไม่ทนนัดประท้วง 1 พ.ย.
https://www.nationtv.tv/news/378849156
หลังยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแต่ไม่เป็นผล ราคานำมันยังพุ่งสูงต่อเนื่อง ทำให้ “ม็อบรถบรรทุก” ยกระดับการชุมนุมประท้วงเริ่ม 1 พ.ย. นี้
จากวิกฤติราตคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุดราคาน้ำมันวันนี้ ( 29 ต.ค. 64)
เบนซิน-แก๊สโซฮอล์
แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 32.55 บาท
แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 32.28 บาท
แก๊สโซฮอล์ E20 ลิตรละ 31.04 บาท
แก๊สโซฮอล์ E85 ลิตรละ 24.44 บาท
ดีเซล
ดีเซล B7 ลิตรละ 29.69 บาท
ดีเซล B10 ลิตรละ 29.69 บาท
ดีเซล B20 ลิตรละ 29.44 บาท
ดีเซลพรีเมี่ยม ลิตรละ 35.06 บาท
ทำให้ล่าสุดชาวขนส่งรถบรรทุกไม่ทนหลังจากเคยยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องนี้ แต่ไม่ได้รับการตอบรับหนำซ้ำราคาน้ำมันยังพุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง
นาย
อภิชาติ ไพรรุ่งเรือง นายกสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดระบุ ว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีการตอบรับ หรือออกมาตรการช่วยเหลือ เพื่อลดภาระราคาน้ำมันดีเซลให้กับผู้ประกอบการขนส่งตามข้อเสนอ แม้ว่าจะเลยระยะเวลาเส้นตาย 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. 64
จึงขอยกระดับการเรียกร้อง โดยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. รถบรรทุกทั่วประเทศราว 20% หรือราว 8 หมื่นคัน จากจำนวนรวม 4 แสนคันทั่วประเทศ จะทำการหยุดวิ่งให้บริการ เพราะผู้ประกอบการขนส่งไม่สามารถแบกภาระขาดทุนจากราคาน้ำมันแพงได้อีกต่อไป
ขณะนี้สมาคมฯ ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าจ้างขนส่งสินค้าทุกรายให้รับทราบแล้วถึงความจำเป็นในการหยุดวิ่งแล้ว ซึ่งผู้ว่าจ้างก็เข้าใจเหตุผลดังกล่าวเป็นอย่างดี
JJNY : เปิดชื่อ23กก.บห.พท.ชุดใหม่│Bloomberg จัดอันดับไทยฟื้นตัวแย่กว่าเก่า│ม็อบรถบรรทุกนัด1พ.ย.│ชวนเตรียมถกวิป2ฝ่าย1พ.ย.
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_6701984
เปิดรายชื่อ 23 กก.บห.เพื่อไทยชุดใหม่ ‘ชลน่าน’ นั่งหัวหน้า ดันคนรุ่นใหม่เสริมทัพเพียบ พร้อมตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ด้วย
วันที่ 28 ต.ค.64 หลังจากนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศลาออกจากตำแหน่งในการประชุมใหญ่พรรคที่จ.ขอนแก่น ต่อมามีวาระการประชุม เพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
ขณะที่ผลการลงคะแนนที่ประชุมได้เลือก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ แบบไร้คู่แข่ง พร้อมกันนี้ได้ปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารในตำแหน่งอื่นๆ ด้วย โดยมีรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จำนวน 23 คน ประกอบด้วย
1. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค
2. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรค
3. นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค
4. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค
5. นายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค
6. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค
7. นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ รองเลขาธิการพรรค
8. นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ รองเลขาธิการพรรค
9. นางมนพร เจริญศรี รองเลขาธิการพรรค
10. นายคุณากร ปรีชาชนะชัย รองเลขาธิการพรรค
11. นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการพรรค
12. นายนพ ชีวานันท์ รองเลขาธิการพรรค
13. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค
14. น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค
15. นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เหรัญญิกพรรค
16. นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนสมาชิกพรรค
17. น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค
18. น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรค
19. น.ส.จิราพร สินธุไพร กรรมการบริหารพรรค
20. นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล กรรมการบริหารพรรค
21. นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหารพรรค
22. น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี กรรมการบริหารพรรค
23. น.ส.ธีราภา ไพโรหกุล กรรมการบริหารพรรค
นอกจากนี้ยังตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค จำนวน 15 คน ประกอบด้วย
1. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค
2. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค
3. นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค
4. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค
5. นายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค
6. นางมนพร เจริญศรี รองเลขาธิการพรรค
7. น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค
8. นายสมัคร บุญปก หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 1 จังหวัดอุดรธานี
9. นายสุเทพ สายทอง หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่
10. นายวิทวัส ดุลพินิจพัฒนา หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 4 จังหวัดภูเก็ต
11. นายพันศักดิ์ จันทร์ใบเล็ก หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 5 จังหวัดนนทบุรี
12. นายสัมพันธ์ แสงพรมชาลี ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดสกลนคร เขตเลือกตั้งที่ 2
13. นายประสิทธิ์ จันทาทอง ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดหนองคาย เขตเลือกตั้งที่ 2
14. น.ส.ประภาพร ทองปากน้ำ ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดสุโขทัย เขตเลือกตั้งที่ 1
15. นายธนภพ กองโภค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขตเลือกตั้งที่ 2
ที่ประชุมยังมีการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย โดยมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายเสนาะ เทียนทอง พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นที่ปรึกษา
มีนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นประธานคณะกรรมการ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายเกรียง กัลป์ตินันท์ นายนพดล ปัทมะ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ นายพวงเพ็ชร ชุนละเอียด เป็นรองประธานคณะกรรมการ
มีนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายกิตติ ลิ่มสกุล นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ นายชูศักดิ์ ดิ์ศิรินิล นายไชยา พรหมา นางณหทัย ทิวไผ่งาม นางนลินี ทวีสิน นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายภูมิธรรม เวชยชัย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายวิทยา บุรณศิริ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และนายอดิศร เพียงเกษ เป็นกรรมการ
มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ และ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เป็นกรรมการและรองเลขานุการคณะกรรมการ
ยิ่งอยู่ ยิ่งแย่ลง! Bloomberg จัดอันดับไทยฟื้นตัวจากโควิดแย่กว่าเก่า อีกแล้ว
https://brandinside.asia/bloomberg-covid-resilience-ranking-for-thailand-october-2021/
ถึงเวลาที่ Bloomberg รายงานการจัดอันดับ การฟื้นตัวจากโควิดของประเทศต่างๆ อีกครั้ง แน่นอน ไทยก็ยังถูกจัดอันดับเหมือนเดิม แต่คราวนี้แย่ลงกว่าเดิม (อีกแล้ว?) ไทยค่อยๆ ตกอันดับจาก 39 เป็น 41 จากนั้นก็ตกมาอยู่อันดับที่ 49 และเลื่อนลงมาเป็นอันดับที่ 50 ในรอบห้าเดือนไทยถูกจัดอันดับ 5 ครั้ง เลื่อนอันดับลงมาเรื่อยๆ ทุกครั้ง จนกระทั่งครั้งนี้ ไทยตกอันดับเหมือนเคย รอบนี้อยู่อันดับที่ 51
สำหรับประเทศที่มีการฟื้นตัวจากโควิดได้ดียังตกเป็นของกลุ่มประเทศยุโรปอย่างไม่ต้องสงสัย ไอร์แลนด์ยังครองอันดับที่ 1 เป็นเดือนที่สองติดต่อกันหลังจากมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้วกว่า 90% ไอร์แลนด์ค่อยๆ เปิดประเทศอย่างระมัดระวัง เปิดให้ร้านอาหาร ผับ บาร์ค่อยๆ กลับมาดำเนินธุรกิจอย่างปกติได้ สำหรับ 10 ประเทศที่ Bloomberg จัดให้อยู่ Top 10 จากทั้งหมด 53 ประเทศ มีดังนี้
1. ไอร์แลนด์ (รักษาแชมป์ไว้ได้) การฟื้นตัวอยู่ที่ 75.1 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 73.8% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -12% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 14.8%
2. สเปน (รักษาแชมป์ไว้ได้) การฟื้นตัวอยู่ที่ 74.6 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 76.7% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -13.1% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 5.5%
3. สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ (ดีขึ้น 3 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 74.6 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 97.3% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -0.2% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 2.3%
4. เดนมาร์ก (ดีขึ้น 1 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 74.3 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 76.1% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -2.1% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 3.3%
5. ฟินแลนด์ (แย่ลง 1 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 74.2 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 72.6% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -11.8% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 3.2%
6. นอร์เวย์ (ดีขึ้น 4 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 73.1 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 73.9% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -6.3% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 3.7%
7. ฝรั่งเศส (อันดับคงที่) การฟื้นตัวอยู่ที่ 71.5 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 75.5% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -8.7% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 6.1%
8. ชิลี (ดีขึ้นมาก 23 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 71.4 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 92.4% การเดินทางของบุคคลในชุมชน 1% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 10.6%
9. สวิตเซอร์แลนด์ (แย่ลง 1 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 71.3 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 64.2% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -11.8% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 3.4%
10. เนเธอร์แลนด์ (แย่ลง 7 อันดับ) การฟื้นตัวอยู่ที่ 71.3 คะแนน ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 69.3% การเดินทางของบุคคลในชุมชน -9.9% คาดการณ์จีดีพี เติบโตอยู่ที่ 3.8%
ใน 10 อันดับแรกจาก 53 ประเทศที่มีการฟื้นตัวจากโควิดได้ค่อนข้างดีนั้น ไอร์แลนด์กับสเปนยังเป็นประเทศที่รักษาตำแหน่งได้ดี สามารถครองแชมป์ 2 อันดับแรกได้อยู่ ขณะที่ประเทศที่ตีตื้นขึ้นมา อันดับดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจสำหรับ Top 10 แรกของโลกคือประเทศชิลี ที่ไต่อันดับสูงขึ้นถึง 23 อันดับ
นอกจากประเทศชิลีที่ไต่อันดับเป็นประเทศที่มีการฟื้นตัวจากโควิดดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจถึง 23 อันดับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 8 ของโลก ประเทศที่น่าสนใจหลังจากนั้นก็ยังมีอีก มีลักษณะดีขึ้นในระดับหลักสิบ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ อันดับที่ 14 (ไต่ขึ้น 12 อันดับ) ญี่ปุ่น อันดับที่ 16 (ไต่ขึ้นจากเดิม 13 อันดับ) อิสราเอล อยู่อันดับที่ 29 (ดีขึ้น 12 อันดับ) อิหร่าน อันดับที่ 34 (ดีขึ้น 14 อันดับ) ปากีสถาน อันดับที่ 36 (ดีขึ้น 10 อันดับ)
ขณะที่ประเทศที่มีอันดับที่แย่ลงระดับหลักสิบ อาทิ เบลเยียม อันดับที่ 22 (แย่ลง 11 อันดับ) รัสเซีย อันดับที่ 46 (แย่ลง 11 อันดับ) โรมาเนีย อันดับที่ 49 (แย่ลง 22 อันดับ)
มาดูกันบ้าง ระดับประเทศในอาเซียนที่ Bloomberg นำมาพิจารณาจัดอันดับมีอยู่ 6 ประเทศด้วยกัน เริ่มที่ สิงคโปร์ก่อนเลย เพราะอยู่อันดับสูงสุดในบรรดากลุ่มประเทศอาเซียน อยู่อันดับที่ 39 (แย่ลง 20 อันดับ) ตามด้วย อินโดนีเซีย อันดับที่ 48 (แย่ลง 1 อันดับ) มาเลเซีย อันดับที่ 50 (ดีขึ้น 1 อันดับ) เวียดนาม อันดับที่ 52 (รักษาตำแหน่ง ไม่ดีขึ้น ไม่แย่ลง) ฟิลิปปินส์ อันดับ 53 (ไม่ดีขึ้น ไม่แย่ลงเช่นกัน)
ส่วนไทย อยู่อันดับที่ 51 (แย่ลง 1 อันดับ) คะแนนการฟื้นตัวอยู่ที่ 46.8 คะแนน ผู้คนฉีดวัคซีนราว 50.6% การเดินทางในชุมชนอยู่ที่ -21.7% คาดการณ์จีดีพี เติบโตที่ 4.4% ดัชนีการพัฒนามนุษย์อยู่ที่ 0.72
สำหรับประเทศที่จะเปิดให้มีการเดินทางระหว่างประเทศได้ เส้นทางค่อนข้างน้อย อาทิ อินเดีย จีน นอร์เวย์ ส่วนไทยอยู่ในระดับกลางๆ มีทั้งเปิดและปิด ขณะที่เดนมาร์กมีการเริ่มเปิดเส้นทางระหว่างประเทศมากขึ้น รวมทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดาด้วย
ไม่ดีขึ้น! Bloomberg จัดไทยฟื้นตัวจากดควิดแย่ลง ได้ที่ 50 จากทั้งหมด 53 อันดับ
ที่มา –Bloomberg
น้ำมันพุ่งไม่หยุด ! “ม็อบรถบรรทุก” ไม่ทนนัดประท้วง 1 พ.ย.
https://www.nationtv.tv/news/378849156
หลังยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแต่ไม่เป็นผล ราคานำมันยังพุ่งสูงต่อเนื่อง ทำให้ “ม็อบรถบรรทุก” ยกระดับการชุมนุมประท้วงเริ่ม 1 พ.ย. นี้
จากวิกฤติราตคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุดราคาน้ำมันวันนี้ ( 29 ต.ค. 64)
เบนซิน-แก๊สโซฮอล์
แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 32.55 บาท
แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 32.28 บาท
แก๊สโซฮอล์ E20 ลิตรละ 31.04 บาท
แก๊สโซฮอล์ E85 ลิตรละ 24.44 บาท
ดีเซล
ดีเซล B7 ลิตรละ 29.69 บาท
ดีเซล B10 ลิตรละ 29.69 บาท
ดีเซล B20 ลิตรละ 29.44 บาท
ดีเซลพรีเมี่ยม ลิตรละ 35.06 บาท
ทำให้ล่าสุดชาวขนส่งรถบรรทุกไม่ทนหลังจากเคยยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องนี้ แต่ไม่ได้รับการตอบรับหนำซ้ำราคาน้ำมันยังพุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง นายกสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดระบุ ว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีการตอบรับ หรือออกมาตรการช่วยเหลือ เพื่อลดภาระราคาน้ำมันดีเซลให้กับผู้ประกอบการขนส่งตามข้อเสนอ แม้ว่าจะเลยระยะเวลาเส้นตาย 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. 64
จึงขอยกระดับการเรียกร้อง โดยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. รถบรรทุกทั่วประเทศราว 20% หรือราว 8 หมื่นคัน จากจำนวนรวม 4 แสนคันทั่วประเทศ จะทำการหยุดวิ่งให้บริการ เพราะผู้ประกอบการขนส่งไม่สามารถแบกภาระขาดทุนจากราคาน้ำมันแพงได้อีกต่อไป
ขณะนี้สมาคมฯ ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าจ้างขนส่งสินค้าทุกรายให้รับทราบแล้วถึงความจำเป็นในการหยุดวิ่งแล้ว ซึ่งผู้ว่าจ้างก็เข้าใจเหตุผลดังกล่าวเป็นอย่างดี