ผมไม่รู้ว่า ทุกคนเคยรู้สึกรักสิ่งๆหนึ่ง เพราะเราคิดว่าสิ่งนั้นมีค่ากับชีวิตเรามากขนาดไหน...
ผมเคยเลี้ยงสุนัขพันธุ์เล็ก น่ารัก แน่นอนว่าใครที่เคยเลี้ยงหมาพันธ์ุนี้คงรู้ดี ว่ามันคงต้องการการประคบประหงม มากขนาดไหน เราดูแลเอาใจใส่แทบจะเรียกได้ว่า ไม่ให้คลาดสายตาเลย ด้วยความที่คิดว่าสุนัขพันธ์ุเล็ก หากเราปล่อยไว้คงมีอันตราย ผมคิดว่าหมาพันธุ์นี้ควรเลี้ยงในบ้านจะเหมาะสม แต่เมื่อไหร่ที่ออกมานอกบ้าน เราควรล่ามมันไว้.....แน่นอนครับ ผมใช้เชือกผูกกับสายรัดอกของมันไว้กับขาโต๊ะม้าหินอ่อน (พอให้เดินไปไหนมาไหนได้) เพราะกลัวว่า มันจะหลุดไปที่นู้นที่นี่แล้วเป็นอันตราย หรือหลุดหายไป (บ้านผมไม่มีรั้วรอบขอบชิด) ผมคิดว่าสิ่งนี้ดีที่สุดสำหรับการปกป้องและดีต่อมัน เรื่องราวดำเนินแบบนี้ไปเรื่อยๆหลายปี จนสุดท้าย...ผมก็ไม่อาจรั้งความน่ารักของมันให้อยู่กับผมไว้นานๆได้ ความพลัดพรากได้นำพาเอาชีวิต หมาที่ผมรักและผูกพันมากหลายปี จากผมไปอย่างไร้เยื่อใย ความเจ็บปวดเกิดขึ้นกับใจผมในช่วงแรกเมื่อปีกว่าๆที่ผ่านมา
แน่นอน ชีวิตยังคงต้องเดินต่อไป แล้วมันก็เป็นไปตามวัฎจักรของโลก จนวันหนึ่งเมื่อชีวิตผมมีจุดหักเหในมุมมองด้านความรัก ผมถึงได้มองย้อนกลับไปว่า เมื่อก่อนที่เราคิดว่าการผูกรั้งหมาที่เรารัก ให้อยู่ในสายตาอยู่ในความดูแลของเรา ไม่น่าจะเป็นอะไร มันคงไม่คิดไรมาก มันคงพอใจกับชีวิตแบบนี้ ได้กินอิ่ม ได้นอนหลับ ได้อยู่กับเรา ได้มีความสุขเล่นในช่วงเวลาที่อยากเล่น อยู่ด้วยกันในช่วงเวลาที่เราสามารถอยู่ได้
แต่วันนี้ ผมได้รู้ซึ้งและนึกย้อนกลับไปนึกถึงความรู้สึกมัน ผมไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของมันเลย ว่าหมาตัวน้อยนี้จะรู้สึกอย่างไรกับโลกที่ครั้งหนึ่งมันได้เกิดมาตอนนี้บ้าง......ผมคิดไปเองและใช้ความคิดตัวเองไปตัดสินแทนมันทั้งหมด.... ผมใช้เชือกผูกชีวิตของหมาน้อยตัวหนึ่งไว้กับผม โดยไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกยังไง จนผมได้รู้แล้วว่าทุกวันนี้ชีวิตความรักผม ก็ไม่ต่างอะไรกับการผูกรั้งแบบนั้น....
ท้ายที่สุดนี้ ข้อความทั้งหมดเพียงเพื่อพรรณนาความรู้สึกในใจ ให้ผมได้ก้าวต่อไป
คุณเคยรักแบบนี้มั้ย?
ผมเคยเลี้ยงสุนัขพันธุ์เล็ก น่ารัก แน่นอนว่าใครที่เคยเลี้ยงหมาพันธ์ุนี้คงรู้ดี ว่ามันคงต้องการการประคบประหงม มากขนาดไหน เราดูแลเอาใจใส่แทบจะเรียกได้ว่า ไม่ให้คลาดสายตาเลย ด้วยความที่คิดว่าสุนัขพันธ์ุเล็ก หากเราปล่อยไว้คงมีอันตราย ผมคิดว่าหมาพันธุ์นี้ควรเลี้ยงในบ้านจะเหมาะสม แต่เมื่อไหร่ที่ออกมานอกบ้าน เราควรล่ามมันไว้.....แน่นอนครับ ผมใช้เชือกผูกกับสายรัดอกของมันไว้กับขาโต๊ะม้าหินอ่อน (พอให้เดินไปไหนมาไหนได้) เพราะกลัวว่า มันจะหลุดไปที่นู้นที่นี่แล้วเป็นอันตราย หรือหลุดหายไป (บ้านผมไม่มีรั้วรอบขอบชิด) ผมคิดว่าสิ่งนี้ดีที่สุดสำหรับการปกป้องและดีต่อมัน เรื่องราวดำเนินแบบนี้ไปเรื่อยๆหลายปี จนสุดท้าย...ผมก็ไม่อาจรั้งความน่ารักของมันให้อยู่กับผมไว้นานๆได้ ความพลัดพรากได้นำพาเอาชีวิต หมาที่ผมรักและผูกพันมากหลายปี จากผมไปอย่างไร้เยื่อใย ความเจ็บปวดเกิดขึ้นกับใจผมในช่วงแรกเมื่อปีกว่าๆที่ผ่านมา
แน่นอน ชีวิตยังคงต้องเดินต่อไป แล้วมันก็เป็นไปตามวัฎจักรของโลก จนวันหนึ่งเมื่อชีวิตผมมีจุดหักเหในมุมมองด้านความรัก ผมถึงได้มองย้อนกลับไปว่า เมื่อก่อนที่เราคิดว่าการผูกรั้งหมาที่เรารัก ให้อยู่ในสายตาอยู่ในความดูแลของเรา ไม่น่าจะเป็นอะไร มันคงไม่คิดไรมาก มันคงพอใจกับชีวิตแบบนี้ ได้กินอิ่ม ได้นอนหลับ ได้อยู่กับเรา ได้มีความสุขเล่นในช่วงเวลาที่อยากเล่น อยู่ด้วยกันในช่วงเวลาที่เราสามารถอยู่ได้
แต่วันนี้ ผมได้รู้ซึ้งและนึกย้อนกลับไปนึกถึงความรู้สึกมัน ผมไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของมันเลย ว่าหมาตัวน้อยนี้จะรู้สึกอย่างไรกับโลกที่ครั้งหนึ่งมันได้เกิดมาตอนนี้บ้าง......ผมคิดไปเองและใช้ความคิดตัวเองไปตัดสินแทนมันทั้งหมด.... ผมใช้เชือกผูกชีวิตของหมาน้อยตัวหนึ่งไว้กับผม โดยไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกยังไง จนผมได้รู้แล้วว่าทุกวันนี้ชีวิตความรักผม ก็ไม่ต่างอะไรกับการผูกรั้งแบบนั้น....
ท้ายที่สุดนี้ ข้อความทั้งหมดเพียงเพื่อพรรณนาความรู้สึกในใจ ให้ผมได้ก้าวต่อไป