เราเผลอไปจูบกับเพื่อนสนิท เราต้องทำยังไงดี

สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องอยากมาปรึกษา เราขอเล่าย้อนหลังก่อนนะคะ  เราเคยเรียนที่ปทุมมีเพื่อนสนิทก็อยู่ที่ปทุม เราเรียนอยู่ปทุมจนถึงป.3 พอขึ้นป.4 เราจำเป็นต้องย้ายมาอยู่ที่โคราชกับอาเรา เราย้ายมาเข้าโรงเรียนใกล้ๆบ้านโรงเรียนนึ่ง วันเเรกที่เข้ามาเรียนเราโดนเพื่อนแกล้งจนไม่อยากไปโรงเรียน เราขออาย้ายโรงเรียนเเต่อาบอกว่าโรงเรียนนี้ดีที่สุดในระแวกนี้เเร้วแถมมันก็ใกล้บ้านเราด้วย เราต้องไปเรียนแล้วโดนเพื่อนแกล้งทุกวัน จนมาวันนึ่งเราโดนเพื่อนแกล้ง แกล้งจนเราร้องไห้แต่พวกนั้นก้อยังไม่หยุด จนมีเพื่อนผู้ชายคนนึ่งมาช่วยเรา ปกติเพื่อนคนนี้จะไม่ชอบซุงซิงกับไคร แต่วันนี้เค้ามาช่วยเรา แหละตั้งแต่นั้นมาทุกครั้งที่เราโดนแกล้งเพื่อนคนนี้ก้อจะมาคอยช่วยตลอด แรกๆเราก้อไม่ได้อยากคุยด้วยหรืออยากสนิมด้วยเพราะเห็นว่าเป็นผู้ชาย(ตอนนั้นยังเด็กคิดว่ามีเพื่อนผู้ชายเเร้วจะดูไม่ดีอ่ะน่ะ) จนขึ้นมาป.5 เรากับเพื่อนคนนี้เริ่มคุยกันบ่อยขึ้น เริ่มทำงานเเร้วอยู่กลุ่มเดียวกัน เริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น เวลาผ่านไปจนเราทั้ง2 เริ่มสนิทกันมากขึ้นทุกวัน สนิทจนที่ว่าต่างคนต่างรู้ว่านิสัยกัน จบป.6 เราขึ้นมัธยมโรงเรียนเดียวกันเเต่อยู่คนล่ะทับ เพราะตอนขึ้นมัธยมทางโรงเรียนให้สอบคัดห้อง เรากับเพื่อนได้แยกห้องกันอยู่ตอนนั้นเราคิดว่าแยกกันอยู่ก้อไม่เห็นจะเป็นไรพักก้อค่อยเดินมาหาก่อน เวลาผ่านไปเราก้อมีเพื่อนที่อยู่ทับเดียวกัน เค้าก้อมีเพื่อนที่อยู่ทับเดียวกัน ตอนอยู่ประถมเค้าเป็นคนไม่ค่อยซุงซิงกับไคร แต่พอขึ้นมัธยมมาเค้ากลายเป็นคนยิ้มง่าย ยิ้มบ่อยขึ้น เค้าเป็นคนน่ารักค่ะ ไครๆก้ออยากจะเป็นเพื่อนกับเค้าเป็นที่รักของรุ่นพี่หลายๆคน ตอน ม.1 เราก้อยังสนิทกันอยู่ไปไหนด้วยกันเหมือนเดิม เลิกเรียนเค้าก้อเดินไปส่งเราขึ้นรถทุกวัน ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเราชอบมันหรือยัง แต่ทุกครั้งที่มันยิ้มเรารู้สึกอยากให้มันยิ้มแบบนี้เเค่กับเรา เวลามีผู้หญิงมาแซวหรือมาแกล้งอะไรมันเรารู้สึกโมโหเกือบทุกครั้ง มันดีกับเรามาก จนเรา2คน ขึ้นม.2 มันเริ่มเปลี่ยนไป เริ่มไม่มาอยู่กับเรา ไม่มาส่งเราขึ้นรถเหมือนเดิม เวลาเราทักไปคุยหรือถามอะไรมันก้อเริ่มไม่ตอบเรา จนมาวันนึ่งมันพาแฟนมันมาเปิดตัวกับเราเเร้วก้อเพื่อนๆ ตอนนั้นแหละที่เรารู้ตัวว่าเรา "ชอบมัน ที่ไม่ใช่ในฐานะเพื่อนสนิท" ตอนที่มันบอกทุกคนว่านี้คือแฟนมัน น้ำตาเราเกือบไหลแต่เราต้องกลั้นไว้เเร้วพูดแซวมันเหมือนที่เพื่อนคนอื่นๆพูดกัน พอมันเปิดตัวแฟนมันเเร้วตอนเลิกเรียนมันเรยมาบอกสาเหตุกับเราว่าทำไมถึงไม่ทำแบบเดิมที่เคยทำ ตอนนั้นเราเสียใจน่ะ เเต่เราต้องแสร้งทำเป็นว่าเราไม่เป็นไร เราเข้าใจมัน เราแอบชอบมันมาตลอดจนถึงม.6 ตลอดเวลาที่ผ่านมามันทะเลาะ มันเลิก มันอกกับแฟนคนไหนมันจะมาหาเราตลอด เราต้องฟังว่ามันรักกับเค้ายังไง มันทะเลาะกับเค้าเรื่องอะไร ต้องทนเห็นมันไปมีความรักกับคนอื่น ต้องให้คำปรึกษาเวลามันทะเลาะกัน ทุกครั้งที่มันทะเลาะกันมันจะมานอนกับเราตลอด เรากับมันสนิทกันมากจนคนที่บ้านเราไม่ได้ว่าอะไรเวลามันมานอนบ้าน เราเลือกที่จะไม่พูดเลือกที่จะทนมาตลอดเลือกที่จะอยู่ในฐานะเพื่อนสนิทจนเราทั้ง2 จบ ม.6 มันได้เรียนต่อ เเต่เราต้องช่วยที่บ้านทำงาน แต่ทุกครั้งที่มันหยุดมันก้อจะมาหาเราที่บ้าน แต่เมื่อสิ้นเดือนก่อนที่ผ่านมาเรากับมันเเร้วก้อเพื่อนๆสมัยมัธยมมาจัดปาร์ตี้ที่บ้านเราก้อสังสรรค์กันปกติ(ตอนนี้เรา 20เเร้วน่ะ ดื่มได้ ) เรารุ้ตัวว่าเราเมา มันก้อรุ้ว่าเราเมา มันก้อเข้ามาดูแลมาพยุงเเร้วแต่ตอนนั้นเราไม่รู้ในหัวเรา เราคิดอะไรอยู่ เราเรยพูดบอกมันไปว่า อยากนอนพาไปนอนหน่อยมันก้อพยุงเราไป พอถึงห้องมันก้อเอาเรานอนลงส่วนตัวมันนั่งอยู่ข้างๆเรา เราจำไม่ได้ว่ามันถามอะไรเรา แต่ตอนนั้นเราไม่ได้สนใจคำพูดของมันเราพุ่งตัวเข้าไปกอดคอมันแร้วเราก้อจูบมัน ตอนนั้นเราไม่รุ้มันทำหน้ายังไงเพราะเราหลับตา มันก้อไม่ได้ดันเราออก เราจูบมันอยู่แบบนั้นสักพักนุ่งเราก้อถอนจูบออก มันมองน่าเรานิ่งๆเงียบๆ เรากำลังจะพูดออกไปว่า "เราชอบมัน" แต่มันพูดแทรกเราขึ้นมาว่า  "กูมีแฟนเเล้ว" แล้วเเฟนมันก้อคือเพื่อนที่ชอบแกล้งเราสมัยประถม เราไม่ได้พูดอะไรกลับไปได้แต่นั่งนิ่งๆเงียบๆ มันมองเราสักพักเเร้วมันก้อเดินออกจากห้องไป มันหายไปเกือบอาทิตย์ เราก้อไม่กล้าที่จะทักไปหามัน ข้อความสุดท้ายในแชทของเรากับมัน คือเรา "ขอโทษมัน" เราคิดว่ามันคงจบลงเเร้วแหละ ไม่เหลือเเล้วเพื่อนสนิทคนเดิม เราทำมันพังเอง  เราเลือกที่จะไม่นึกถึงมันพยายามหาอะไรทำ ไม่ทำให้ตัวเองว่าง จนมาวันนี้.... มันทักมาหาเรา บอกว่ามันเลิกกับแฟนมันเเร้ว ขอคุยด้วยหน่อย เราไม่กล้าที่จะอ่านหรือที่จะตอบกลับไป เรานึกถึงเวลาที่ผ่านมาที่ต้องอดทนอยู่ในฐานะเพื่อนมาตลอด เราทำใจกลับไปมองมันในฐานะเพื่อนอีกต่อไปไม่ได้เเร้ว เราควรทำยังไงต่อไปดี  ควรหยุด หรือควรต้องทำยังไง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่