เราคบแฟนมา6ปีจะเข้าปีที่7แล้ว ตอนนี้เราอายุ33 แฟนอายุ40 แฟนเรามีลูกติด1คน ตอนนี้ลูกชายเขาอายุ7-8ขวบได้ เรามารู้ว่าเขามีลูกหลังจากคบกันได้4-5เดือนแล้ว รู้จากคนอื่นด้วยไม่ใช่รู้จากแฟน ตอนนั้นก็ทะเลาะกันเกือบจะเลิก แต่ก็ผ่านมาได้ มีทะเลาะกันบ้างเพราะเราอยากไปบ้านผู้ชายแต่เขาไม่ยอมพาไป หลักจากนั้น4-5ปีก็แทบไม่ทะเลาะกัน จนมาช่วงสถานการณ์โควิดรายได้แฟนเราลดลงเราจึงต้องเป็นคนช่วยเหลือเขา ช่วยค่าประกันค่าต่อทะเบียนรถปีที่แล้วช่วยไป3หมื่น ส่วนปีนี้ช่วยเขาไป6-7หมื่นได้ ด้วยความที่เราเริ่มอายุเยอะเราก็อยากแต่งงาน แต่แฟนเราไม่พร้อม เขามีภาระผ่อนรถเดือนละหมื่นสาม หนี้บัตรเครดิตอีก3-4พัน ไหนจะค่าน้ำไฟบ้านเขา ดูแลพ่อกับแม่ ทุกเดือนก็แทบจะไม่พอใช้ นั่นเป็นเหตุผลที่เราช่วยเขาเรื่องเงิน เขามีข้อดีคือเขารักเรา ช่วยเราทำงานบ้าน เวลาน้องเราต้องการความช่วยเหลือที่ไม่ใช่เรื่องเงินเขาก็ช่วย หรือเวลามาหาเราเรื่องของกินของใช้เขาจะซื้อเตรียมให้ตลอด เราก็เกรงใจพยายามห้ามเขาแต่เขาก็ไม่ฟัง เรากับแฟนอยู่กันคนละที่ เขาจะมาหาเราอาทิตย์ละครั้ง เราเคยพูดเรื่องแต่งงานแต่เราสังเกตแล้วว่าเขาเครียด และความเป็นไปได้คือไม่มีเลย เราเลยไม่อยากกดดันเขาอีก แต่จนถึงปัจจุบันเราก็ยังไม่เคยไปบ้านแฟน ไม่เคยไปเจอพ่อแม่แฟน ด้วยเหตุผลที่เขาบอกเราว่าเดี๋ยวพาไปแต่ก็ยังไม่เคยเอ่ยปากชวน ส่วนพ่อแม่เราแฟนเคยเจอแล้ว พ่อกับแม่เราก็อยากให้แต่งงาน แต่สถานการณ์แฟนเราก็อย่างที่เล่าโอกาสแต่งยังไม่มี ช่วงนี้เราทะเลาะกับแฟนบ่อย แต่ไม่ได้รุนแรงเพราะเราเลือกที่จะเงียบและประนีประนอม แต่ก็ไม่วายมีเรื่องให้คุยกันไม่รู้เรื่องอยู่ดี เราเลยมีความคิดว่าควรพอแค่นี้ดีมั้ย ถ้าอายุเกิน35เราก็ไม่อยากแต่งงานมีลูกแล้ว เราคงทำงานหาเงินพาพ่อกับแม่ออกเที่ยวออกทำบุญ ใช้ชีวิตคนโสดดูแลพ่อกับแม่ต่อไปได้ใช้เวลากับพ่อแม่มากขึ้น ปัจจุบันเราก็คุยกับพ่อแม่ทุกวันเพียงแต่ไม่ค่อยได้เจอกัน เราก็ลังเลว่าถอยออกมาใช้ชีวิตโสดหรือคบกับเค้าต่อไปเรื่อยๆดีเพราะเค้าก็ยังไม่ได้ทำอะไรผิด
ควรไปต่อหรือพอแค่นี้