สวัสดีค่ะวันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ความรักของเราให้ฟังเป็นประสบการณ์ของเราโดยตรงเลยนะคะทุกคนเราไม่แน่ใจว่าทุกคนถ้าไม่อยู่ในจุดเราจะทำแบบไหนเราเป็นผู้หญิงที่สูงกลางๆประมาณ 169 น้ำหนัก 55 ก็คือไม่ค่อยอ้วนมากเป็นคนสีผิวขาวคิ้วเข้มจมูกพอมีปากพอมีก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเองนะว่าสวยพอไปวัดไปวาได้ก็พอแล้ว มาเริ่มเรื่องเลยนะเราเกิดมาในครอบครัวที่ไม่รวยแล้วก็ไม่สมบูรณ์พ่อกับแม่เราแยกทางกันตั้งแต่ตอนที่เราอายุ 12 จากนั้นเราก็อยู่คนเดียวมาโดยตลอด พ่อกับแม่เราทะเลาะกันเพราะว่าแม่เรามีคนอื่นแล้วก็มีน้องจึงทำให้พ่อกับแม่ต้องเลิกกัน เราก็ทะเลาะกับแม่บ่อยมากเพราะเรื่องที่แม่ทำให้ครอบครัวเราแยกออกจากกัน แล้วพอตอนนั้นเราก็เรียนไปแม่เราก็เพราะเราก็เป็นคนส่งเงินมาให้ จนตอนเราอายุ 14 พ่อเราก็เสียแล้วเหลือแต่แม่ส่วนญาติพ่อของเราเราก็ไม่ได้ติดต่อมันมีเหตุที่ทำให้เราไม่อยากติดต่อญาติฝั่งพ่อตอนพ่อเรายังไม่เสียเพราะเราไม่มีหนี้สินจากไหนเลยแต่พอเราเสียหนี้สินเราก็กลับมาจากไหนก็ไม่รู้มายึดข้าวของสมบัติของพ่อไปหมดส่วนญาติฝั่งแม่ตอนที่เรายังเด็กแต่เรายังพอรู้เรื่องและจำความได้แล้วพี่สาวของแม่ที่เป็นป้าคุยกับแม่แล้วว่าให้เลิกกับพ่อเราเพราะว่าพ่อเราแก่แล้วทำอะไรไม่ได้แล้วเราว่ามันไม่ควรเราโตๆกันแล้วไม่ควรจะอยู่กันให้ครอบครัวเขาแตกแยกเราจึงไม่ติดต่อทั้งญาติฝั่งพ่อและก็ญาติฝั่งแม่เราติดต่อแค่แม่คนเดียวเราไม่ได้อยู่กับแม่เพราะเราคิดว่าเราอยู่ไปเราก็จะต้องเป็นก้างขวางคอเขาแน่ๆเลยเพราะเขามีครอบครัวใหม่ไปแล้วเราจึงย้ายออกมาอยู่ห้องคนเดียวเราก็ไม่ได้เรียนแล้วพ่อแม่เราก็ไม่ส่งเงินให้เราก็ต้องไปทำงานเพราะเราไปทำงานแล้วก็มีแฟน 1 คนตอนนั้นเราอายุ 15 เรามีแฟนคบกันปีแรกเรารู้สึกว่าแฟนคนนี้ไม่ได้เรื่องเลยเขาทักทักหาผู้หญิงไม่รู้กี่คนเราจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อเขามากแต่เขาไม่เคยสนใจเราเลยเราตกเป็นขี้ปากโดนนินทาจากญาติฝั่งเขาซึ่งเขาก็ไม่เคยปกป้องอะไรเราได้เลยโอเคแล้วพอเข้าใจอยู่ว่าเขาเป็นญาติกันแต่คือแม้ในกระทั่งคนที่ทำงานด้วยกันเราโดนที่คนที่ทำงานไม่ชอบ แต่เขากลับไม่เคยพูดปกป้องอะไรเราเลยแล้วก็เอาเรื่องของเราไปเล่าให้คนอื่นฟัง ok ปีแรกเราความรู้สึกเรามันก็เปลี่ยนไปแล้วเราไม่ได้รักกันแบบเดิมแล้วปีที่ 2 เราเก็บเงินซื้อรถ 1 คันด้วยกันโอเคปีที่ 2 เราต้องมีภาระหนี้สินเพิ่มมาแล้วนะคือรถที่ต้องส่งด้วยกันทุกงวดเราก็อยู่กับเขาโดยที่เขาไม่สนใจอะไรเราเลยเราย้ายออกมาอยู่ห้องด้วยกันแต่เขาก็ไม่สนใจอะไรเราเลยสักนิดการที่ย้ายห้องออกมาเพราะคิดว่าจะได้ไม่ต้องมาสวัสดีค่ะวันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ความรักของเราให้ฟังเป็นประสบการณ์ของเราโดยตรงเลยนะคะทุกคนเราไม่แน่ใจว่าทุกคนถ้าไม่อยู่ในจุดเราจะทำแบบไหนเราเป็นผู้หญิงที่สูงกลางๆประมาณ 169 น้ำหนัก 55 ก็คือไม่ค่อยอ้วนมากเป็นคนสีผิวขาวคิ้วเข้มจมูกพอมีปากพอมีก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเองนะว่าสวยพอไปวัดไปวาได้ก็พอแล้ว มาเริ่มเรื่องเลยนะเราเกิดมาในครอบครัวที่ไม่รวยแล้วก็ไม่สมบูรณ์พ่อกับแม่เราแยกทางกันตั้งแต่ตอนที่เราอายุ 12 จากนั้นเราก็อยู่คนเดียวมาโดยตลอด พ่อกับแม่เราทะเลาะกันเพราะว่าแม่เรามีคนอื่นแล้วก็มีน้องจึงทำให้พ่อกับแม่ต้องเลิกกัน เราก็ทะเลาะกับแม่บ่อยมากเพราะเรื่องที่แม่ทำให้ครอบครัวเราแยกออกจากกัน แล้วพอตอนนั้นเราก็เรียนไปแม่เราก็เพราะเราก็เป็นคนส่งเงินมาให้ จนตอนเราอายุ 14 พ่อเราก็เสียแล้วเหลือแต่แม่ส่วนญาติพ่อของเราเราก็ไม่ได้ติดต่อมันมีเหตุที่ทำให้เราไม่อยากติดต่อญาติฝั่งพ่อตอนพ่อเรายังไม่เสียเพราะเราไม่มีหนี้สินจากไหนเลยแต่พอเราเสียหนี้สินเราก็กลับมาจากไหนก็ไม่รู้มายึดข้าวของสมบัติของพ่อไปหมดส่วนญาติฝั่งแม่ตอนที่เรายังเด็กแต่เรายังพอรู้เรื่องและจำความได้แล้วพี่สาวของแม่ที่เป็นป้าคุยกับแม่แล้วว่าให้เลิกกับพ่อเราเพราะว่าพ่อเราแก่แล้วทำอะไรไม่ได้แล้วเราว่ามันไม่ควรเราโตๆกันแล้วไม่ควรจะอยู่กันให้ครอบครัวเขาแตกแยกเราจึงไม่ติดต่อทั้งญาติฝั่งพ่อและก็ญาติฝั่งแม่เราติดต่อแค่แม่คนเดียวเราไม่ได้อยู่กับแม่เพราะเราคิดว่าเราอยู่ไปเราก็จะต้องเป็นก้างขวางคอเขาแน่ๆเลยเพราะเขามีครอบครัวใหม่ไปแล้วเราจึงย้ายออกมาอยู่ห้องคนเดียวเราก็ไม่ได้เรียนแล้วพ่อแม่เราก็ไม่ส่งเงินให้เราก็ต้องไปทำงานเพราะเราไปทำงานแล้วก็มีแฟน 1 คนตอนนั้นเราอายุ 15 เรามีแฟนคบกันปีแรกเรารู้สึกว่าแฟนคนนี้ไม่ได้เรื่องเลยเขาทักทักหาผู้หญิงไม่รู้กี่คนเราจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อเขามากแต่เขาไม่เคยสนใจเราเลยเราตกเป็นขี้ปากโดนนินทาจากญาติฝั่งเขาซึ่งเขาก็ไม่เคยปกป้องอะไรเราได้เลยโอเคแล้วพอเข้าใจอยู่ว่าเขาเป็นญาติกันแต่คือแม้ในกระทั่งคนที่ทำงานด้วยกันเราโดนที่คนที่ทำงานไม่ชอบ แต่เขากลับไม่เคยพูดปกป้องอะไรเราเลยแล้วก็เอาเรื่องของเราไปเล่าให้คนอื่นฟัง ok ปีแรกเราความรู้สึกเรามันก็เปลี่ยนไปแล้วเราไม่ได้รักกันแบบเดิมแล้วปีที่ 2 เราเก็บเงินซื้อรถ 1 คันด้วยกันโอเคปีที่ 2 เราต้องมีภาระหนี้สินเพิ่มมาแล้วนะคือรถที่ต้องส่งด้วยกันทุกงวดเราก็อยู่กับเขาโดยที่เขาไม่สนใจอะไรเราเลยเราย้ายออกมาอยู่ห้องด้วยกันแต่เขาก็ไม่สนใจอะไรเราเลยสักนิดการที่ย้ายห้องออกมาเพราะคิดว่าจะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกันเรื่องครอบครัวของเขาแต่สุดท้ายก็ย้ายออกมาเขากลับไม่สนใจเราเลยสักนิดเราไปทำงานก็ไปทำงานคนเดียวกินข้าวคนเดียวเลยนะคนเดียวใช้ชีวิตประจำวันอยู่คนเดียวเหมือนไม่มีเขาอีกต่อไปแล้วปีที่ 2 สิ้นปีเราทะเลาะกันบ่อยเราบอกเลิกเขาหลายรอบมากเพราะว่าอยากจบปัญหาแต่สุดท้ายก็ยังเลิกไม่ได้เพราะว่ามีภาระหนี้สินที่ต้องทำร่วมกันที่ต้องใช้หนี้ร่วมกันก็คือรถปีที่ 3 เราเริ่มทะเลาะกันหนักขึ้นแล้วเราก็ไม่เริ่มรักกันแบบเดิมจากอะไรที่เคยหวานก็กลายเป็นไม่มีรสชาติกลายเป็นรสจืดเรายิ่งห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆจากที่เคยอยู่ด้วยกันแบบมีความสุขสุดท้ายเราก็ไม่มีความสุขเลยสักนิดเราจึงหางานใหม่แล้วตอนนั้นเขาก็กลับไปคุยกับครอบครัวเขาแล้วเราก็เลยกลับบ้านครอบครัวเขาแล้วก็ไปนอนเล่นนั่งเล่นอะไรกันก็คือโอเคปรองดองกันเรียบร้อยแล้วเราอ่ะก็ติดโควิดจากบ้านเขาเราก็เลยต้องไปกักตัวไปรักษาตัวที่บ้านเขาแล้วมีอยู่วันนึงที่เรากักตัวอยู่เรารักษาตัวอยู่แล้วทะเลาะกับเขาเรื่องรถเพราะว่าเงินไม่มีส่งรถเขากลับทำตัวแบบไม่รู้สึกไม่รู้ภาษีภาษาอะไรเลยว่าเราเครียดอยู่นะเราแค่ต้องการกำลังใจว่าเออเธอสู้ๆนะเพราะเราเป็นคนทักไปหาคนอื่นไปหากูหยิบยืมจากคนอื่นครอบครัวเขาไม่เคยช่วยอะไรเราเลยสักนิดนึงเราทะเลาะกันไปทะเลาะกันมาเราก็โดนตบตีใช่ทุกคนอ่านไม่ผิดเขาตบตีเรามาตลอดทั้งปีแรกทั้งปี 2 แล้วก็ปีที่ 3 แล้วคำนึงที่เราโดนตีแล้วเราทะเลาะกันหนักมากยายเขากลับพูดเข้าข้างหลานตัวเองว่าถ้าเมียดีผัวจะไม่ตีเมียเราอยากจะบอกนะว่าก่อนที่เราจะร้ายเราก็เคยเป็นคนดีมาก่อนเราจงรักภักดีต่อทุกคนต่อให้ทุกคนว่ายังไงเราเราก็ไม่สนแต่สุดท้ายแล้วเรารู้แล้วว่าการทำดีมันไม่ได้มีค่าอะไรกับผู้ชายคนนี้เราก็ไม่ควรที่จะทำดีต่อไปแล้วพ่อเข้าปีที่ 3 เราจึงปล่อยให้ตัวเองโดนยึดรถภาระของเราและเขาจบกันเป็นที่เรียบร้อย เราก็ได้มีคนอีกคนนึงเข้ามาในชีวิตเราแต่เขาเข้ามาไม่ถูกต้องเพราะตอนที่เขาเข้ามาเขาเข้ามาในปีที่ 2 ตอนที่เรายังคบกับคนนี้อยู่แต่เราก็จะเล่าเหตุผลนะว่าทำไมเราถึงต้องทำแบบนี้ทะเลาะกันเรื่องครอบครัวของเขาแต่สุดท้ายก็ย้ายออกมาเขากลับไม่สนใจเราเลยสักนิดเราไปทำงานก็ไปทำงานคนเดียวกินข้าวคนเดียวเลยนะคนเดียวใช้ชีวิตประจำวันอยู่คนเดียวเหมือนไม่มีเขาอีกต่อไปแล้วปีที่ 2 สิ้นปีเราทะเลาะกันบ่อยเราบอกเลิกเขาหลายรอบมากเพราะว่าอยากจบปัญหาแต่สุดท้ายก็ยังเลิกไม่ได้เพราะว่ามีภาระหนี้สินที่ต้องทำร่วมกันที่ต้องใช้หนี้ร่วมกันก็คือรถปีที่ 3 เราเริ่มทะเลาะกันหนักขึ้นแล้วเราก็ไม่เริ่มรักกันแบบเดิมจากอะไรที่เคยหวานก็กลายเป็นไม่มีรสชาติกลายเป็นรสจืดเรายิ่งห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆจากที่เคยอยู่ด้วยกันแบบมีความสุขสุดท้ายเราก็ไม่มีความสุขเลยสักนิดเราจึงหางานใหม่แล้วตอนนั้นเขาก็กลับไปคุยกับครอบครัวเขาแล้วเราก็เลยกลับบ้านครอบครัวเขาแล้วก็ไปนอนเล่นนั่งเล่นอะไรกันก็คือโอเคปรองดองกันเรียบร้อยแล้วเราอ่ะก็ติดโควิดจากบ้านเขาเราก็เลยต้องไปกักตัวไปรักษาตัวที่บ้านเขาแล้วมีอยู่วันนึงที่เรากักตัวอยู่เรารักษาตัวอยู่แล้วทะเลาะกับเขาเรื่องรถเพราะว่าเงินไม่มีส่งรถเขากลับทำตัวแบบไม่รู้สึกไม่รู้ภาษีภาษาอะไรเลยว่าเราเครียดอยู่นะเราแค่ต้องการกำลังใจว่าเออเธอสู้ๆนะเพราะเราเป็นคนทักไปหาคนอื่นไปหากูหยิบยืมจากคนอื่นครอบครัวเขาไม่เคยช่วยอะไรเราเลยสักนิดนึงเราทะเลาะกันไปทะเลาะกันมาเราก็โดนตบตีใช่ทุกคนอ่านไม่ผิดเขาตบตีเรามาตลอดทั้งปีแรกทั้งปี 2 แล้วก็ปีที่ 3 แล้วคำนึงที่เราโดนตีแล้วเราทะเลาะกันหนักมากยายเขากลับพูดเข้าข้างหลานตัวเองว่าถ้าเมียดีผัวจะไม่ตีเมียเราอยากจะบอกนะว่าก่อนที่เราจะร้ายเราก็เคยเป็นคนดีมาก่อนเราจงรักภักดีต่อทุกคนต่อให้ทุกคนว่ายังไงเราเราก็ไม่สนแต่สุดท้ายแล้วเรารู้แล้วว่าการทำดีมันไม่ได้มีค่าอะไรกับผู้ชายคนนี้เราก็ไม่ควรที่จะทำดีต่อไปแล้วพ่อเข้าปีที่ 3 เราจึงปล่อยให้ตัวเองโดนยึดรถภาระของเราและเขาจบกันเป็นที่เรียบร้อย เราก็ได้มีคนอีกคนนึงเข้ามาในชีวิตเราแต่เขาเข้ามาไม่ถูกต้องเพราะตอนที่เขาเข้ามาเขาเข้ามาในปีที่ 2 ตอนที่เรายังคบกับคนนี้อยู่แต่เราก็จะเล่าเหตุผลนะว่าทำไมเราถึงต้องทำแบบนี้เหตุผลคือนะปีที่ 2 เราอายุประมาณ 16 ในระหว่างที่เรากับเขาห่างกันแล้วก็แยกจากกันเราได้ไปคุยกับผู้ชายคนนึงซึ่งขอแทนชื่อว่า พี่ต อายุ 18-19 เขาสูงประมาณเท่าเราเลยกว่าเรานิดเดียวหุ่นก็ไม่อ้วนไม่ผอมเกินไปกำลังดีจมูกโด่งหน้าคมๆสีผิวเข้มเหมือนออกไปทางใต้แต่เขาดูดีนะ เขาเป็นคนที่เราปลื้มมากตอนที่ก่อนที่เราจะคบกะแฟนคนนี้เราก็ได้มาคุยกับเขาแล้วรู้สึกว่าเขาม่อผู้หญิงมาก ในชีวิตเราอ่ะ จะไม่เจอคนที่ซื่อสัตย์กับเราจริงๆหรอเราก็คุยกับเขาไปเรื่อยๆแต่ก็ไปไปมาๆแล้วก็หายหายไปเราก็เลยไม่แน่ใจในตัวเขาว่าเราควรจะคุยกันต่อดีไหมแต่เราก็ยังรู้ว่าเราก็ยังมีคนนึงที่ยังอยู่ห้องด้วยกันยังนอนอยู่ด้วยกันยังนอนเตียงเดียวกันเราก็เลยไม่ได้สนใจหรือคุยอะไรกันมากเพราะเราก็คิดว่าเราก็ยังเคลียร์ฝั่งทางนี้ไม่จบเหตุผลคือนะปีที่ 2 เราอายุประมาณ 16 ในระหว่างที่เรากับเขาห่างกันแล้วก็แยกจากกันเราได้ไปคุยกับผู้ชายคนนึงซึ่งขอแทนชื่อว่า พี่ต อายุ 18-19 เขาสูงประมาณเท่าเราเลยกว่าเรานิดเดียวหุ่นก็ไม่อ้วนไม่ผอมเกินไปกำลังดีจมูกโด่งหน้าคมๆสีผิวเข้มเหมือนออกไปทางใต้แต่เขาดูดีนะ เขาเป็นคนที่เราปลื้มมากตอนที่ก่อนที่เราจะคบกะแฟนคนนี้เราก็ได้มาคุยกับเขาแล้วรู้สึกว่าเขาม่อผู้หญิงมาก ในชีวิตเราอ่ะ จะไม่เจอคนที่ซื่อสัตย์กับเราจริงๆหรอเราก็คุยกับเขาไปเรื่อยๆแต่ก็ไปไปมาๆแล้วก็หายหายไปเราก็เลยไม่แน่ใจในตัวเขาว่าเราควรจะคุยกันต่อดีไหมแต่เราก็ยังรู้ว่าเราก็ยังมีคนนึงที่ยังอยู่ห้องด้วยกันยังนอนอยู่ด้วยกันยังนอนเตียงเดียวกันเราก็เลยไม่ได้สนใจหรือคุยอะไรกันมากเพราะเราก็คิดว่าเราก็ยังเคลียร์ฝั่งทางนี้ไม่จบต่อเม้นด้านล่างนะคะ
ตกเป็นมือที่สาม