สวัสดีเพื่อนๆนักกินทุกท่านครับ วันนี้ผมก็กลับจากไปเที่ยวหัวหินกับครอบครัวพร้อมกลับมากร่ำศึกงานหนักในกรุงเทพต่อ
แต่ทำงานได้ไม่กี่วันก็รู้สึกเหนื่อยล้า เลยอยากหาบุฟเฟ่ต์หม้อไฟเกาหลีมาช่วยเพิ่มพลัง ซึ่งร้านที่เล็งไว้ครั้งนี้ก็คือ Red Sun ที่ในช่วงนี้มีโปรบุฟเฟ่ต์พอดีเลยสบโอกาสเหมาะที่จะไปลอง

วันนี้มาที่สาขา เซ็นทรัลพระรามเก้า ร้านอยู่สุดปลายทางฝั่งร้าน B2S เลย 

มาหลังมื้อเที่ยงรานเลยค่อนข้างจะโล่ง แต่ผ่านไปสักพักก็มีเข้ามาเรื่อยๆ

บุฟเฟ่ต์มีทั้งหมด 3 ราคาด้วยกัน ทุกโปรกินได้ชั่วโมงครึ่ง ตัวแพงสุดราคา 599+ บาท น้ำรีฟิลบวกเพิ่มอีก 39 (เบ็ดเสร็จหัวละ 701 บาท) ถึงจะสามารถกินของทะเล กุ้งดอง และของหวานได้ นานทีมีหน ก็จัดหนักสักหน่อยครับ 

ร้านนี้ไม่มีเดินตัก อยากกินอะไรก็กาสั่งเอาเลย รวมไปถึงน้ำซุปและน้ำดื่มด้วย  

เครื่องเคียงที่ให้มาด้วย ตามหลักสูตรร้านอาหารเกาหลี มีข้าวโพดผัด กะหล่ำซอย ผักกาดกิมจิ กับอะไรสักอย่างกรอบๆเหนียวๆ น่าจะเป็นก้านผักอะไรสักอย่างมั้ง

ในราคา 701 บาทนั้นจะสามารถเลือกซุปได้เพียง 1 ใน 4 แบบต่อหม้อเท่านั้น และเนื่องจากครั้งนี้ผมมาคนเดียว(เหมือนหลายๆครั้ง)ก็เลยจัดจาจังมา 
ซึ่งหม้อก็มาพร้อมกับเส้นหมี ซอสเกาหลี ต๊อกและผักมาจนล้นปรี่ ด้านข้างๆของหม้อก็มี ข้าวโพด กิมจิ ของทอด(เป็นวุ้นเส้นห่อสาหร่ายทอดกับเกี๊ยวซ่ากุ๊ยช่าย) และไข่ และก็ชีส แตที่แสบคือ ทางร้านไม่ได้บอกอะไรผมสักอย่างว่าหม้อมาพร้อมเครื่องเคียงมหาศาลขนาดนี้ 
ก็กดไปดิ ทั้งต๊อกทั้งเต้าหู้ ลำบากกระเพาะอีกแล้ว

มาแล้วกับชุดรวมทะเล มีทั้งกุ้งขาวแกะเปลือก รสชาติกรุบกรอบหวานชุ่มน้ำซุปเวลาต้ม หมึกสายหนึบดีและออกรสเค็มทะเลนิดหน่อย
และหอยแมลงภู่เนื้อแน่น หวานหอมคาวพอประมาณ

ต่อจากทะเลก็ชุดหมูฮิตแบบจุกๆ แต่ละชิ้นใหญ่ๆทั้งนั้น สันคอหมูค่อนข้างหนา เคียวยากไปหน่อย แต่รสชาติใช้ได้ สามชั้นหอมอร่อยเอาเรื่อง
กับแฮมหั่นเต๋านี่ต้องเอาลงร่องข้างๆอย่างเดียว รสชาติเหมือนแฮมรมควันทั่วไป

เนื้อบริสเก็ต ชิ้นบางๆจุ่มในซุปแกว่งสักครู่แล้วเอาเข้าปาก อร่อยแบบนุ่มนวล

เต้าหู้ปลากับโอเด้งไส้กุ้ง รสชาติร่วนๆ ได้กลิ่นหอมของปลาป่นและน้ำซุปที่เข้มข้นเข้าเนื้อ 

ต๊อกแบบมันม่วงและไส้ชีส หนึบเหนียวและข้นแป้ง รสชาติไม่ต่างกันมากนัก

มากันที่ไฮไลต์ของราคา 701 บาทกันแล้ว นั่นคือ กุ้งดอง! เดี๋ยวนี้เขาฮิตกัน ร้านบุฟเกาหลีแพงๆต้องมีไอ้เจ้าตัวนี้ สั่งมาลองสองแบบ
คือ แบบดองซีอิ๊วเกาหลี รสชาติหวานปนเค็มเข้มข้น เผ็ดปากนิดๆ เนื้อกุ้งกรอบอร่อยข้นๆ
และแบบดองซอสโคชู รสเผ็ดกลางๆ และได้กลิ่นเฉพาะของซอสโคชู กุ้งเนื้อกรอบข้นแบบอันแรก แต่รวมๆแล้ว ดองซีอิ๊วแซ่บกว่า

มีอะไรก็ใส่เข้าไป หมดหม้อนี้ก็แทบจุกละนะ ทั้งซอสทั้งซุปและเครื่องต่างๆที่ใส่เข้าไป รสเข้มมากจนลิ้นระบมเลยล่ะ

สามชั้นอร่อยสุดละสำหรับหม้อไฟนี้

กุ้งดองซิอิ๊วหวานอมเค็มเข้มๆกับน้ำจิ้มซีฟู้ดซึ่งไม่ค่อยหอมเท่าไหร่แต่ก็ยังแจ่มแมวอยู่ดี

ไก่บอนฮันนี่ เนื้อสันไก่ทอดแป้งกรอบๆคลุกด้วยผงหวานๆเหมือนข้าวโพดเชื่อมยังไงยังงั้น ไม่ได้กลิ่นน้ำผึ้งอะไรเท่าไหร่ เนื้อในแน่น อร่อยดี

เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน(มั้ง) ข้าวผัดเร้ดซันหน้าไข่กุ้ง ข้าวร่วนดีมาก ไข่กุ้งค่อนข้างจะหวาน เคี้ยวกรุบกรับคู่กับข้าวโพดและข้าวผัด
ที่เข้มไปด้วยซอส พริกไทยและสาหร่าย ถือว่าอร่อยใช้ได้นะ แต่เบื้องหลังความอร่อยนี้ คือความพลาดอีกอย่างของการรีวิวครั้งนี้!! 

เพราะไม่ได้จัดมาจานเดียว แต่สั่งมาถึงสาม!!  ในเมนูเขียนว่าไซส์ S ไอ้เราก็ชะล่าใจนึกว่าให้มาเป็นถ้วยเลยจัดมาซะเยอะ ผ่ามเข้าให้ ยกกะทะมาเลย ว้อยยยยย จะหมดไหมเนี่ยยยย

ข้าวเขย่าโดชิรัก อัดแน่นมาด้วยข้าวล้วนๆ โรยด้วยผงงา พริกไทย และน่าจะมีเกลือด้วยเพราะได้รสเค็มแบบจัดๆ มีเครื่องเคียงอย่างไข่ดาว สาหร่ายแห้ง ปลากะตัก กิมจิ และถั่วดำ ซึ่งทุกอย่างล้วนเค็มทั้งหมด  แทนที่จะได้ข้าวมาดับรสจัดของหม้อไฟ กลายเป็นหนักกว่าเดิม ทำร้ายลิ้นคนกินชัดๆ 

ยัง ยังไม่หมด!! มาอีกถาดใหญ่ๆกับข้าวเร้ดซันจิมบิบับ แทบจะเหมือนข้าวเร้ดซันทุกประการ เพียงแค่เพิ่มปลาทูน่าบดเข้าไปเท่านั้นเอง 
สั่งมาเพื่อไรเนี่ยตู สุดท้ายต้องมารับกรรมกินเอง T T

ระหว่างย่อยข้าวไป ก็เอาชีสมาพันกินกับอย่างอื่นเล่นๆ (เกี๊ยวซ่ารสชาติเจื่อนมากกก)

ไข่ขอบกะทะร้อนๆรสชาติเบาๆ


กินไข่ขอบกะทะไปจนแน่น ลืมไปว่าสั่งไข่ครันจิ้มมาด้วย เป็นไข่ตุ๋นกับชีสเค็มมัน หอมไข่และชีสอบ ถือว่าโอเคนะ จานอื่นไว้ทีหลังเลย 
รีบจ้วงอันนี้ลงท้องให้ไว เดี๋ยวเย็นละจะรสชาติตก

จนแล้วจนรอดก็กินไม่หมด ข้าวผัดหมดไปจานเดียวเอง อีกสองจานเหลืออย่างละครึ่ง ว่าแล้วก็สั่งไอศครีมมาปิดจบกันเถอะ
เลือกมาสองรส คือ ครันชียูจา กับ สตรอเบอรี่ครัมเบิล (ดูเมนูอาหารแต่ละอย่างของพี่แกดิ...)ทั้งสองถ้วยเป็นไอศครีมวานิลา 
โรยผงคุกกี้ ต่างกันแค่ซอสราดเท่านั้นเอง 
ยูจา เป็นซอสส้ม ซึ่งรสชาติหวานแสบลิ้นมากๆ แถมกลิ่นส้มคือฉุนแปลกๆ ผมนี่วางทิ้งเลย 
ส่วน สตรอเบอรี่ค่อยดีขึ้นหน่อยได้กลิ่นหอมๆของซอสสตรอกับแป้งกรุบๆ

ตัดเกรด
รสชาติอาหาร : ****
ซุปจางจังของร้านนี้จัดว่าหวานข้นมาก พวกเนื้อทั้งหลายพอต้มนานๆถูกเคลือบซะยังกับเนื้อผัดซีอิ๊ว ซึ่งจะว่าไปมันก็อร่อยแหละ ถ้าข้าวที่สั่งมามันรสอ่อนกว่านี้ นี่เข้มมันหมดทุกอย่าง ข้าวผัดก็รสเข้ม กินเปล่าๆได้อารมณ์เหมือนกินร้าน PepperLucnh เพลินปากอยู่ ข้าวกล่องนี่เค็มจัดเลย ไม่ไหวๆ
ไก่ทอดดีงาม กุ้งดองอร่อยควรต้องโดน โดยรวมแล้วถ้าลดความเค็มลงอีกหน่อยจะดีมากเลย

อร่อยมากสุด : กุ้งดองน้ำปลา
อร่อยสุดยอดกรอบและเข้มเครื่องเข้าเนื้อ จ่าย 700 ได้กินนี่สักสองจานก็ถือว่าคุ้มละ 

อร่อยน้อยสุด : ไอศครีมซอสส้ม
ไม่รู้ว่าผมกินเค็มมาเยอะแล้วลิ้นเพี้ยนรึเปล่า แต่หวานแสบลิ้นแถมกลิ่นซอสส้มมันฉุนเกินอ่ะ 

บรรยากาศในร้าน : *****
จัดได้สวยงามดีทั้งในและนอกร้าน โต๊ะกว้างเก้าอี้นั่งสบาย อากาศเย็นดี ไม่อบอ้าวแม้อยู่หน้าหม้อร้อนๆ

การบริการ : ****1/2
หักแค่เรื่องเดียว ไม่แนะนำเรื่องอาหารให้ลูกค้า นอกนั้นทำได้ดีมากทั้งการบริการเติมน้ำ เสิร์ฟ คิดเงิน ทำได้เร็ว บริการได้สุภาพดีด้วย

ความหลากหลาย : *****
เยอะมากจนสั่งไม่หมด คงเพราะมาคนเดียวด้วย แถมแต่ละอย่างนี่มาอย่างเบิ้มๆ ตัดกำลังทั้งนั้น 

ราคา : **1/2
รุนแรงเอาเรื่องเลย ที่จริงถ้ารวมค่าน้ำไปด้วยน่าจะเหมาะสมกว่านี้นะ

การเข้าถึง : ****1/2
ถ้ามาจากตรงจุดจอดรถก็ถือว่าต้องเดินไกลเอาการ แต่ก็สังเกตุไม่ยากครับ ตรงลิ่วมาเรื่อยๆ เจอ B2S ก็เห็นละ

ความคุ้มค่า : ****
ส่วนตัวผมมองว่าคุ้มค่าในระดับนึงนะ เพราะอาหารอร่อยดี เพียงแต่ควรปรุงรสให้อ่อนลงสักหน่อย และลดขนาดของจานข้าวลงให้พอกินจะดีมาก จะได้ไม่ต้องเหลือ(ส่วนนึงยอมรับว่าผิดเองที่สั่งไม่ดูก่อน และก็ขอบคุณน้องพนักงานที่เข้าใจและไม่คิดเงินเพิ่ม) ถ้าอยากมาลองก็พาเพื่อนมาด้วยครับจะได้กินครบๆหน่อย ใครไปสาขาอื่นหรือไปลองหลังผมก็มาแสดงความเห็นกันได้ว่าข้าวเยอะเท่านี้ไหม ซุปเค็มไปเปล่า มาเล่าสู่กันฟังได้ เหล่านักกินทั้งหลายที่
เล็งร้านนี้อยู่ รีบเข้าครับ บุฟเฟ่ต์จะหมดเขตสิ้นเดือนนี้แล้วนะ 

ภาพรวม : ****