แฟนเราเขาเคยเป็นเซลมาก่อนคะ เราคิดว่าเขาคงจะชอบงานขาย เพราะเขาทำยอดได้ดีตลอดในตอนนั้น (ซึ่งแสดงว่าเขาต้องกล้าแสดงออกมากๆ)
จนลาออกและมาแต่งงานกับเรา
เรามีงานประจำ ชอบขายของออนไลน์เสริม ตอนนั้นขายยา แฟนก็โอเคค่ะ ไม่ได้ห้ามอะไร แต่ยอดขายไม่ดี
จนเมาขายเสื้อผ้ามือสองที่ต้องลงให้ลูกค้าเลือก แฟนคัดค้านตลอด แต่เราก็ยืนยันจะทำ แฟนไม่เคยช่วยเลยแม้กระทั่งยกผ้าช่วยหรือส่งของให้
(เราขับมอเตอร์ไซเอาของไปขาย ทำทุกอย่างคนเดียว)
จนแฟนถามว่าขายของเป็นยังไง ของเหลือเยอะ มันจะได้ทุนคืนหรอ ซึ่งเราก็ตอบไปว่า ทุนมันได้คืนตั้งนานแล้ว ตอนนี้ได้กำไรเป็นหมื่นแล้ว
ก็เอาบัญชีให้ดู เขาก็ดีใจค่ะ ไม่คิดว่ามันจะขายได้ดี (แต่ก็ยังไม่คิดจะช่วยขายเลย จนรู้ว่าเราท้องเราก็เลยเลิกทำเพราะมันต้องยกของหนัก)
จนตอนคลอดแล้ว เราขายของออนไลน์ ขายขนม ก็ขับรถมอไซไปรับของเอง ส่งเอง ออเดอร์ถล่ม ถือว่าโอเคมาก
แฟนก็ยังไม่ช่วยส่งหรือสนับสนุนอะไรเหมือนเดิม
จนตอนนี้เปิดร้านขายของ แฟนก็ยังบอกว่าไม่อยากยุ่ง ไม่อยากช่วย เพราะไม่ได้อยากทำ
(เขาชอบบอกว่าเราทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ขายได้ดีแล้วก็เลิกทำ เพราะเราเหนื่อยไง ทำทุกอย่างคนเดียวหมด บอกให้ช่วยก็ไม่พอใจ มันถึงไปต่อไม่ได้)
เราอยากรู้ว่าเพราะอะไรแฟนเราถึงไม่ช่วยหรือไม่สนับสนุนการขายของ ของเราเลย มีเหตุผลอะไร
บางทีก็คิดว่า เราแย่หรือเปล่า เราผิดหรือเปล่า ที่คิดอยากจะหารายได้เสริมแล้วมันทำให้เขาต้องวุ่นวาย
บางทีก็คิดว่า เราควรหยุดหารายได้จากทางอื่น ทำงานประจำอย่างเดียวก็พอ
(คำว่าไม่สนับสนุนของเราหมายถึง เขาไม่เคยให้คำปรึกษา ไม่เคยให้คำแนะนำ พูดแค่ว่า ไม่ใช่เรื่องของเขา เขาไม่ได้เป็นคนอยากทำมัน คำพูดพวกนี้มันบันทอนความรู้สึกค่ะ เขาจะพูดแบบนี้ทุกครั้งที่เราขายของถึงมันจะขายดีขนาดไหนแต่คนที่อยู่ด้วยกันไม่เคยซัพพอร์ตความคิด ไม่ซัพพอร์ตจิตใจเรา
ยังไงมันก็มีแต่เราที่เหนื่อยสร้างมันอยู่คนเดียว)
สิ่งที่เราคิดไว้ สาเหตุที่แฟนไม่สนับสนุน
1) อายที่จะต้องมาขายของ
2) คิดว่าช่วยแล้วไม่ได้เงิน (ใช้คนละกระเป๋า แต่ค่าใช้จ่ายทุกอย่างออกช่วยกันแบ่งกันจ่าย เงินมีเท่าไหร่เห็นด้วยกันทั้งสองฝ่ายไม่ได้ปิด)
ใครมีความเห็นยังไงบ้างค่ะ
(ขอเพิ่มเติมนะคะ เรากับแฟนแต่งงานกันแล้ว ขอใช้คำว่าแฟนแทนคำว่าสามีนะคะ)
มีสาเหตุอะไรที่ ผู้ชายถึงไม่ชอบขายของหรือไม่ยินยอมสนับสนุน
จนลาออกและมาแต่งงานกับเรา
เรามีงานประจำ ชอบขายของออนไลน์เสริม ตอนนั้นขายยา แฟนก็โอเคค่ะ ไม่ได้ห้ามอะไร แต่ยอดขายไม่ดี
จนเมาขายเสื้อผ้ามือสองที่ต้องลงให้ลูกค้าเลือก แฟนคัดค้านตลอด แต่เราก็ยืนยันจะทำ แฟนไม่เคยช่วยเลยแม้กระทั่งยกผ้าช่วยหรือส่งของให้
(เราขับมอเตอร์ไซเอาของไปขาย ทำทุกอย่างคนเดียว)
จนแฟนถามว่าขายของเป็นยังไง ของเหลือเยอะ มันจะได้ทุนคืนหรอ ซึ่งเราก็ตอบไปว่า ทุนมันได้คืนตั้งนานแล้ว ตอนนี้ได้กำไรเป็นหมื่นแล้ว
ก็เอาบัญชีให้ดู เขาก็ดีใจค่ะ ไม่คิดว่ามันจะขายได้ดี (แต่ก็ยังไม่คิดจะช่วยขายเลย จนรู้ว่าเราท้องเราก็เลยเลิกทำเพราะมันต้องยกของหนัก)
จนตอนคลอดแล้ว เราขายของออนไลน์ ขายขนม ก็ขับรถมอไซไปรับของเอง ส่งเอง ออเดอร์ถล่ม ถือว่าโอเคมาก
แฟนก็ยังไม่ช่วยส่งหรือสนับสนุนอะไรเหมือนเดิม
จนตอนนี้เปิดร้านขายของ แฟนก็ยังบอกว่าไม่อยากยุ่ง ไม่อยากช่วย เพราะไม่ได้อยากทำ
(เขาชอบบอกว่าเราทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ขายได้ดีแล้วก็เลิกทำ เพราะเราเหนื่อยไง ทำทุกอย่างคนเดียวหมด บอกให้ช่วยก็ไม่พอใจ มันถึงไปต่อไม่ได้)
เราอยากรู้ว่าเพราะอะไรแฟนเราถึงไม่ช่วยหรือไม่สนับสนุนการขายของ ของเราเลย มีเหตุผลอะไร
บางทีก็คิดว่า เราแย่หรือเปล่า เราผิดหรือเปล่า ที่คิดอยากจะหารายได้เสริมแล้วมันทำให้เขาต้องวุ่นวาย
บางทีก็คิดว่า เราควรหยุดหารายได้จากทางอื่น ทำงานประจำอย่างเดียวก็พอ
(คำว่าไม่สนับสนุนของเราหมายถึง เขาไม่เคยให้คำปรึกษา ไม่เคยให้คำแนะนำ พูดแค่ว่า ไม่ใช่เรื่องของเขา เขาไม่ได้เป็นคนอยากทำมัน คำพูดพวกนี้มันบันทอนความรู้สึกค่ะ เขาจะพูดแบบนี้ทุกครั้งที่เราขายของถึงมันจะขายดีขนาดไหนแต่คนที่อยู่ด้วยกันไม่เคยซัพพอร์ตความคิด ไม่ซัพพอร์ตจิตใจเรา
ยังไงมันก็มีแต่เราที่เหนื่อยสร้างมันอยู่คนเดียว)
สิ่งที่เราคิดไว้ สาเหตุที่แฟนไม่สนับสนุน
1) อายที่จะต้องมาขายของ
2) คิดว่าช่วยแล้วไม่ได้เงิน (ใช้คนละกระเป๋า แต่ค่าใช้จ่ายทุกอย่างออกช่วยกันแบ่งกันจ่าย เงินมีเท่าไหร่เห็นด้วยกันทั้งสองฝ่ายไม่ได้ปิด)
ใครมีความเห็นยังไงบ้างค่ะ
(ขอเพิ่มเติมนะคะ เรากับแฟนแต่งงานกันแล้ว ขอใช้คำว่าแฟนแทนคำว่าสามีนะคะ)