เนา ใน มรรค ธรรม (share)

....ปัญญาธรรมตระหนักไว้.........เที่ยงตรง พุทธะ-"ตื่นรู้"จง.....................ประจักษ์แจ้ง กาลามสูตรพึงคง....................ยึดมั่น ขจัดอวิชชาย้อนแย้ง................สลัดสิ้น"ติดตน&q

ในข้อว่า โดยสุญญตาและโดยเป็นธรรมอันเดียวกันเป็นต้น นี้พึงทราบโดยสภาพว่างก่อน.          จริงอยู่ โดยปรมัตถ์ สัจจะทั้งหมดทีเดียว พึงทราบว่า เป็นสภาพว่าง เพรา

@ พึงดำรงสมดุล...............เจือจุนรักโอบเอื้อ เกิดดับสานสืบเชื้อ.............ช่วยหล้าโลกสวรรค์ @ มรรคาธรรม"ธรรมดา"...ไป่ใฝ่หาโลกย์ร้อน สันติสุขใช่ใครป้อน............แค่ค้น"พ้นตน"

ร่ายสุภาพ @ รักคือธรรมแท้เที่ยง บ่เบี่ยงเพราะฤทธิ์อวิชชา ฤ ตัณหาโลภโกรธหลง รักมั่นคงสันติสงบ เคารพสิทธิ์ศักดิ์ศรี เมตตามีต่อผู้ ร่วมโลกย์ทุกข์สุขสู้ สลัดพ้น”ตัวตน” โคลงสี่สุภาพ @ ไป่บ่น

ร่ายสุภาพ ....รักคือธรรมแท้เที่ยง...........บ่เบี่ยงเพราะฤทธิ์อวิชชา ฤ ตัณหาโลภโกรธหลง..........รักมั่นคงสันติสงบ เคารพสิทธิ์ศักดิ์ศรี................เมตตามีต่อผู้ ร่วมโลกย์ทุกข์สุขสู้...............

@ อาสาฬหะ ประเสริฐ วันเลอเลิศ  เมตตา รักแบ่งปัน ประเจิด ธรรมสว่าง กระจ่างไสว @ ธ ทรงตรึก สรรพสัตว์ กิเลสมัด หลับใหล ตัณหาครอง หมองกายใจ พึงขัดเกลา เนามรรคหน @ ธ โป

กลอนฉันท์เกณฑ์ : อย่างน้อยมี ลหุ ๑ คำ ในทุกวรรค กลอนฉันท์สาม @ ข้าจะมั่น....มุสรรค์สร้าง "ระทม"สร่าง....พิบัติ, พาล @ ละลด"กู....ลุรู้ขาน ผลิผ่องฌาณ...หาญ! สินำ @ "รัก" ริเ

*** ท้าทายให้สืบค้น "ความต่าง" ครับ โคลง จัตวาทัณฑี กาพย์กลอนโคลงร่ายเร้า ร่ำเพลิน ขานขับขยับเชิญพาน เพื่อนพ้อง รุดรวมร่วมมาเมิล มุอ่าน จารจดจำแล้วร้อง เล่นพร้อมเรียนเสมอ เผอเรออย่าปล่อ