เรื่องเล่า แม่จะฟ้องลูกข้อหาที่ลูกเลี้ยงดูไม่ดีพอ แล้วลูกล่ะ มีใครเคยดูแลจิตใจเขาไหม?

สวัสดีค่ะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัว ที่จริงก็คิดมาตลอดว่าไม่ว่าหนักแค่ไหนก็คงไม่อยากเอาเรื่องในบ้านไปสาวไส้ให้กากิน แต่วันนี้รู้สึกเหนื่อยมาก บางครั้งก็ร้องไห้ จนรู้สึกว่าอยากหาที่ระบายลงซักที่ยังไงก็ไม่ได้เปิดชื่อหรือหน้าตา

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับแม่เราและยายของเรา ซึ่งก็คือแม่ของแม่ เราในตอนเด็กไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมสองคนชอบทะเลาะกันบ่อยๆ ทำไมยายต้องด่าแม่ทำไมแม่ต้องเถียงกลับ พอเราโตขึ้น เราเห็นสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ทำให้เราเข้าใจแล้ว และคิดมาตั้งแต่นั้นว่าลูกเลือกมาเกิดไม่ได้ เลือกพ่อแม่ไม่ได้ ถ้าคุณเลี้ยงดูเขาด้วยความรักและความเข้าใจ คงไม่มีลูกคนไหนอยากทะเลาะกับพ่อแม่หรอก ก่อนจะเล่าละครชีวิตให้ทุกคนฟัง อยากบอกให้เข้าใจก่อนว่านี่คือมุมมองของเราซึ่งเป็นคนนึงที่อยู่บ้านร่วมกับแม่และยาย เราไม่ใช่คนกลางนะคะ คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อทุกอย่างที่เราพูดก็ได้ เพราะยังไงก็ไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว เพียงแต่อยากให้ลองอ่านแล้วนึกตามว่าถ้าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นกับใครซักคนจริงๆ ถ้าคุณเป็นเขา คุณจะทำยังไงต่อ

บ้านเรามีพ่อ แม่ ยายและเราอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน (ชั้นบนของบ้านมีสามห้องนอน ห้องยาย ห้องเราและห้องพ่อแม่ ติดแอร์ทุกห้อง ชั้นล้างแม้ไม่ได้ติดแอร์แต่ก็มีพัดลมไอน้ำขนาดใหญ่ 2 ตัว) ในอดีตแม่กับยายจะทะเลาะกันบ่อยๆ ส่วนพ่อซึ่งเป็นลูกเขยก็ไม่เคยเข้าไปยุ่ง ทุกครั้งจะบอกให้แม่เราใจเย็น ยังไงเขาก็เป็นแม่ ตอนเราเด็กๆเราไม่เคยเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างแม่กับยาย พอโตมาจนเรียนจบเริ่มทำงาน ก็เห็นสิ่งต่างๆมากขึ้น ตอนนี้แม่เราพยายามเลี่ยงการปะทะกับยายทุกอย่างเพราะแม่เหนื่อยมากและคิดว่าพูดไปเท่าไหร่ยายก็ไม่เคยคิดถึงใครเลยนอกจากตัวเอง อย่างที่บอกไปก่อนหน้า คือเราไม่ใช่คนกลางคนนะคะ เราในตอนนี้คือแม่เราในอดีตเลย เป็นเราซะเองที่ทะเลาะกับยาย นับแล้วคงอาทิตย์ละครั้งได้ เราไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี ถ้าอย่างนั้นขอแบ่งปัญหาที่ทำให้ทะเลาะกันพร้อมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเพื่อความเข้าใจง่ายๆเลยละกันนะคะ

สำหรับเรา ยายเป็นคนใจร้อนและปากร้าย ยายไม่ค่อยมีเพื่อนเพราะพอใครมาหาก็จะด่าเขาแรงๆจนทำให้เขาไม่อยากมาเยี่ยมยายอีก อย่างเมื่อครึ่งปีที่แล้ว เพื่อนบ้านที่อายุไล่เรี่ยกับแม่เรามาหาแม่เราที่บ้าน เอาขนมที่ทำเองมาฝาก แล้วก็ทักยายเราว่า "ยาย อายุเยอะแล้วแต่ก็ยังดูสุขภาพแข็งแรงอยู่เลยนะคะ เดินเหินได้คล่อง ดีจัง" จากนั้นก็คุยเรื่องสภาพอากาศกัน ยายเราบอกว่าวันนี้ฝนจะตก เพื่อนแม่ก็เลยพูดขำๆว่า "ยายรู้ได้ไง หนูว่าไม่ตกหรอก" ยายเราก็เลยสวนกลับไปทันทีว่า "เห็นฟ้าไหม มืดขนาดนี้ อิควาย" เราที่นั่งอยู่ตรงนั้นได้ยินก็ตกใจมาก คือเพื่อนแม่คนนี้มาหาแม่เอาขนมมาให้ไม่บ่อย เจอยายก็ทักทายน้อยๆ ไม่สนิทกันมากมาย พอเจอยายพูดว่าอิควายไป เขาก็หน้าเจื่อนๆแล้วขอตัวกลับ หลังจากนั้นก็ไม่มาหาแม่เราอีกเลย เราพยายามทำความเข้าใจว่ายายไม่ได้พูดด่าจริงจัง อาจเป็นคำติดปาก แต่คนอื่นเขาฟังแล้วก็คงรู้สึกไม่ดี แม่เราก็บอกว่าทำไมไปพูดกับเขาแบบนั้น แต่ยายก็ไม่ได้สนใจจะรับฟังอะไร แม้กระทั่งกับเด็กส่งแก๊ส เขามาส่งแก๊สช้าเพราะฝนตก ยายก็ด่าๆๆ ด้วยคำพูดรุนแรง เด็กคนนั้นที่พูดขอโทษยายที่มาช้าไปแล้วแต่ยายก็ยังไม่หยุดด่า จนเขาพูดสวนขึ้นมาว่า "ยายปากดีนะ เก็บปากไว้เก็บข้าวดีกว่าไหม" เรานั่งอยู่ในบ้านได้ยินที่เด็กคนนั้นพูดก็กลัวเขาจะกลับมาทำร้ายยายและคนในบ้านทีหลังเพราะโกรธรึเปล่าก็เลยไปบอกพ่อ พ่อเลยไปคุยกับเด็กส่งแก๊สตอนที่เขากำลังเปลี่ยนถังเก่าว่า "ผมขอโทษแทนยายด้วยนะครับ เขาสติไม่ค่อยดี" เราก็ไม่รู้นะคะว่าเขาจะเชื่อไหม หรือผูกใจเจ็บรึเปล่า แต่หลังจากนั้น ยายก็ดูจะเบาลงมาหน่อย

และสิ่งที่เราไม่ชอบคือแม่จะซื้อเนื้อ ซื้อหมู ซื้อผักของกิต่างๆมาแช่ไว้ในตู้เย็น ซื้อไข่ ซื้อขนม มาตุนไว้ให้เป็นจำนวนเยอะๆ คนในบ้านจะได้มีกินอยู่ตลอดไม่ต้องออกไปซื้ออีกบ่อยๆ แต่ยายก็ชอบเอาของในบ้านไปให้คนอื่น บางทีซื้อเนื้อแช่แข็งมาแพ๊คนึงมี 10 กว่าชิ้น ก็ใส่กล่องให้เขา7-8ชิ้น อะไรแบบนี้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา จนบางทีแม่ก็เหนื่อยที่จะซื้อ เพราะเหมือนซื้อมาให้คนอื่น คนในบ้านไม่เคยกินทันเลย แล้วเงินที่ซื้อมาก็ไม่ใช่น้อยๆ พอพูดกับยายไปยายก็รับส่งๆ แต่ก็ไม่เคยหยุดทำ เราเข้าใจว่าที่ยายพยายามเอาของในบ้านไปให้คนอื่นเพื่อเพราะยายอยากมีเพื่อน แต่เรารู้สึกว่าคนที่เข้าหายายเหล่านั้นไม่เคยจริงใจเลย เขาแค่ต้องการอะไรซักอย่างจากยาย เราว่ายายรู้นะคะ แต่เขาคงไม่แคร์

นอกจากยายจะชอบเอาของในบ้านให้คนอื่น ยายก็ชอบอวดว่าบ้านมีนั่นบ้านมีนี่ บ้านมีรถ แม่ก็บอกยายว่าอย่าไปพูดแบบนั้นคนอื่นเขาจะหมั่นไส้ หรืออย่างแย่ก็เรียกโจรดีๆนี่แหละ ยายก็ด่าแม่ แม่เลยเบื่อจะพูด

และเนื่องจากยายไม่ค่อยมีเพื่อน แต่ยายจะมีญาติคนนึง ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของแม่เรา เป็นป้าเรา ญาติคนนี้ชอบเสี้ยมให้ยายกับแม่เราทะเลาะกัน เสี้ยมยายเราว่าแม่เราดูแลยายไม่ดี เราไม่เคยคิดว่าป้าคนนี้หวังดีอะไรกับยายหรือบ้านเราเลย เพราะเขาทำแค่เอาสนุก อยากนินทาคนอื่น และก็เป็นคนที่ยายเราส่งของกินจากบ้านเราให้บ่อยที่สุดและยังชอบพายายเราไปเปิดบ่อนที่บ้านตัวเองอีก ทุกวันหยุดจะมารับยายเราไปเล่นไพ่ไม่ก็ให้พ่อเราไปส่งยายที่บ้านเขา แม่เราเห็นว่าถ้ายายได้เล่นยายคงเครียดน้อยลงที่ต้องอยู่บ้านคนเดียวทุกวัน เลยปล่อยให้เขาเล่นไป ทั้งที่แม่เราเกลียดคนเล่นการพนันมาก แถมป้าคนนี้ยังเคยพูดกับญาติคนอื่นว่ารำคาญยายมาก พอญาติคนนั้นมาบอกแม่เรา แม่เราก็ทำเป็นไม่ได้ยินไป เราเคยบอกยายไปแล้วว่าป้าคนนี้ไม่ได้หวังดีกับยายหรอก เพราะคนที่เขาหวังดีเขาจะยุแยงให้คนอื่นทะเลาะกันทำไม แต่ก็โดนยายด่ากลับมาตลอด จนเราเหนื่อยจะพูด

ยายเคยทะเลาะกับแม่เรา เรื่องที่ยายจะเอาคนอื่นที่ไหนไม่รู้มาอยู่บ้านเดียวกับเรา ยายบอกว่าจะปลูกกระท่อมหลังเล็กๆให้เขามาอยู่หลังบ้าน ให้เขามาดูแลมาอยู่เป็นเพื่อนยาย แต่แม่เราไม่ยอม แม่ไม่รู้จักคนคนนั้น ไม่รู้ว่าไว้ใจได้แค่ไหนเป็นใครก็ไม่รู้ อยู่ๆจะพาเข้าบ้าน ทะเลาะกันบ้านแทบแตกสุดท้ายก็ไม่ได้เอามา

นอกจากคนข้างนอก ยายก็ชอบด่าชอบว่าคนในบ้าน บางทีไม่มีมูลอะไร อยากจะด่าก็ด่า เรานอนอยู่ก็ด่าว่าเราทำน้ำมันหกในครัว ด่าว่า เราทำอะไรไม่รู้เรื่อง พูดว่า "กูเหนื่อยจะตายห่- ทำอะไรไม่รู้เรื่อง กูต้องมาตามล้างตามเช็ด" ทั้งๆที่คนที่ใช้ครัวมีแต่ยายกับแม่ แต่พอแม่ไม่อยู่ ยายก็เลือกจะด่าเรา

มีเหตุการณ์ครั้งนึงที่เราจำได้ไม่ลืม คือเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว เป็นช่วงเลือกตั้ง ซอยบ้านเราอยู่ติดกับสถานที่ให้กาคะแนน ห่างกันแค่บ้าน 2 หลัง วันนั้นแม่ไปทำงานแต่เช้า และขอให้เราขับรถพายายไปจอดที่ที่เลือกตั้งนั้นเพื่อกาคะแนน เราโอเค แต่พอจะออกไปในตอนสาย รถจากที่อื่นที่เขามีรายชื่อต้องมากาคะแนนในสถานที่นี้ก็มาจอดทั้งในที่เลือกตั้งเองและมาจอดในซอยบ้านเรา รวมหน้าหน้าบ้านเราจนเต็ม เราเดินออกมาดูหน้าบ้านก็เห็นว่ารถเต็มซอยไปหมด เราไม่มีที่จอดที่ใกล้กว่านี้แน่ๆ ทางที่ดีคือเดินไปเพราะห่างจากบ้านเราแค่สองหลัง เราบอกยายว่าขับรถไปไม่ได้แล้ว เพราะไม่มีที่จอด ยายบอกยายเดินไม่ไหว ดึงดันจะให้เราขับรถออกไปให้ได้ เราบอกว่ามันไม่มีที่จอด รถจากที่อื่นเขายังมาจอดหน้าบ้านเราเลย เราเลยถามยายไปว่า  สรุปจะไปไหมเราจะพาจูงแขนไป ยายก็โมโห บอกว่าไม่ไป เดี๋ยวให้ป้า(ญาติผู้ประสงค์ดีคนนั้น)มารับไปเอง เราโอเครู้เรื่อง เราก็เดินไปกาคะแนน พอกลับมาเราเห็นยายนั่งรออยู่หน้าบ้าน เราเห็นแล้วว่าเขามองเขม็งมาที่เรา ยังไงก็โดนด่าอีกแน่ พอเดินผ่านเขาจะเข้าบ้าน เขาก็ด่าเราว่า อิยิ้ม เราทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินเข้าบ้านไป แต่ประตูบ้านล็อก ซึ่งนอกจากแม่ก็คือยายที่มีกุญแจบ้านและรั้ว เราเลยมาขอกุญแจจากยาย เราพูดว่า "ยายขอกุญแจบ้านหน่อย หนูจะเข้าบ้าน"  เขายื่นมือไปรอรับกุญแจ ยายก็หยิบกุญแจขึ้นมาจากกระเป๋าเขาแล้ว โยนลงพื้นต่อหน้าเราแล้วพูดว่า "ไปเก็บเอาที่พื้น" เราบอกตรงๆว่ายายด่าเราเมื่อครู่ เรายังไม่โกรธเท่ากับเขาทำแบบนี้กับเราเลย มันดูเป็นละครน้ำเล่ามาก ถ้าฉายในทีวีเราคงปิดทิ้งไปแล้ว ตอนนั้นเราหยิบกุญแจจากพื้นแล้วเอาไปเปิดประตูบ้าน และไม่เคยพูดกับเขาอีกเลย เราเกลียดการกระทำแบบนี้ของเขามาก

ช่วงที่เราอยู่มหาลัย เราพยายามเลี่ยงการทะเลาะกับยายโดยการไม่คุยไม่พูดอะไร เรารู้สึกว่าการไม่พูดกันคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อเลี่ยงการปะทะ แต่หลังจากเรียนจบและเริ่มทำงาน เรารู้สึกเหนื่อยและรู้สึกแย่มากที่แทบจะทุกวันต้องมารับฟังคำด่าทอที่ไร้เหตุผลและเต็มไปด้วยคำหยาบคาย เราไม่ชอบคำด่าของยายเลยจริงๆ บางทีเราฟังเราก็คิดว่าเขาพูดออกมาได้ยังไง มันหยาบคายมาก เช่น อิเ-ห-ี้ย หัวค-ย ช้าง อิเ-วร เรารู้สึกว่าข้างในเราพังมาก จนบางทีเราทนไม่ไหวเราทะเลาะกับยาย ด่ากันไปมา แต่พ่อแม่ก็บอกให้เราใจเย็น ยังไงเขาก็เป็นยาย อย่าไปว่าเขา มันบาป เราเกลียดคำพูดนี้มาก คนที่อายุเยอะกว่าจะพูดอะไรก็ได้ จะทำอะไรก็ได้โดยที่เราต้องก้มหน้ารับฟังไปอย่างเดียวเลยหรือ ไม่มีใครบอกเขาหรือว่าคนที่อายุเยอะกว่าก็ทำผิดได้ ทำไมการที่เราด่ายายเราบาป แต่ยายด่าเราไม่เคยมีใครพูดว่า อย่าด่าหลานมันบาป นี่คือความยุติธรรมของบาปบุญหรือ เวลาที่ทะเลาะกันยายจะโทรด่าเราให้คนอื่นฟัง บอกว่าเราเป็นหลานเนรคุณ เอาเราไปนินทาให้คนอื่นในซอยฟัง ร้องไห้น่าสงสาร กลายเป็นว่ายายคือคนที่น่าสงสาร ส่วนเราเป็นผีบ้า...รางวัลสุพรรณหงส์ทองคําปีนี้ได้แก่...

แม่เคยทะเลาะกับยายเรื่องซ้ำๆวนเวียนกันไปมาไม่กี่เรื่องนี้จนแม่เหนื่อย แม่ร้องไห้ แล้วบอกกับเราว่า "เรายกบ้านนี้ให้ยายไปเลยดีไหม เขาจะเอาอะไรให้ใครเขาจะพาใครมาอยู่ก็เรื่องของเขาแล้วเราไปหาที่อยู่อื่นกัน" เรามีบ้านหลังเดียวคือบ้านนี้และไม่มีที่ทางอื่น แล้วครอบครัวเรา พ่อแม่รับราชการฐานะปานกลาง การจะไปอยู่ข้างนอกแบบตายเอาดาบหน้าคงไม่ใช่เรื่องง่าย การที่แม่พูดออกมาแบบนี้แสดงว่าคงเหนื่อยมากแล้วจริงๆ

ทุกวันนี้ในบ้านเลยไม่ค่อยมีใครคุยกับยาย แม่ก็เบื่อที่จะทะเลาะ เราก็ไม่อยากจะฟังอะไรอีกแล้ว ส่วนพ่อที่แต่ก่อนก็เป็นคนกลาง แต่เมื่อหลายปีก่อนตอนที่แม่ของพ่อ หรือก็คือย่าเรามาเยี่ยมพ่อจากต่างจังหวัด ยายก็พูดไม่ดีกับย่า ทำท่ารังเกียจเขา แถมยังกระแนะกระแหนย่าที่ย่าได้รางวัลแม่ดีเด่นในจังหวัดนั้น หรือเวลาที่ญาติฝั่งพ่อมาเยี่ยมบ้านเรา ยายก็จะทำท่าทางไม่ดีใส่เขาจนเขาไม่อยากมาหาอีก มันเลยทำให้พ่อไม่อยากยุ่งกับยาย คุยกันแค่เฉพาะตอนยายบอกให้พ่อพาไปส่งที่บ้านป้า(ผู้ประสงค์ดีหรอ?)เท่านั้น เราพูดจากใจเลยว่าย่าเป็นย่าที่ดีที่สุด เราไม่เข้าใจว่าทำไมยายไม่ชอบย่า ย่าเราพูดเพราะ ใจดี เจอเราทีไร ก็กอดก็หอมเราตลอด คอยถามว่าเราสบายดีไหม เรียนเหนื่อยรึเปล่า อะไรแบบนี้ซึ่งยายไม่เคยทำ

ล่าสุดในวันนี้ ญาติคนนึงโทรมาบอกแม่เราว่า ป้า(ผู้หวังดีคนนั้น)กำลังยุให้ยายฟ้องแม่เราที่ดูแลเขาไม่ดี เราไม่รู้ว่าเขาจะฟ้องอะไรบ้าง แต่แม่เราหรือที่ดูแลเขาไม่ดี? ยายเราแม้จะอยู่บ้านคนเดียว เพราะทั้งพ่อเรา แม่เราและเราก็ต้องไปทำงาน แต่ยายยังเดินเหินคล่อง แม้จะอายุขึ้นเลข 8 แล้ว อยู่บ้านถ้าเบื่อก็แค่เปิดแอร์ ดูทีวี หรือลดน้ำต้นไม้ เราไม่เคยบอกให้เขาล้างจานหรือเก็บผ้าอะไรเลย เราเป็นคนทำตลอดแถมยังกลัวมากถ้าเขาจะทำเพราะ ถ้าเขาได้จับทำอะไรแล้วเขาจะด่าไม่หยุดว่าเขาเหนื่อยมากนู่นนี่ แม่เราให้เงินเดือนยายเป็นเงินสด เดือนละ 5 พันบาท แม้จะไม่เยอะ แต่ยายก็อยู่บ้านไม่ต้องซื้ออะไรอยู่แล้วนอกจากของที่เขาอยากได้เพิ่ม เพราะของใช้และของกินแม่ซื้อมาตุนไว้จำนวนมากไม่เคยขาด และเพราะแม่กับพ่อเรายังต้องผ่อนรถ บ้านก็เพิ่งจ่ายหนี้หมดไป ในฐานะที่พ่อแม่รับราชการไม่ได้เงินเดือนสูงอะไรเรารู้สึกว่าเขาเก่งมากแล้ว ซื้อโทรศัพท์ส่วนตัวไว้ให้ยาย ยายจะได้โทรคุยกับคนอื่นได้ แต่กลับมาบอกว่าชีวิตเขาช่างน่าสงสาร ไม่มีใครคุยกับเขา 

เราอยากรู้ว่าถ้าคนอื่นอยู่ในสถาการณ์แบบนี้คุณมีวิธีแก้ไขมันยังไงคะ แม่เราพยายามลองคุยกับเขา บอกว่าสิ่งนี้มันเป็นปัญหาๆ แต่เขาไม่เคยฟัง เขามองว่าตัวเขาถูกต้องที่สุด และทุกอย่างวิ่งรอบตัวเขา สำหรับยาย เราว่าเขาเกินเยียวยาแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่