เพื่อไทยโคราชจัดเลือกตัวแทนพรรคลง ส.ส.
https://www.nationtv.tv/news/378845306
 
 
พรรคเพื่อไทย เขต 2 โคราช จัดประชุมเลือกตัวแทนพรรคประจำจังหวัด เตรียมพร้อมลงสนามเลือกตั้ง ส.ส. เสียงเป็นเอกฉันท์ให้นายทรงพล ขาวเกิด เป็นตัวแทนพรรค ฯ ในที่ประชุมมีการชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องมีการตั้งตัวแทนพรรคเพื่อไทย

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ตุลาคม ที่โรงเรียนชุมชนประโดก –โคกไผ่ (สถิตย์วิริยะคุณ) ต.หมื่นไวย อ.เมือง นครราชสีมา นายสุรชัย กรรณภักดี ประธานประชุมเลือกตั้งตัวแทนพรรคเพื่อไทย ( พท.) ประจำจังหวัดนครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ 2 จัดการประชุมสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อเลือกตั้งตัวแทนพรรคเพื่อไทย ประจำจังหวัดนครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ 2 เป็นไปตามขั้นตอนตามระบบการคัดเลือกผู้สมัครขั้นต้น หรือ ไพรมารีโหวต (Primary Vote) ใน พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ
 
มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดนครราชสีมา นายสุธรรม พรสันเทียะ อดีตผู้สมัคร สส. พท. เขต 2 โคราช และกลุ่มผู้นำท้องถิ่นมาร่วมสังเกตการณ์ภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัดและเข้มงวด บรรยากาศเป็นไปอย่างคักคึก มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมจำนวน 70 คน ครบองค์ประชุมคนที่กฎหมายและข้อบังกับพรรคกำหนดไว้

ผลการเลือกตั้ง คะแนน 67 เสียง บัตรเสีย 3 ใบ ไม่มีโนโหวต เป็นเอกฉันท์ให้นายทรงพล ขาวเกิด เป็นตัวแทนพรรค ฯ ในที่ประชุมมีการชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องมีการตั้งตัวแทนพรรคเพื่อไทย ประจำจังหวัดให้สมาชิกได้ทราบเนื่องจากตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้กำหนดให้ผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องเป็นผู้ที่พรรคการเมืองส่งสมัคร และได้รับการสรรหาโดยถูกต้องตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งกฎหมายกำหนดให้พรรคการเมืองต้องมีสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด จึงจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นได้
นอกจากนี้กฎหมายยังได้กำหนดว่าในการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองต้องรับฟังความคิดเห็นของหัวหน้าสาขาพรรค ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดและสมาชิกที่เกี่ยวข้องด้วย จึงเป็นเหตุให้ต้องมีการสำหรับตัวแทนพรรคเพื่อไทยประจำจังหวัด ตามข้อบังคับพรรค พ.ศ. 2561 ข้อ 32 วรรคสอง กำหนดให้มีจำนวนไม่เกิน 5 คน
           
โดยตัวแทนพรรคเพื่อไทยประจำจังหวัดมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี เมื่อครบวาระแล้วอาจได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนพรรคประจำจังหวัดอีกได้ ในลำดับต่อไปเป็นการวางแผน กำหนดจำนวนตัวแทนพรรคเพื่อไทยประจำจังหวัด ,กำหนดชื่อสำนักงานตัวแทนพรรคเพื่อไทยประจำจังหวัด ,กำหนดที่ตั้งสำนักงานตัวแทนพรรคเพื่อไทยประจำจังหวัด ,การเลือกตัวแทนพรรคเพื่อไทยประจำจังหวัด
 

---

 
คณะก้าวหน้ามั่นใจเลือกตั้ง อบต. ส่งผู้สมัครกว่า 200 ทีมทั่วประเทศ ชี้คนเห็นผลงานเทศบาลก้าวหน้า
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2984264

น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เปิดเผยถึงความพร้อมในการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายนนี้ โดยระบุว่าคณะก้าวหน้าส่งผู้สมัครลงครบทุกภาค กว่า 200 ทีม ตั้งแต่ภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ และจังหวัดชายแดนภาคใต้
 
“เมื่อเราประกาศรับผู้สมัครลงเลือกตั้ง อบต. ในนามคณะก้าวหน้า มีผู้สมัครมากว่า 500 ทีม แต่เราคัดเลือกเฉพาะผู้ที่มีอุดมการณ์และแนวทางการทำงานการเมืองตรงกับเรา 3 ข้อหลักที่เป็นกฎเหล็กคือ ไม่ซื้อเสียง ไม่ฝักใฝ่ระบอบเผด็จการ และไม่แสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง หรือพวกพ้อง หากยอมรับ 3 ข้อนี้จึงจะร่วมงานกับเราได้ และในตอนนี้ได้ผู้สมัครแล้วกว่า 210 ทีม โดยจังหวัดที่คึกคักที่สุดคือ ร้อยเอ็ด และอุดรธานี มีผู้ลงสมัครในนามก้าวหน้าเกือบ 20 ทีมทั้งสองจังหวัด”
 
น.ส.พรรณิการ์ยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ผู้สมัครของคณะก้าวหน้าชนะใจประชาชน คือผลงานที่สำเร็จเป็นรูปธรรมแล้วของนายกเทศมนตรีที่ร่วมงานกับคณะก้าวหน้า หลังจบการเลือกตั้งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายกฯและทีมได้เข้าไปทำงานเพียง 5 เดือนก็มีผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชน เช่นที่อาจสามารถ นายกฯ แก้ปัญหาน้ำประปาที่ขุ่น ไหลอ่อน มีกลิ่น จนกลายเป็นน้ำประปาใสสะอาดได้มาตรฐาน ลงทุนเพียงหลักแสน กับเวลาเพียง 5 เดือน ก็สามารถปลดล็อกปัญหาที่เรื้อรังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตประชาชนมาหลายสิบปีได้
 
“เทศบาลอาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด พิสูจน์ให้เห็นว่าหากประชาชนเลือกคนที่มีวิสัยทัศน์ มีความตั้งใจจริง เข้าไปบริหารท้องถิ่น การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้จริง และเร็วจนน่าตกใจ เพราะเทศบาล รวมถึง อบต. เป็นพื้นที่เล็ก นายกฯ มีอำนาจ มีงบประมาณพอที่จะบริหารจัดการแก้ปัญหาหลายอย่างได้ทันที นี่จึงเป็นสาเหตุที่ในอีสานมีผู้สนใจลงสมัครเลือกตั้ง อบต. ในนามก้าวหน้าเยอะมาก เพราะเขาเกิดแรงบันดาลใจจากอาจสามารถ เขาเชื่อว่าถ้าอาจสามารถทำได้ ตำบลของเขาก็ต้องทำได้เช่นกัน” น.ส.พรรณิการ์กล่าว และระบุอีกด้วยว่า พื้นที่คาดหวังในการเลือกตั้ง อบต. ปีนี้ นอกจากในอีสาน โดยเฉพาะร้อยเอ็ด ยังมีอีกหลายพื้นที่ในภาคตะวันออก และปริมณฑล เช่น จ.ระยอง จ.ชลบุรี และ จ.สมุทรปราการ เนื่องจากเป็นพื้นที่เมืองใหญ่ ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนวัยรุ่น วัยทำงาน คณะก้าวหน้าเชื่อว่าจะชนะเลือกตั้งได้แน่นอน หากทำนโยบายที่ถูกใจคน ทำให้เห็นว่าองค์กรปกครองท้องถิ่นระดับพื้นฐานอย่าง อบต. สามารถแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนได้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการขยะ เพิ่มพื้นที่สวนสาธารณะ ทำศูนย์ดูแลเด็กเล็กสำหรับพ่อแม่ที่ต้องไปทำงานทั้งวัน
 

---

 
ถึงสุรินทร์แล้ว! มวลน้ำจากโคราชเอ่อท่วมนาข้าวออกรวง จมกว่าพันไร่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6669058

ต้นข้าวออกรวงจมน้ำกว่าพันไร่ มวลน้ำจากโคราชถึงสุรินทร์แล้ว เอ่อท่วมพื้นที่ติดลำน้ำมูล ชาวบ้านคาดอีก 3-4 วันถ้าน้ำยังสูงขึ้นไม่หยุด คงถึงหมู่บ้านแน่นอน ซึ่งปี 53 ก็เจอหนักท่วมเป็นวงกว้างมาแล้ว
   
วันที่ 10 ต.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม โดยมวลน้ำจากจ.นครราชสีมา ถึงจ.สุรินทร์แล้โดยเฉพาะพื้นที่เทศบาลต.ยะวึก และ ต.กระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดลำน้ำมูลนาข้าวที่กำลังออกรวงถูกน้ำท่วมจมอยู่ใต้น้ำกว่าพันไร่
 
พืชผลทางการเกษตรอื่นๆอย่างมันสำปะหลังก็ถูกน้ำท่วมด้วย ขณะที่สะพานมิตรภาพบุรีรัมย์-สุรินทร์ เขตรอยต่อระหว่างต.กระเบื้อง กับ บ้านโรงเลื่อย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ น้ำมูลเอ่อท่วมถนนฝั่งอ.สตึก เป็นระยะทางยาว
 
ด้านนางสาย อายุ 55 ปี ชาวบ้านงิ้ว ต.ยะวึก อ.ชุมพลบุรี บอกว่า ระดับน้ำสูงถึงเข่าบริเวณนาข้าว เมื่อวานน้ำยังไม่สูงขนาดนี้ พอมาดูวันนี้พบเพิ่มขึ้นไวมาก คาดว่าถ้าระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นแบบนี้ อีก 3-4 วัน คงจะถึงหมู่บ้านแน่นอน พื้นที่ตรงนี้เคยถูกน้ำจากลำน้ำมูลเอ่อท่วมหนักมาแล้วเมื่อปี 53 ปีนั้นท่วมเป็นวงกว้างจนถึงในหมู่บ้าน นาข้าวได้รับความเสียหายเยอะมาก
 
ส่วนบริเวณสะพานวังทะลุ พื้นที่ลำน้ำชีไหลมาประจบกับแม่น้ำมูล ที่หมู่บ้าน ช้างบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม ต้องรับน้ำที่ไหลต่อจากเขตพื้นที่อ.ชุมพลบุรี ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่งชนกับคันกั้นน้ำ บางจุดไหลทะลักเข้าท่วมนาข้าวเป็นบริเวณกว้างแล้ว นอกจากนั้นศาลปู่ตา สถานที่จัดกิจกรรมพิธีบวชนาคช้าง ถูกน้ำท่วมสูงถึงศาลและศาลาพักแล้ว ซึ่งระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง