สามี ไม่มีความกระตือรือร้นในการทำงานหาเงินเลย ทำไงดี

เราตัดสินใจแต่งงาน เพราะเค้ารักเรามากค่ะ และเค้าเป็นคนดี รักแม่ รักหมา รักครอบครัวเรา

คือดีพร้อมทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวคือไม่สามารถทำงานจบด้วยตัวเองคนเดียวได้

ทุกวันนี้เราเจอปัญหา เค้าส่งอีเมลก็ไปไม่ครบ ทำเอกสารก็ไม่ 100% ให้เช็คอะไรก็ขาดไปทุกอย่าง
ขับรถฟรีไปศาล ไป ตวจ ไกลๆ ก็เคยมาแล้วเพราะความไม่รอบคอบของเขา ไม่กระตือรือร้นในการทำงาน
ชอบเงินนะ ใช้เงินเก่ง แต่ความสามารถในการหาเงินคือน้อยมาก แทบจะไม่มีเลย

ถ้าถามว่าทุกวันนี้เอาอะไรกิน ถ้าไม่นับธุรกิจที่เราสร้างด้วยกันแล้วปัจจุบันเราเป็นหัวแรงคนเดียว
เค้าก็จะได้เงินจากบุญเก่า พวกดอกเบี้ยตั๋ว PN ที่ลงในกงสีบริษัทที่พ่อแม่ลงไว้ให้ และมีบ้านอยู่มีรถขับ

แต่เราอึดอัด เราทำงานแทนเค้าทุกอย่างที่เป็นเรื่องสำคัญ เราพยายามคุยกับเค้าแล้วจบที่เค้าจะหงุดหงิดโมโห
เหมือนเรารู้ว่าเค้ารู้นะ ว่าตัวเองห่วย แต่แบบไม่ยอมรับตัวเอง แต่ก็ไม่พัฒนา ไม่มีเรียนรู้อะไรใหม่ๆ

ทุกวันนี้ถ้าว่างคือ ดูหนัง เล่นเกม อ่านการ์ตูน กิน เที่ยว แต่ถ้าเราสั่งให้ทำอะไรเค้าทำนะ แต่จะทำเท่าที่สั่ง คิดนอกกรอบไปเรื่องอื่นไม่ได้เลย บางทีก็ตัดสินใจทำอะไรไม่เมกเซ้นส์ เช่นตอบอีเมลแนบรูปโปลไฟล์ที่ไม่เกี่ยวกับที่ลูกค้าต้องการและดูไม่น่าเชื่อถือ ... เหมือนเค้าไม่รู้ว่าแบบไหนทำให้ตัวเองดูน่าเชื่อถือ เหมือนเค้ามองว่ามันไม่สำคัญรึเปล่า? 

นี่คือผู้ชายอายุจะ 40 แล้ว...

เราเครียดมาก เราเริ่มที่จะไม่ตั้งความหวังกับเค้าแล้ว นี่ขนาดไม่ตั้งความหวังยังรู้สึกผิดหวังทุกวัน

แค่เริ่มต้นวันด้วยการถามว่า ทำนั่นทำนี่รึยัง งานที่จะต้องส่ง ต้องคุยกับลูกน้อง คือยังทุกอย่าง.. เราก็ห่อเหี่ยวแล้วอะ พอเราไม่พอใจ เค้าก็โกรธเราต่อ 

คือเราไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว เราเคยถึงขนาดเททุกอย่าง คุณไม่ทำ ฉันก็ไม่ทำ ไม่ทำงาน ไม่ทำอะไรเลย นอนเล่น อยู่บ้าน เล่นเกม 

จบที่ไม่มีใครทำอะไรทั้งคู่ 5555555 กรูจะบ้าตาย สุดท้ายเราทนตัวเองได้แค่ 6 เดือนก็ต้องลุกกลับมาทำงานใหม่

ทำยังไงดีคะ ทำยังไงดี เค้าดีทุกอย่างยกเว้นเรื่องนี้ที่มันทำให้เรารู้สึกผิดหวังซ้ำซากจนอยากจะหย่าให้รู้แล้วรู้รอด

เราขอทางออก หรือขอวิธีปรับแนวคิดให้ชีวิตคู่เรารอดที
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
มาขอวิธี “ปรับแนวคิด” ใช่ไหม ...
เราจะให้ไว้สองแนวทาง เลือกปรับใช้ได้ตามใจชอบนะคะ

๑. หากอยากอยู่ด้วยกันต่อ

คำว่า ดีทุกอย่าง (หากจริง) เสียเรื่องนี้เรื่องเดียว
ก็ให้คุณมองในมุมว่า

คุณมีข้อเสียใดบ้าง ที่เขาเอง ก็คิดแบบนี้เหมือนกัน
ลองถามเขา หรือ ลองสังเกตตัวเองดู

เขาไม่เก่งเรื่องงาน การจัดการ และรับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ดีพอ
เขาก็รู้ตัว
เป็นไปได้ไหม ที่เขามาประทับใจในตัวคุณ รักคุณ และขอคุณแต่งงาน
เพราะคุณมีคุณสมบัติเด่น ตรงกับจุดที่เขาด้อยพอดี

เขารู้สึกว่า คุณคือ ส่วนที่มาเติมเต็มกันและกัน

มีไหม เรื่องที่เขาคาดหวังจากคุณ และเขาเองก็ผิดหวังบ่อยๆ
แต่เขาก็เลือกมองข้ามไปเหมือนกัน

นอกจาก ทำใจที่ตัวคุณแล้ว
คุณก็ทำงานเพิ่ม ดูแลเขาเพิ่มในจุดนี้

โดย ... ช่วยเขาปรับนิสัย
บอกให้เขาเช็คลิสท์ สิ่งที่ต้องทำ บอกดีๆ
“แบบคนหวังดี ที่ห่วงใยกัน แคร์ และอยากช่วยเหลือกันและกัน”

มิใช่บอก ด้วยน้ำเสียงดูถูกเห็นว่าโง่เง่า หรือบอกด้วยน้ำเสียง ขุ่นเคือง รำคาญ

ทำความตกลงกันว่า หากทำอะไรยังไม่เสร็จ (หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ) ห้ามเล่นเกม / ห้ามดูสิ่งบันเทิง

ลองสมมติ ว่าเขาเป็นโรค (โรคชุ่ย โรคขี้เกียจ ที่เกาะติดกมลสันดานเขามานาน)
คุณคือคนที่จะเยียวยาให้เขาได้

ทำได้นิดหนึ่ง คุณจะดีใจ ที่เห็นเขาค่อยๆพัฒนาขึ้น
มองมุมนี้ ใจจะโฟกัสไปที่สิ่งที่เขาทำได้ จะไม่ไปจับผิดจุด โดยโฟกัสไปในสิ่งที่เขา “ทำไม่ได้ดังใจคุณ”


๒. หากอยากหย่า

คุยกับเขาตรงๆ ว่าตอนที่คุณแต่งงานกับเขา ไม่คิดว่าเขาจะมีข้อเสียนี้เรื้อรังขนาดนี้

บอกว่า ขีดความอดทนของคุณใกล้ขาดผึงเต็มที

ถามเขาว่า ยังอยากจะมีกันและกันอยู่ไหม พร้อมจะปรับตัวไหม ?

จากนั้น บอกเขาว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ในหนึ่งวัน หนึ่งเดือน หนึ่งปี
(วางแผน วางเป้าหมายให้เขาอย่างละเอียด)

หากเขาโกรธ โวยวาย ไม่ยอมรับ ก็ง่ายเลย พรุ่งนี้ก็ไปหย่ากันให้เรียบร้อย

ลดสถานะเหลือเพียงเพื่อนกัน
ความดีของเขา นิสัยดีด้านอื่นๆก็ยังคงอยู่

ส่วนเรื่องนี้ พอไม่ใช่สามีคุณอีกต่อไป ก็ย่อมไม่ใช่ปัญหาของคุณอีกแล้ว
คุณกับเขา จะไม่เหลือเรื่องทะเลาะกัน เพราะยุติความคาดหวังใดๆต่อกันแล้ว ความขุ่นเคืองใจทั้งหลาย
ย่อมหมดไปโดยปริยายค่ะ

เม่าอดีต
ความคิดเห็นที่ 13
ทำไมต้องบังคับเค้าด้วย !
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่