บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P Global Ratings (S&P) คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) โดยยังเป็นระดับเดียวกับปี 2563 ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโต (GDP Growth) ประมาณร้อยละ 1.1 และในช่วงปี 2565-2567 ร้อยละ 3.6 ต่อปีด้วย
1. ภาคการคลังสาธารณะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. ภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance มีความเข้มแข็ง แม้ว่าไทยจะขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564-2565และหนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น จากการดำเนินนโยบายการคลังของภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ S&P คาดว่า ปีนี้ GDP จะเติบโตที่ประมาณร้อยละ 1.1 และในช่วงปี 2565-2567 จะเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณร้อยละ 3.6 ต่อปี จากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากสามารถควบคุมการระบาดของ COVID-19 และประชาชนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงและคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับไปอยู่ที่ระดับเดิมก่อนเกิด COVID-19 ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป จากการที่รัฐบาลยังสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่องให้เป็นไปตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ อาทิ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนร่วมภาครัฐและเอกชน (PPP) ที่ช่วยลดความเสี่ยงทางการคลังของรัฐและเป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังของภาครัฐ
2. ภาคการเงินต่างประเทศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้2. ภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยดุลบัญชีเดินสะพัด
เกินดุล ไทยมีสภาพคล่องและทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง และสภาพคล่องต่างประเทศ (External Liquidity) ของไทยยังอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล รวมทั้งการดำเนินนโยบายทางการเงินและการรักษาเสถียรภาพด้านราคายังเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
https://www.thaipost.net/main/detail/118807
"S&P" คงอันดับความน่าเชื่อถือไทยที่ BBB+
1. ภาคการคลังสาธารณะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. ภาคการเงินต่างประเทศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://www.thaipost.net/main/detail/118807