ปีนี้ เป็นอีกปี ที่กระแสความสงสัย เรื่องน้ำท่วมว่าจะเหมือนปี 54  ดังอื้ออึ้งพอสมควรเลยทีเดียว  ซึ่งมีหลายคน  หน่วยงานราชการ ที่ออกมาวิเคราะห์และประเมิน ว่าไม่เหมือน 54  

สำหรับการวิเคราะห์ของผม จะเน้นไปที่กรุงเทพ และบริเวณรอบ ๆ กรุงเทพ เป็นหลัก เช่น อยุธยา ปทุมธานี   เพราะจังหวัดอื่น ๆ เช่น ลพบุรี  เพชรบูรณ์ สุโขทัย  โคราช   ท่วมไปหมดแล้ว  หรือแม้แต่ สิงห์บุรี  อ่างทอง  ที่กำลังท่วมอยู่  ก็คงไม่ต้องวิเคราะห์กันแล้ว

ผมมาเริ่มสนใจดูว่าปีนี้น้ำจะท่วมกรุงเทพเหมือนปี 54 ไหมอย่าง  จริง ๆ จัง ๆ ก็เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนนี่เอง  ก็จากที่เค้าลือ ๆ กันเยอะนั่นแหละ  ประกอบกับได้เห็นภาพน้ำท่วม "พาสาน" ที่นครสวรรค์ เพราะตอนที่เคยไปเที่ยว น้ำค่อนข้างต่ำมาก  การที่น้ำท่วมได้ แปลว่าน้ำต้องเยอะและสูงพอควร 

แต่อย่างที่รู้ ๆ กัน ยุคนี้ นอกจากการบริหารจัดการน้ำ ที่เข้มข้นแล้ว  ยังมีข้อมูลของภาครัฐ ที่ทำข้อมูลสถิติ ต่าง ๆ ให้เราเข้าไปตรวจสอบ วิเคราะห์ได้ ย้อนหลังเกือบ 10  ปี  ดังนั้น แทนที่จะฟังข่าวลือ  เข้าไปดูข้อมูลแล้ววิเคราะห์เองด้วยดีกว่า  ถ้าดูแล้ว น่าจะท่วมจริง จะได้เตรียมรับมือ เตรียมแจ้งคนรู้จักให้เตรียมพร้อม ข้าวของจะได้ไม่เสียหาย   แต่ถ้าวิเคราะห์แล้ว ไม่ท่วมแน่ ๆ จะได้ คอยช่วยให้ข้อมูลเพื่อน ๆ ด้วยว่าไม่ต้องกังวล เอาเวลาไปทำอย่างอื่นกันดีกว่า 

โดยตอนช่วงนั้น ข้อมูลแรกเลยที่ดู คือ ข้อมูลเขื่อน ต่าง ๆ (เพราะว่า ช่วงนั้น คนที่บอกว่า ไม่ต้องกังวล ไม่ท่วม เหมือนปี 54  เพราะน้ำในเขื่อน แห้งมาก แต่ละเขื่อน น้ำน้อยมาก) ซึ่งเขื่อนที่ใกล้พอจะไปพิสูจน์ และเอามายืนยันหลักฐานได้เต็มปาก สำหรับคนพักอยู่ใน กทม อย่างเราได้คือ เขื่อนป่าสัก    ในวันเสาร์ที่ 25 กันยา จึงตั้งใจจะไปดูน้ำที่เขื่อนป่าสัก  แต่ว่า ด้วยอะไรก็แล้วแต่  วันนั้น ฝนตกทั้งวัน ตกตั้งแต่ที่พัก ไปตลอดทาง ไปจนถึงสระบุรี ก็ยังตก  ทำให้ การเดินทางล่าช้ากว่าที่คิด   และหากตอนขากลับ ก็ยังตกอีก จะทำให้กินเวลามากเกิน จึงตัดสินใจ  ขับรถอยู่แค่แถว ๆ สระบุรี  แก่งคอย  แล้วย้อนกลับไปทางอยุธยา ไปดูการกั้นแนวป้องกันน้ำที่วัดชัยวัฒนาราม  และก็เริ่มเห็นน้ำสูงขึ้น ในบริเวณอยุธยาตามจุดต่าง ๆ แต่รถยังขับผ่านได้ปรกติ    โดยระหว่างทาง รู้สึกว่า ยังไม่ค่อยเห็นสถานการณ์น้ำมากนัก จึงแวะกินอาหาร หาร้านริมน้ำซักหน่อย  จึงแวะกินร้านที่เกาะเกิด ซึ่งปรกติ ร้านจะกินที่ใต้ถุนได้  แต่ตอนที่ไปคือท่วมแล้ว  ต้องขึ้นไปกินที่ชั้น 2    ตอนนี้ แอบส่ง Facebook ข้องร้าน น่าจะอีกประมาณ ไม่ถึง 1 เมตร น้ำจะถึง ชั้น 2 แล้ว  (ให้นึกถึงบ้านโบราณ ทรงไทย 2 ชั้น ที่คนอ่างทอง อยุธยาสร้าง คือแบบนั้นเลย  (ขออภัยด้วยหากนึกภาพไม่ออก ไม่ได้รู้จักกับร้าน ไม่อยากเอารูปมาลง กลัวดราม่า)) แล้วก็กลับที่พัก เข้าสู่โหมดการติดตามตามข่าวสารน้ำท่วม  ลพบุรี  ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ ตามปรกติ  เหมือนคนทั่วไป 

จนเมื่ออาทิตย์ก่อน มีเพื่อนส่งเรื่องการวิเคราะห์น้ำท่วม จากใน facebook เข้ามาใน line กลุ่ม   ซึ่งอ่านตามข้อมูล โดยรวม ถือว่าดูน่าเชื่อถือ มีอธิบายประกอบ จุดนั้น จุดนี้ เทียบอัตราไหล น้ำปี 2554   2560   2564   ว่าแต่ละปี ต่างกันอย่างไร, น้ำที่ท่วม ๆ ตอนนี้ จะไหลไปลงเขื่อนไหน ยังไง และก็สรุปไว้ว่า  ไม่น่ามีอะไรกังวล  เพราะว่า สถาณการณ์ปีนี้ ต่างจากปี 2554 เยอะ    แม้แต่เทียบกับ 2560 ยังถือว่าปี 2564 นี้ ยังเบากว่าด้วยซ้ำ    ตอนแรก ก็กะจะบอกเพื่อนว่า ok  ก็ตามที่เค้าวิเคราะห์แหละ  ไม่มีอะไรน่ากังวล  แต่ว่า ไหน  ๆ ข้อมูลที่รัฐเค้าทำไว้ มันก็เปิดดูได้ง่ายอยู่ละ  เลยขอ Recheck ข้อมูลก่อน confirm ซักไหน   โอ้ว  คุณพระ    ไหนว่าเขื่อนป่าสักแห้ง เหลือพื้นที่รับน้ำอีกเยอะ ทำไม มันจะเต็มแล้วหว่า  ตั้งแต่วันนั้น ซึ่งก็แค่ไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็เลย ติดตามข้อมูลจาก "คลังข้อมุลน้ำแห่งชาติ" แบบละเอียดเลย  

ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ดูข้อมูลของรัฐและข่าว ต่าง ๆ ประกอบกัน จะได้ยิน จากรัฐให้ข้อมูลคล้าย ๆ กัน ว่าไม่ต้องห่วง  แต่พวกที่อยู่นอกแนวกั้นน้ำ ต้องติดตามใกล้ชิดและขนของขึ้นที่สูง  ซึ่งข้อมุลนี้ อาจจะทำให้ชะล่าใจเกินไป ในการรับมือ  สำหรับบางพื้นที่ ที่มีความเสี่ยง
จึงมีการ ไปดูข้อมูลน้ำ ที่สถานที่จริงมาเพิ่มเติม 

วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม : ช่วงเช้า วัดนิเวศธรรมประวัติบางปะอิน (ตอนที่ไป ไม่ให้นั่งกระเช้าข้าม  คนขายของบอกว่า เพิ่งไม่ให้ข้ามวันนี้แหละ เนื่องจากน้ำสูง กระเช้าจะติดน้ำ จะเป็นอันตราย) 



วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม : ช่วงเย็น สวนสาธารณะบริเวณใกล้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ (ไปวิ่งออกกำลังกาย เป็นครั้งคราว  ปรกติบรรไดจะยังลงไปได้อีก 3-4 ขั้น เพื่อให้อาหารปลา แต่วันนี้ นี่คือน้ำล้นเลย)


วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม : 
ขับออกจากกรุงเทพไปเหมือนเดิม เป้าหมายคือไปเขื่อนพระราม 6    เลือกไปทางเส้นสระบุรี   จากสระบุรีย้อนขึ้นไปทางเขื่อนพระราม 6   เลียบคลองระพีพัฒน์  ซึ่งเป็นจุดที่ช่วยผันน้ำไปทาง ปทุมธานี นครนายก เพื่อลดน้ำจากเขื่อนป่าสัก ที่จะเข้าไปยังอยุธยา

ประตูระบายน้ำพระเอกาทศรถ (ถ่ายจากจุดให้อาหารปลาหลังวิหารหลวงพ่อสำเร็จศักสิทธิ์)
 
ขับขึ้นมาเรื่อย ๆ  ถ่ายรูปจากด้านหลัง เลยไม่รู้ว่าชื่อประตูอะไร  แต่ต้องถือว่าหน่วยงานรัฐ ปรับปรุง พัฒนาคลองนี้ได้ดี 

และแล้วก็มาถึงเขื่อนพระราม 6 เพื่อจะดู แต่ผิดพลาดนิดหน่อยไปไม่ถึง ไปถึงแค่  ประตูน้ำพระนเรศร์ ข้าง ๆ เขื่อนพระราม 6 ซึ่งน้ำแรงพอควรเลย ตอนไปถึง นอกจากมีคนตกปลาแล้ว ก็มีคนแถว ๆ นั้นมายืนดูอยู่บ้าง แปลว่าน่าจะไม่ใช่สถาณการณ์ปรกติ




ทางเข้าวัดสะตือ น้ำเริ่มนองมาถึงที่ทางเข้า ในข่าว ใน facebook น่าจะเริ่มเห็นรูปน้ำท่วม วัดสะตือกันบ้างแล้ว  ซึ่งคือน้ำที่ระบายมาจากเคลื่อนป่าสัก  ไหลมาสระบุรี  เพิ่งจะมาถึงวัดสะตือ  และกำลังจะไปอยุธยาต่อ   ความน่ากลัว อยู่ตรงที่  น้ำท่วมวัดสะตือครั้งล่าสุด คือเมื่อไหร่ ???   

โดยตลอด เส้นทางที่ขับรถกลับกรุงเทพ (กลับทางเส้นอำเภอนครหลวง) เริ่ม เห็นน้ำล้น ๆ เข้ามาในแต่ละวัด แต่ละหมู่บ้านกันแล้ว  

หลังวัดเรือแข่ง แถว ๆ นครหลวง ที่เป็นแนวรั้ว คือแม่น้ำ  น้ำที่เลยออกมา คือที่ล้นตลิ่ง 


จบจากรูปสถานที่จริง มายังข้อมูลที่รัฐทำไว้ในระบบ 
ปริมาณน้ำและระดับน้ำที่สถานีบางไทร ซึ่งเป็นจุดเช็คหลัก ของน้ำที่มีผลต่อปทุมธานี และกรุงเทพ ซึ่งมีการเปรียบเทียบว่า ปี 54  เป็นอย่างไร, ปี 60 เป็นอย่างไร  ต้องเท่าไหร่ถึงน่ากลัว  ลองไปหาที่เค้าแชร์ ๆ อ่านดูนะครับ แต่ตอนนี้ ผมมีข้อมูลสรุปให้ เป็นแบบนี้  

ปล. นี่ขนาดน้ำจากเขื่อนพระราม 6 ยังมาไม่ถึงอยุธยา และเขื่อนเจ้าพระยา พยายามชะลอ ๆ น้ำไม่ให้ลงมาเยอะ   ยอมให้น้ำเอ่อ ล้นแถว ๆ อุทัย สิงห์บุรี อ่างทอง  น้ำที่ C.29 บางไทร ยังแรง และสูงขนาดนี้แล้ว ถ้าน้ำจากป่าสักที่ออกจากเขื่อนพระราม 6 มาถึง ซึ่งคาดว่าประมาณปลายสัปดาห์นี้ ต้องติดตามสถานการณ์น้ำที่ปทุมธานี ตั้งแต่สามโคกลงไปอย่างใกล้ชิด มาก ๆ 

เขียนมายืดยาวมาก ขอสรุปเป็น 2 กรณี ว่า 
กรณี 1. ถ้าการฝืนธรรมชาติน้ำ ที่เขื่อนเจ้าพระยา  ในช่วงนี้ เพื่อไม่ให้น้ำไหล เข้าอยุธยามารวมกับน้ำป่าสัก พร้อม ๆ กัน แถว ๆ ไม่มีอะไร เสียหาย (เขื่อน ประตูน้ำ คันกั้นน้ำไม่พัง)
    - น้ำจากเขื่อนป่าสัก -> เขื่อนพระราม 6 - > คลองหลวง -> ท่าเรือ  จะเข้าอยุธยา  ประมาณวันพรุ่งนี้  จะได้ยินข่าวน้ำท่วมที่อยุธยาสูงขี้นอีก และขยายพื้นที่ท่วมมากขึ้น
    - ปลาย ๆ สัปดาห์ น้ำจะเริ่มไปถึงแถว ๆ ปทุมธานี เกาะเกร็ด นนทบุรี (น้ำคงท่วมถึงเรือนจำบางขวาง เหมือนปี 60)

กรณี 2. ถ้าการฝืนธรรมชาติน้ำ  ในช่วงนี้ เพื่อไม่ให้น้ำไหล เข้าอยุธยามารวมกับน้ำป่าสัก พร้อม ๆ กัน แถว ๆ เขื่อนเจ้าพระยา เกิดความเสียหาย
    - จะเป็นข่าวใหญ่ น้ำก็จะท่วมเหมือนข้อ 1 แต่มากกว่า เร็วกว่า  และกินพื้นที่ที่ไม่อยู่บริเวณแม่น้ำมากกว่า 

แต่ไม่ว่าอย่างไร สำหรับกรุงเทพนั้น น้ำจะไม่ได้ท่วมเหมือนปี 54    คือไม่ได้ท่วม ตั้งแต่วังน้อย  ลงมาจากรังสิต ไปดอนเมือง ไปถึง 5 แยกลาดพร้าวอะไรแบบนั้น  เพราะน้ำไม่ได้มีปริมาณมหาศาลล้นเขื่อนใหญ่เหมือนปี 54   (น้ำที่มีการระบายไปยังคลองระพีพัฒน์ เพิ่งจะล้น ๆ แถวหนองเสือเอง  ยังเหลือพื้นที่ตามคลองต่าง ๆ ให้ระบายน้ำได้อีก)   แต่น้ำจะเอ่อจากบริเวณที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา  ออกไปด้านข้าง   แต่รัศมีการท่วม จะออกห่างจากริมแม่น้ำเจ้าพระยาไปไกลกว่าปี 60   ดังนั้น พวกคอนโด ริมน้ำ ที่เพิ่งมีเมื่อ 2-3 ปีนี้ โดยเฉพาะที่อยู่ตั้ังแต่ นนทบุรี  ต้องระวังให้มาก ๆ    

ปล.
1. ประมาณ สุดสัปดาห์นี้ 2 พส ที่ live จนเป็นกระแส เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน เตรียมรับโยมน้ำ ที่จะแวะไปหาที่วัด ด้วยนะ   live ดี จนโยมน้ำต้องแวะไปดู
2. รัฐสภา หมื่นกว่าล้าน ที่สร้างมา 8 ปี  เพิ่งเปิดเมื่อไม่กี่เดือน  น้ำก็จะท่วมซะแล้ว ผู้เกี่ยวข้อง เตรียมหาอะไรมาป้องกัน หรือรับมือน้ำท่วมด้วย

หมายเหตุ
1. เจตนาในการวิเคราะห์ คือแค่ให้ได้รับรู้ข้อมูลบางมุม ภาพบางภาพ ที่ไม่ได้เห็นจากสื่อหลัก  และเพื่อให้เตรียมรับมือ เพื่อให้เกิดความสูญเสีย ต่อชีวิตและทรัพย์สินให้น้อยที่สุด เท่าที่จะทำได้ครับ   
2. ผมไม่ได้ทำงาน เกี่ยวกับด้าน ชลประทาน  ด้านน้ำ   แค่ชอบทำการวิเคราห์ข้อมูล  Data Analyse    ผมไม่รู้ว่า ที่ผมวิเคราห์จะถูกขนาดไหน หรือผิดหมดก็ได้   ไม่ต้องเชื่อสิ่งที่ผมวิเคราะห์แบบเอาเป็นเอาตายนะครับ  แค่เป็นอีก 1 ข้อมูล เหมือนที่ฟังการวิเคราะห์เรื่อง ต่าง ๆ จากคนนั้น คนนี้พอ
3. ถ้ากระทู้นี้ ไม่โดนลบ      เสาร์ ทิตย์นี้  จะไป ติดตามสถาณการณ์น้ำ และมาอัพเดทเพิ่มให้อีกครับ