โปรแกรมของเราวันนี้คือมหาวิหารเซนต์พอล (St.Pauls Cathedral) อันโด่งดัง เพราะเป็นวิหารที่สมาชิกราชวงศ์อังกฤษใช้ทำพระราชพิธีหลายครั้ง
หากไม่รู้จักก็ลองไปถามคุณแม่ดูว่าได้ดูทีวีตอนเจ้าหญิงไดอาน่ากับฟ้าชายชาร์ลสมรสกันไหม (บางท่านอาจจะบอกว่าชั้นเองแหละที่ดู ไม่ต้องไปถามใครอื่นเกิดทันมานานแล้ว) น่านละ พิธีเหล่านั้นจัดขึ้นที่นี่และได้ถ่ายทอดให้คนได้ชมกันทั่วโลก

ภาพจาก wikipedia

ทางไปเซนต์พอลหาไม่ยากเลย เพราะโบสถ์นี้มีความโดดเด่นเป็นวิหารสีขาว มองเห็นเด่นไกล
ความมหัศจรรย์ของเซนต์พอลประการหนึ่งคือการเผชิญภัยต่างๆทั้งไฟไหม้ (อันนี้โดนบ่อยสุด) ราชภัย สงคราม ฟ้าผ่า ทำให้ต้องสร้างขึ้นใหม่ในหลายยุคสมัยที่ผ่านมา แต่แล้วก็กลับฟื้นตัวสร้างขึ้นใหม่ได้ทุกครั้งราวกับเป็นแมวเก้าชีวิต

ภาพจาก wikipedia

ภาพจาก wikipedia
ผู้ที่มาเยี่ยมชมเซนต์พอลสามารถเดินชมความงามในระดับความสูงหลายระดับ สามารถเดินขึ้นไปบนโดมอันโอฬารซึ่งมีความสูงซ้อนชั้นถึงสามระดับ อีกทั้งสามารถเดินลงไปไปยังชั้นใต้ดินได้อีกด้วย
ระเบียงชั้นแรกซึ่งอยู่บริเวณฐานของโดมเรียกว่าแกลอรี่แห่งเสียงกระซิบ (whispering gallery) จากที่ตรงนี้เราสามารถมองลงไปเห็นผังของโบสถ์ที่สวยงามจากมุมมองด้านบน และยังได้เห็นภาพเขียนขนาดใหญ่บนผนังโดมเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักบุญต่างๆด้วย
ใครที่ยังมีแรงเดินต่อสามารถขึ้นไปยังแกลลอรี่ชั้นบนได้อีก ระหว่างเดินทางขึ้นไปเบื้องบนจะเห็นคุณป้าและคุณยายนั่งเฝ้าเป็นยามในแต่ละชั้น พออุ่นใจได้ว่าหากเหนื่อยขึ้นมาเป็นลมเป็นแล้งก็พอจะมีคนมาช่วยเหลือได้

พอเดินมาถึงที่สูงขึ้นก็เจอคุณป้าคนหนึ่งชี้ไปที่พื้นให้เราพอมองตาม ก็พบว่าตรงพื้นนี้มีช่องกระจกใสที่สามารถส่องดูเห็นพื้นโบสถ์ด้านล่าง เห็นลวดลายพื้นโบสถ์เป็นของแถมวิเศษ แต่ใครที่กลัวความสูงอาจรู้สึกเสียวแปล๊บๆ
แกลลอรี่ชั้นสามคือแกลอรี่แห่งศิลา (stone gallery) เป็นระเบียงออกไปด้านนอก มองเห็นวิวทั่ว ลอนดอนได้โดยรวม พร้อมวิวรอบทิศแบบ 360 องศา
สงสัยจังว่าพวกที่ไปลอนดอนอาย (London eye) ทำไมเขาไม่มาที่นี่แทนเพราะวิวสวยไม่แพ้กันเลยและไม่ต้องจ่ายเงินด้วย
ที่นี่มีชั้นใต้ดินด้วย และใต้ดินนี้คือสุสาน แต่ไม่ต้องกลัวเพราะผู้ที่มาอยู่ตรงนี้หลายคนเป็นคนที่เรารู้จักและคุ้นเคยทั้งนั้น คิดเสียว่ามาคารวะผู้หลักผู้ใหญ่กันดีกว่า ตัวอย่างที่บางท่านอาจรู้จักนอกจากคริสโตเฟอร์ เร็นแล้ว ยังมีอเลกซานเดอร์ เฟลมมิง ผู้คิดค้นยาปฏิชีวนะ และที่สำคัญก็คือท่านลอร์ดแนลสัน ผู้พิชิตนโปเลียนนั่นเอง ในวันนี้ท่านสงบกายอยู่ในหีบใบสวยตั้งอยู่โดดเด่นที่ใจกลางห้องภายใต้บรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนั้นยังมีวิลเลียม เทอร์เนอร์ ศิลปินเอกผู้มีชื่อเสียง (ถ้าไม่รู้จักไม่ต้องกลัว เดี๋ยวจะแนะนำให้ฟังวันหลัง) และคนอื่นๆ

ภาพจาก wikipedia
ความสำคัญของเซนต์พอล นอกเหนือจากจะเป็นที่สถิตอันสงบของบุคคลเหล่านี้แล้ว ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มานับพันปี ใช้ประกอบพระราชพิธีตางๆของอังกฤษหลายครั้ง เช่นพิธีศพของลอร์ดแนลสัน เซอร์วินสตัน เชอร์ชิล นางมากาเรต แทตเชอร์ และเป็นสถานที่ฉลองการครองราชย์ของจักรพรรดินีวิคตอเรีย พิธีอภิเษกสมรสของเจ้าฟ้าชายชาร์ลและเจ้าหญิงไดอานา รวมทั้งการฉลองวาระครบรอบการครองราชย์ของพระราชนี้เอลิซาเบธที่สอง ทั้งรัชดาภิเษก กาญจนาภิเษก และเพชราภิเษกอีกด้วย
เที่ยวมหาวิหารเซนต์พอล (St.Pauls Cathedral) ลอนดอน
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะหากไม่รู้จักก็ลองไปถามคุณแม่ดูว่าได้ดูทีวีตอนเจ้าหญิงไดอาน่ากับฟ้าชายชาร์ลสมรสกันไหม (บางท่านอาจจะบอกว่าชั้นเองแหละที่ดู ไม่ต้องไปถามใครอื่นเกิดทันมานานแล้ว) น่านละ พิธีเหล่านั้นจัดขึ้นที่นี่และได้ถ่ายทอดให้คนได้ชมกันทั่วโลก
ภาพจาก wikipedia
ทางไปเซนต์พอลหาไม่ยากเลย เพราะโบสถ์นี้มีความโดดเด่นเป็นวิหารสีขาว มองเห็นเด่นไกล
ความมหัศจรรย์ของเซนต์พอลประการหนึ่งคือการเผชิญภัยต่างๆทั้งไฟไหม้ (อันนี้โดนบ่อยสุด) ราชภัย สงคราม ฟ้าผ่า ทำให้ต้องสร้างขึ้นใหม่ในหลายยุคสมัยที่ผ่านมา แต่แล้วก็กลับฟื้นตัวสร้างขึ้นใหม่ได้ทุกครั้งราวกับเป็นแมวเก้าชีวิต
ภาพจาก wikipedia
ภาพจาก wikipedia
ผู้ที่มาเยี่ยมชมเซนต์พอลสามารถเดินชมความงามในระดับความสูงหลายระดับ สามารถเดินขึ้นไปบนโดมอันโอฬารซึ่งมีความสูงซ้อนชั้นถึงสามระดับ อีกทั้งสามารถเดินลงไปไปยังชั้นใต้ดินได้อีกด้วย
ระเบียงชั้นแรกซึ่งอยู่บริเวณฐานของโดมเรียกว่าแกลอรี่แห่งเสียงกระซิบ (whispering gallery) จากที่ตรงนี้เราสามารถมองลงไปเห็นผังของโบสถ์ที่สวยงามจากมุมมองด้านบน และยังได้เห็นภาพเขียนขนาดใหญ่บนผนังโดมเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักบุญต่างๆด้วย
ใครที่ยังมีแรงเดินต่อสามารถขึ้นไปยังแกลลอรี่ชั้นบนได้อีก ระหว่างเดินทางขึ้นไปเบื้องบนจะเห็นคุณป้าและคุณยายนั่งเฝ้าเป็นยามในแต่ละชั้น พออุ่นใจได้ว่าหากเหนื่อยขึ้นมาเป็นลมเป็นแล้งก็พอจะมีคนมาช่วยเหลือได้
พอเดินมาถึงที่สูงขึ้นก็เจอคุณป้าคนหนึ่งชี้ไปที่พื้นให้เราพอมองตาม ก็พบว่าตรงพื้นนี้มีช่องกระจกใสที่สามารถส่องดูเห็นพื้นโบสถ์ด้านล่าง เห็นลวดลายพื้นโบสถ์เป็นของแถมวิเศษ แต่ใครที่กลัวความสูงอาจรู้สึกเสียวแปล๊บๆ
แกลลอรี่ชั้นสามคือแกลอรี่แห่งศิลา (stone gallery) เป็นระเบียงออกไปด้านนอก มองเห็นวิวทั่ว ลอนดอนได้โดยรวม พร้อมวิวรอบทิศแบบ 360 องศา
สงสัยจังว่าพวกที่ไปลอนดอนอาย (London eye) ทำไมเขาไม่มาที่นี่แทนเพราะวิวสวยไม่แพ้กันเลยและไม่ต้องจ่ายเงินด้วย
ที่นี่มีชั้นใต้ดินด้วย และใต้ดินนี้คือสุสาน แต่ไม่ต้องกลัวเพราะผู้ที่มาอยู่ตรงนี้หลายคนเป็นคนที่เรารู้จักและคุ้นเคยทั้งนั้น คิดเสียว่ามาคารวะผู้หลักผู้ใหญ่กันดีกว่า ตัวอย่างที่บางท่านอาจรู้จักนอกจากคริสโตเฟอร์ เร็นแล้ว ยังมีอเลกซานเดอร์ เฟลมมิง ผู้คิดค้นยาปฏิชีวนะ และที่สำคัญก็คือท่านลอร์ดแนลสัน ผู้พิชิตนโปเลียนนั่นเอง ในวันนี้ท่านสงบกายอยู่ในหีบใบสวยตั้งอยู่โดดเด่นที่ใจกลางห้องภายใต้บรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนั้นยังมีวิลเลียม เทอร์เนอร์ ศิลปินเอกผู้มีชื่อเสียง (ถ้าไม่รู้จักไม่ต้องกลัว เดี๋ยวจะแนะนำให้ฟังวันหลัง) และคนอื่นๆ
ภาพจาก wikipedia
ความสำคัญของเซนต์พอล นอกเหนือจากจะเป็นที่สถิตอันสงบของบุคคลเหล่านี้แล้ว ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มานับพันปี ใช้ประกอบพระราชพิธีตางๆของอังกฤษหลายครั้ง เช่นพิธีศพของลอร์ดแนลสัน เซอร์วินสตัน เชอร์ชิล นางมากาเรต แทตเชอร์ และเป็นสถานที่ฉลองการครองราชย์ของจักรพรรดินีวิคตอเรีย พิธีอภิเษกสมรสของเจ้าฟ้าชายชาร์ลและเจ้าหญิงไดอานา รวมทั้งการฉลองวาระครบรอบการครองราชย์ของพระราชนี้เอลิซาเบธที่สอง ทั้งรัชดาภิเษก กาญจนาภิเษก และเพชราภิเษกอีกด้วย