.
พวกเธอสองคนขับรถมาตามเส้นทางที่จีพีเอสบอก วิ่งจากถนนหลักเข้าสู่ถนนในหมู่บ้าน เส้นทางคดเคี้ยวแค่ไหนก็ไม่หวั่น พวกเธอจะต้องไปให้ถึงจุดหมาย แม้จะได้ยินเสียงเมธีบ่นลอย ๆ อยู่เป็นระยะ ๆ เธอก็ไม่ต่อปากต่อคำ ปล่อยให้บ่นไปไม่อยากทะเลาะกัน
“เถอะน่าพี่เมธี ! เดี๋ยวก็ถึงแล้ว” เธอพูดปลอบใจด้วยความใจเย็น ไม่อยากเถียงเขา
“อยู่ลึกมาก ! ไม่เคยมาแถวนี้ก็ได้มาเด้อ” เขาบ่น แต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร แค่เพียงบ่นเท่านั้น หันมายิ้มให้สาวเจ้า
“นภาก็มาพร้อมพี่เมธีแหละ ฮ่วย ! ขับ ๆ ไปเถอะ “ เธอพูด “นภาว่านะจีพีเอสมันพาเราเลี้ยวก่อนแน่เลยเชื่อมั้ยตัวเอง ! มันก็เลยเป็นซอยเล็กซอยน้อยแบบนี้ไง เดี๋ยวขากลับมันจะพาเราออกสู่ถนนใหญ่แป๊บเดียวคอยดูเหอะ” บ่นให้กับจีพีเอสนำทาง ทว่าก็จำใจล่ะเพราะต้องพึ่งมันอยู่ดี กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่จีพีเอสพาเลี้ยวก่อนถนนเส้นที่ถูกต้อง จำต้องวิ่งคดเคี้ยวเลี้ยวไปเลี้ยวมาอย่างวันนี้ นาทีนี้ ตอนนี้
“ค่ะ !” เขาตอบปนยิ้มยกมือขึ้นวางบนศีรษะของเธอ “พี่ก็พูดเฉย ๆ นั่นแหละ ขอแค่ไปให้ถึงเหอะ” พวกเธอสองคนพูดคุยกันไปตามทาง ระหว่างเดินทางไปที่ร้านมองช้างคาเฟ่
ส่วนมากเธอจะเป็นฝ่ายเงียบมาตลอดทางมากกว่า ไม่อยากพูดอะไร เนื่องจากรับรู้ถึงความไม่สบอารมณ์ของเมธีนั่นเอง จึงไม่ค่อยพูด เกรงว่าพูดไปแล้วจะพาลหงุดหงิดทะเลาะกันอีก เธอเองก็ลุ้น ๆ ไปตลอดทางเช่นกันนั่นแหละ เช็คจีพีเอสอีกรอบว่าพิมพ์ชื่อสถานที่ถูกหรือเปล่า เธอก็พิมพ์ถูกแล้วนี่ ! ไม่พาเมธีมาหลงแน่นอน แค่มันอาจจะอยู่ลึกอยู่ไกลไปก็เท่านั้นเอง
“มันเป็นสวนสัตว์เหรอน้อง” เขาหันมาถามอีก ยิ้มให้เธอก่อนจะหันไปมองถนนเช่นเดิม สังเกตว่าพรนภาเงียบมาตลอดทางเลย เป็นอะไรหรือเปล่า เขาก็แค่บ่น ๆ ไปอย่างนั้น ไม่ได้จะหงุดหงิดให้สักหน่อย
“ไม่ใช่ ! มันเป็นร้านกาแฟ เนี่ยค่ะ “ พรนภาเข้าหน้าเพจร้านให้สามีรุ่นพ่อดู
“อ้อ ! เป็นร้านกาแฟ แต่มีช้างตัวเป็น ๆ ด้วยงี้เหรอ” เขาพูด ชวนสาวเจ้าคุยไม่อยากให้เงียบแบบนี้เขารู้สึกไม่ค่อยดี ไม่อยากให้ภรรยาสาวไม่มีความสุขในการมาชิมกาแฟวันนี้
“น่าจะนะคะ !” เธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน “ใกล้ถึงแล้วค่ะ อีกนิดเดียว” เธอหันมาพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ดูเส้นทางในแมพแล้วใกล้ ๆ เอง รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีเพราะสุดท้ายก็มาถึงจนได้ ขับรถมาจากคอนโดเกือบชั่วโมงเลย
“ใกล้ถึงของน้องกี่กิโลก่อน” เขาพูดล้อ
“ใกล้จริง ๆ เดี๋ยวเลี้ยวซ้ายนี่ก็ถึงแล้ว” เธอพูดไม่ทันขาดคำจีพีเอสก็พูดบอกเส้นทางแก่พวกเธอ เมธีขับรถเลี้ยวซ้ายไปตามจีพีเอสบอก ไม่นานก็เห็นป้ายเขียนว่า ‘มองช้างคาเฟ่’ ทำเอาพวกเธอยิ้มกันได้ จากที่อึมครึมกันมาตลอดทาง เนื่องจากว่าจากคอนโดมาที่นี่ไกลอยู่เหมือนกัน
“นั่นไงเจอแล้ว” เมธีพูดเบา ๆ พร้อมเลี้ยวรถเข้าไปจอดยังลานจอดรถของร้าน “โห่อยู่ไกลอยู่ลึกจริงแฮะ” ตรงที่จอดรถก็มีคอกแกะของทางร้านเลี้ยงเอาไว้ให้นักท่องกาแฟได้ชม แถมยังทีชะนีด้วยหนึ่งตัวอยู่ในกรง มันมองนักท่องเที่ยวที่มาในวันนี้ใหญ่เลย พรนภาตื่นเต้นมาก ไม่เสียแรงที่ดั้นด้นกันมาจริง ๆ
“ปะพี่เมธีเราเข้าไปกันเถอะ นึกว่ามีแค่ช้าง แกะกับวัวก็มี ฮา “ เธอพูดปนหัวเราะด้วยความร่าเริง “วันหลังมาอีกนะ นภาอยากชวนหลานมาด้วย “ เธอหมายถึงลูกของญาติที่ทำงานอยู่ที่นี่ด้วยกัน
“ได้เลยค่ะ “ เขาตอบ จากนั้นพวกเธอสองคนก็จูงมือกันเข้าไปในร้าน
มองช้างคาเฟ่ทำเหมือนสวนสัตว์เล็ก ๆ ไม่เหมือนก็คล้ายล่ะ ทว่าสัตว์มีเพียงชะนี นก ช้าง แพะ และวัวเท่านั้น สำหรับสิ่งที่ทำให้เธอลุ้นระทึกเขย่าขวัญมากที่สุดคือ ‘เจ้าช้างสองเชือกที่ยืนต้อนรับนักท่องเที่ยวนั่นเอง’
พวกเธอซื้อกล้วยให้ช้างด้วย ทว่าเธอไม่กล้าเอาไปให้เจ้าช้างสองตัวนั่นทาน คนนำไปให้คือเมธีเอง “คนอะไรอยากมาแต่กลัว ฮื้ย” เมธีพูดพร้อมหัวเราะเธอไปอีก
“เอ๋า… ก็นภาย่านน้อ อยากมาเกี่ยวอะไรกับกลัวล่ะ ฮ่วย “ เธอตอบ ยืนดูสามีให้กล้วยแก่ช้างสองตัวนั่นไกล ๆ แอบถ่ายรูปเก็บเอาไว้ด้วย
“น้องมาถ่ายรูปมา ! นี่มายืนตรงนี้ค่ะ ไม่ต้องกลัว” เขากวักมือเรียกภรรยารุ่นลูกให้เข้ามาถ่ายรูปคู่กับเจ้าช้าง ควานช้างกวักมือเรียกเธอให้เข้าไปอีกคน เธอตอบปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด ทว่าก็ลังเลว่าจะเข้าไปถ่ายรูปด้วยหรือไม่ อุตส่าห์มาแล้วสักหน่อยคงไม่เป็นไร ท่ามกลางใจที่กลัวที่สุด
สุดท้ายเธอก็ยอมเข้าไปถ่ายรูปกับเจ้าช่างด้วยใจที่ระแวง พอเสร็จจากตรงนี้พวกเธอก็เดินเข้าไปในโซนที่เป็นร้านกาแฟ ด้านในอลังการพอสมควร เธอชอบมาก ! พอใจที่สุด ไม่เสียความรู้สึกเลยที่ตัดสินใจมาที่นี่
วันนี้เป็นวันจันทร์ก็ยังมีผู้คนมาเที่ยวชิมกาแฟมากมาย ทุกคนล้วนทำตามกฎระเบียบป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัดกัน ถึงจะมาเที่ยวชิว ๆ ก็ตาม ป้องกันไว้ดีที่สุดนั่นแหละ
มาถึงพรนภาก็เดินไปต่อคิวซื้อกาแฟทันที “ตัวเองเอสไรเอ่ย เย็นหรือปั่น” หันไปถามเมธี รายนี้ชอบทานเอสเพรสโซ่ที่สุด
“อ่า โกโก้ปั่นดีกว่าค่ะ” เขาตอบ
“ฮึ !” เลิกคิ้วทำหน้าสงสัย วันนี้ทานโกโก้แฮะ ยิ้มให้กับเขา “โอเคค่ะ รอเค้าอยู่ตางนี้นะ”
“ค่ะ” เขาตอบ จากนั้นเธอก็เดินไปสั่งเมนู คุยกันกระหนุงกระหนิงตามประสาของพวกเธอ ไม่สนใจสายตาของใครหลาย ๆ คนที่มองมาสักนิด ด้วยอายุที่ห่างกันทำให้ต้องตกเป็นเป้าสายตาของคนที่ชอบอยากรู้เรื่องคนอื่น ทว่าพวกเธอก็ไม่ใส่ใจ แล้วแต่ใคร ๆ จะมองจะนินทาเลย
“ชื่อคุณอะไรครับ เอาชื่อเล่นครับ” พนักงานชายถาม พร้อมจดเมนูที่เธอสั่งลงไป
“ชื่อนภาค่ะ”
“คุณนภานะครับ เดี๋ยวทำเสร็จทางร้านจะประกาศเรียกชื่อคุณนภาให้มารับเครื่องดื่มนะครับ ระหว่างรอให้คุณนภาเดินถ่ายรูปชมร้านของเราได้ตามสบายเลยนะครับ ขอให้มีความสุขกับร้านมองช้างของเรานะครับ” พนักงานชายพูดปนยิ้มกับเธอ พร้อมยื่นบัตรคิวให้ เธอเองก็ยิ้มตอบพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินกลับมาหาสามีที่ยืนรออยู่ด้านนอก
“ว่ายังไงคะ” เขาถาม ยกมือขึ้นมาโอบไหล่ของเธอ ยิ่งทำให้ผู้คนมองเข้าไปอีก ทว่าก็ไม่ได้ยินเสียงซุบซิบกัน บางที่ ๆ พวกเธอไปมีเสียงซุบซิบกันให้ได้ยินด้วย เป็นอะไรที่เสียมารยาทมาก ๆ อยากจะบอกว่า ‘ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดีเหลือเกิน’
“อ้อ เดี๋ยวเค้าประกาศเรียกค่ะถ้าทำเสร็จแล้ว ส่วนเราไปหาถ่ายรูปกัน เริ่ม ! ฮา “ เธอพูดด้วยความอารมณ์ดีที่สุด
“โอเค ! Let’s go” เขาตอบตกลงด้วยรอยยิ้ม ความสุขของภรรยาสาวคนนี้มีหรือจะขัดใจ ส่วนเขาตำแหน่งหน้าที่ช่างภาพส่วนตัวนั่นเอง
เขาและเธอเดินถ่ายรูปทุกมุมของร้านกันเลย นางแบบตัวน้อยคนดีที่น่ารักของเขา “น้องมาทางนี้ค่ะ มุมนี้สวยเห็นวิวตรงนี้ด้วย” เขาเรียกเธอให้มายืนมุมตรงนี้ เขาจะถ่ายรูปให้
พรนภาทำตามที่เขาบอก ยืนเป็นนางแบบให้สามีสุดที่รักเก็บภาพสวย ๆ ให้
….ขออนุญาตประกาศครับ เชิญคุณนภามารับเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์ได้แล้วครับ เมนูที่สั่งเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ประกาศอีกครั้งนะครับ คุณนภามารับเครื่องดื่มด้วยครับ ขอบคุณครับ…
เสียงพนักงานประกาศชื่อของเธอ เรียกให้ไปรับเครื่องดื่มที่สั่ง “น้องเค้าเรียกแล้วค่ะ เดี๋ยวพี่ไปเอาเอง น้องรอตรงนี้นะคะ”
“ม่าย ! ไปด้วยกันเลย” ไม่อยากให้เมธีไปคนเดียว ไม่ชอบสายตาพนักงานหญิงคนหนึ่งมองสามีของตนเองเลย ไม่ชอบ ! จึงขอตามไปด้วย ทว่าก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่เธอรู้ ! หึหึ
“โอเคค่ะไปก็ไป ปะ !” เขากอดคอเธอเดินไปรับเครื่องดื่มด้วยกัน จากนั้นก็เดินหาที่นั่ง พวกเธอได้มุมนั่งที่เหมาะ ๆ แล้ว มีมุมให้เก็บภาพไปอีกด้วย สวยมาก ! คือ มันถูกใจของเธอที่สุด เธอที่ชอบเซลฟี่ที่สุดเลย ได้มาสร้างคอนเทนท์กับร้านกาแฟสักทีสำหรับเดือนนี้
“พี่เมธีมาเค้าถ่ายรูปให้ตัวเอง นะ… นะคะ” ทำหน้าอ้อนแบบไม่เกรงใจคนอื่น ๆ ที่อยู่แถว ๆ นี้เลย ช่างปะไร ตัวใครตัวมันแฟนใครแฟนมันหนิ เธอไม่สนใจหรอก “มานั่งตรงนี้เลย เร็ว ๆ เค้าจะถ่ายรูปให้” ชี้มุมให้สามีรุ่นพ่อนั่ง
“ได้ค่ะ !” เขาทำตามอย่างว่าง่าย หยิบแว่นตากันแดดมิลเลอร์ออกมาสวม อย่างหล่อที่สุดเลย คนอะไรหล่อชะมัดสามีของเค้า พูดในใจพลางเผยยิ้มนิด ๆ ที่มุมปากด้วย “ยิ้มอะไรก่อน” เขาถาม
“เปล่าค่า ! แฮ่” ปฏิเสธไป “นึง สอง “ นับให้สัญญาณก่อนจะกดชัตเตอร์ถ่ายรูปให้กับเขา “หล่ออ่ะ ฮา ฝีมือล้วน ๆ เหอะ นภาถ่ายรูปสวยจะตาย” ชมฝีมือตนเองไปอีก พร้อมให้เจ้าตัวดูรูปไปด้วย
“คนมันหล่ออยู่แล้วมั้ยคะ ฮา” เขาพูดปนหัวเราะเช่นกัน แหม ! ไม่ค่อยจะเลย คนอะไรก็ไม่รู้หลงตังเองชะมัด ค่อนขอดให้ในใจ
“อีกรูปหนึ่งค่ะ เอามุมนี้” เธอชี้มือไปยังมุมถ่ายรูปอีกมุม ให้เมธีไปนั่งตรงนั้น เจ้าตัวก็ทำตามอย่างว่าง่ายอีกเช่นเดิม วันนี้ดูพูดง่ายแฮะ ไม่ดื้อ ! ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา จะถ่ายรูปทีต้องแอบถ่ายทีเผลอกันเลย แต่สำหรับวันนี้สั่งให้ทำอะไรก็ทำ
หลังจากเดินถ่ายรูปกันจนพอใจแล้ว ก็หาที่นั่งทานข้าวกัน เพราะท้องเริ่มหิวแล้ว ดูนาฬิกาเที่ยงจวนจะบ่ายโมงเข้าทุกที พวกเธอจึงหาที่นั่งทานข้าวกัน พร้อมเรียกพนักงานมาสั่งเมนูอาหาร สำหรับเธอแล้วเน้นวิวถ่ายรูปมากกว่าเน้นทาน
พนักงานรับเมนูไปแล้วคราวนี้ก็นั่งรอ นอกจากวิวถ่ายรูปสวยแล้ว กาแฟอร่อยแล้ว ทางร้านยังมีการแสดงโชว์ให้ชมฟรีอีกด้วย เป็นอะไรที่อเมสซิ่งมาก ๆ ไม่ผิดหวังจริง ๆ ที่เลือกมามองช้างคาเฟ่
การแสดงเป็นการแสดงโชว์ของคน ไม่ใช่ของสัตว์ คนที่ตั้งใจดูเห็นจะเป็นเมธีมากกว่า คงจะชอบล่ะสิ เพราะพนักงานแสดงโชว์นุ่งน้อยห่มน้อย ทำให้คนที่มาดื่มด่ำกาแฟ นอกจากจะละมุนไปกับรสชาติของกาแฟแล้ว ยังได้ดื่มด่ำไปกับการแสดงโชว์ของนางแมวป่า นางเสือดาว นางเสือสมิงของทางร้านไปด้วย
เสียงปรบมือดังกระหึ่มให้กำลังใจแก่นักแสดง เธอก็ไม่ได้ต่อว่า หรือ ทำให้เมธีเกิดความรำคาญใจ อยากดูก็ให้ดูไป ความสุขทางสายตา อนุญาตให้เปิดหูเปิดตาหนึ่งวัน จากที่อยู่กับเธอจนเบื่อแล้ว วันนี้ก็อนุญาตให้ดูสิ่งใหม่ ๆ บ้าง ไม่ว่ากันอยู่แล้วอยากให้เมธีมีความสุขที่สุดสำหรับมาเที่ยวร้านกาแฟในวันนี้
ทุกคนต่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ถ่ายคลิปวีดีโอบ้าง รวมทั้งเธอด้วยที่ถ่ายคลิปบางส่วนเอาไว้ เผื่อพี่เมธีอยากเปิดดู หึหึ พวกเธอนั่งทานข้าวไปด้วยดูแสดงโชว์ไปพร้อมอยากมีความสุข พอการแสดงโชว์จบประจวบเหมาะกับที่พวกเธอทานข้าวอิ่มพอดี จึงชวนกันเดินหาเก็บภาพถ่ายรูปโซนที่เหลือกันต่อสักหน่อย ค่อยเดินทางกลับ สำหรับวันนี้มาแค่นี้พอ มันเป็นแค่นี้ที่ยิ่งใหญ่ ที่มีความสุขสำหรับเธอ
ไปไหนก็ได้ ใกล้ไกลไปได้หมด แค่ไปกับคนของใจ คนที่เธอรัก แค่ได้เดินทางกับพี่เมธีพรนภาคนนี้ก็พอใจ และ มีความสุขล่ะ
“กลับได้ยังคะ” เขาถาม นี่ก็ปาไปบ่ายสามโมงแล้วที่พวกเธออยู่ที่นี่กัน
“กลับได้แล้วค่ะ ! งั้นเรากลับเถอะ อือ วันหลังพาต้นน้ำมากันเนอะ นภาอยากพาหลานมาดูช้างอ่ะ” เธอบอกสามี มองใบหน้าเกลี้ยงเกลาสะอาดนั้นอย่างรักที่สุด เธออยากพาหลานลูกของญาติมาดูบ้าง เจ้าอ้วนต้นน้ำคงชอบน่าดูแน่ ๆ
ฝันหวาน (Sweet Dream) 67
.
พวกเธอสองคนขับรถมาตามเส้นทางที่จีพีเอสบอก วิ่งจากถนนหลักเข้าสู่ถนนในหมู่บ้าน เส้นทางคดเคี้ยวแค่ไหนก็ไม่หวั่น พวกเธอจะต้องไปให้ถึงจุดหมาย แม้จะได้ยินเสียงเมธีบ่นลอย ๆ อยู่เป็นระยะ ๆ เธอก็ไม่ต่อปากต่อคำ ปล่อยให้บ่นไปไม่อยากทะเลาะกัน
“เถอะน่าพี่เมธี ! เดี๋ยวก็ถึงแล้ว” เธอพูดปลอบใจด้วยความใจเย็น ไม่อยากเถียงเขา
“อยู่ลึกมาก ! ไม่เคยมาแถวนี้ก็ได้มาเด้อ” เขาบ่น แต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร แค่เพียงบ่นเท่านั้น หันมายิ้มให้สาวเจ้า
“นภาก็มาพร้อมพี่เมธีแหละ ฮ่วย ! ขับ ๆ ไปเถอะ “ เธอพูด “นภาว่านะจีพีเอสมันพาเราเลี้ยวก่อนแน่เลยเชื่อมั้ยตัวเอง ! มันก็เลยเป็นซอยเล็กซอยน้อยแบบนี้ไง เดี๋ยวขากลับมันจะพาเราออกสู่ถนนใหญ่แป๊บเดียวคอยดูเหอะ” บ่นให้กับจีพีเอสนำทาง ทว่าก็จำใจล่ะเพราะต้องพึ่งมันอยู่ดี กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่จีพีเอสพาเลี้ยวก่อนถนนเส้นที่ถูกต้อง จำต้องวิ่งคดเคี้ยวเลี้ยวไปเลี้ยวมาอย่างวันนี้ นาทีนี้ ตอนนี้
“ค่ะ !” เขาตอบปนยิ้มยกมือขึ้นวางบนศีรษะของเธอ “พี่ก็พูดเฉย ๆ นั่นแหละ ขอแค่ไปให้ถึงเหอะ” พวกเธอสองคนพูดคุยกันไปตามทาง ระหว่างเดินทางไปที่ร้านมองช้างคาเฟ่
ส่วนมากเธอจะเป็นฝ่ายเงียบมาตลอดทางมากกว่า ไม่อยากพูดอะไร เนื่องจากรับรู้ถึงความไม่สบอารมณ์ของเมธีนั่นเอง จึงไม่ค่อยพูด เกรงว่าพูดไปแล้วจะพาลหงุดหงิดทะเลาะกันอีก เธอเองก็ลุ้น ๆ ไปตลอดทางเช่นกันนั่นแหละ เช็คจีพีเอสอีกรอบว่าพิมพ์ชื่อสถานที่ถูกหรือเปล่า เธอก็พิมพ์ถูกแล้วนี่ ! ไม่พาเมธีมาหลงแน่นอน แค่มันอาจจะอยู่ลึกอยู่ไกลไปก็เท่านั้นเอง
“มันเป็นสวนสัตว์เหรอน้อง” เขาหันมาถามอีก ยิ้มให้เธอก่อนจะหันไปมองถนนเช่นเดิม สังเกตว่าพรนภาเงียบมาตลอดทางเลย เป็นอะไรหรือเปล่า เขาก็แค่บ่น ๆ ไปอย่างนั้น ไม่ได้จะหงุดหงิดให้สักหน่อย
“ไม่ใช่ ! มันเป็นร้านกาแฟ เนี่ยค่ะ “ พรนภาเข้าหน้าเพจร้านให้สามีรุ่นพ่อดู
“อ้อ ! เป็นร้านกาแฟ แต่มีช้างตัวเป็น ๆ ด้วยงี้เหรอ” เขาพูด ชวนสาวเจ้าคุยไม่อยากให้เงียบแบบนี้เขารู้สึกไม่ค่อยดี ไม่อยากให้ภรรยาสาวไม่มีความสุขในการมาชิมกาแฟวันนี้
“น่าจะนะคะ !” เธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน “ใกล้ถึงแล้วค่ะ อีกนิดเดียว” เธอหันมาพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ดูเส้นทางในแมพแล้วใกล้ ๆ เอง รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีเพราะสุดท้ายก็มาถึงจนได้ ขับรถมาจากคอนโดเกือบชั่วโมงเลย
“ใกล้ถึงของน้องกี่กิโลก่อน” เขาพูดล้อ
“ใกล้จริง ๆ เดี๋ยวเลี้ยวซ้ายนี่ก็ถึงแล้ว” เธอพูดไม่ทันขาดคำจีพีเอสก็พูดบอกเส้นทางแก่พวกเธอ เมธีขับรถเลี้ยวซ้ายไปตามจีพีเอสบอก ไม่นานก็เห็นป้ายเขียนว่า ‘มองช้างคาเฟ่’ ทำเอาพวกเธอยิ้มกันได้ จากที่อึมครึมกันมาตลอดทาง เนื่องจากว่าจากคอนโดมาที่นี่ไกลอยู่เหมือนกัน
“นั่นไงเจอแล้ว” เมธีพูดเบา ๆ พร้อมเลี้ยวรถเข้าไปจอดยังลานจอดรถของร้าน “โห่อยู่ไกลอยู่ลึกจริงแฮะ” ตรงที่จอดรถก็มีคอกแกะของทางร้านเลี้ยงเอาไว้ให้นักท่องกาแฟได้ชม แถมยังทีชะนีด้วยหนึ่งตัวอยู่ในกรง มันมองนักท่องเที่ยวที่มาในวันนี้ใหญ่เลย พรนภาตื่นเต้นมาก ไม่เสียแรงที่ดั้นด้นกันมาจริง ๆ
“ปะพี่เมธีเราเข้าไปกันเถอะ นึกว่ามีแค่ช้าง แกะกับวัวก็มี ฮา “ เธอพูดปนหัวเราะด้วยความร่าเริง “วันหลังมาอีกนะ นภาอยากชวนหลานมาด้วย “ เธอหมายถึงลูกของญาติที่ทำงานอยู่ที่นี่ด้วยกัน
“ได้เลยค่ะ “ เขาตอบ จากนั้นพวกเธอสองคนก็จูงมือกันเข้าไปในร้าน
มองช้างคาเฟ่ทำเหมือนสวนสัตว์เล็ก ๆ ไม่เหมือนก็คล้ายล่ะ ทว่าสัตว์มีเพียงชะนี นก ช้าง แพะ และวัวเท่านั้น สำหรับสิ่งที่ทำให้เธอลุ้นระทึกเขย่าขวัญมากที่สุดคือ ‘เจ้าช้างสองเชือกที่ยืนต้อนรับนักท่องเที่ยวนั่นเอง’
พวกเธอซื้อกล้วยให้ช้างด้วย ทว่าเธอไม่กล้าเอาไปให้เจ้าช้างสองตัวนั่นทาน คนนำไปให้คือเมธีเอง “คนอะไรอยากมาแต่กลัว ฮื้ย” เมธีพูดพร้อมหัวเราะเธอไปอีก
“เอ๋า… ก็นภาย่านน้อ อยากมาเกี่ยวอะไรกับกลัวล่ะ ฮ่วย “ เธอตอบ ยืนดูสามีให้กล้วยแก่ช้างสองตัวนั่นไกล ๆ แอบถ่ายรูปเก็บเอาไว้ด้วย
“น้องมาถ่ายรูปมา ! นี่มายืนตรงนี้ค่ะ ไม่ต้องกลัว” เขากวักมือเรียกภรรยารุ่นลูกให้เข้ามาถ่ายรูปคู่กับเจ้าช้าง ควานช้างกวักมือเรียกเธอให้เข้าไปอีกคน เธอตอบปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด ทว่าก็ลังเลว่าจะเข้าไปถ่ายรูปด้วยหรือไม่ อุตส่าห์มาแล้วสักหน่อยคงไม่เป็นไร ท่ามกลางใจที่กลัวที่สุด
สุดท้ายเธอก็ยอมเข้าไปถ่ายรูปกับเจ้าช่างด้วยใจที่ระแวง พอเสร็จจากตรงนี้พวกเธอก็เดินเข้าไปในโซนที่เป็นร้านกาแฟ ด้านในอลังการพอสมควร เธอชอบมาก ! พอใจที่สุด ไม่เสียความรู้สึกเลยที่ตัดสินใจมาที่นี่
วันนี้เป็นวันจันทร์ก็ยังมีผู้คนมาเที่ยวชิมกาแฟมากมาย ทุกคนล้วนทำตามกฎระเบียบป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัดกัน ถึงจะมาเที่ยวชิว ๆ ก็ตาม ป้องกันไว้ดีที่สุดนั่นแหละ
มาถึงพรนภาก็เดินไปต่อคิวซื้อกาแฟทันที “ตัวเองเอสไรเอ่ย เย็นหรือปั่น” หันไปถามเมธี รายนี้ชอบทานเอสเพรสโซ่ที่สุด
“อ่า โกโก้ปั่นดีกว่าค่ะ” เขาตอบ
“ฮึ !” เลิกคิ้วทำหน้าสงสัย วันนี้ทานโกโก้แฮะ ยิ้มให้กับเขา “โอเคค่ะ รอเค้าอยู่ตางนี้นะ”
“ค่ะ” เขาตอบ จากนั้นเธอก็เดินไปสั่งเมนู คุยกันกระหนุงกระหนิงตามประสาของพวกเธอ ไม่สนใจสายตาของใครหลาย ๆ คนที่มองมาสักนิด ด้วยอายุที่ห่างกันทำให้ต้องตกเป็นเป้าสายตาของคนที่ชอบอยากรู้เรื่องคนอื่น ทว่าพวกเธอก็ไม่ใส่ใจ แล้วแต่ใคร ๆ จะมองจะนินทาเลย
“ชื่อคุณอะไรครับ เอาชื่อเล่นครับ” พนักงานชายถาม พร้อมจดเมนูที่เธอสั่งลงไป
“ชื่อนภาค่ะ”
“คุณนภานะครับ เดี๋ยวทำเสร็จทางร้านจะประกาศเรียกชื่อคุณนภาให้มารับเครื่องดื่มนะครับ ระหว่างรอให้คุณนภาเดินถ่ายรูปชมร้านของเราได้ตามสบายเลยนะครับ ขอให้มีความสุขกับร้านมองช้างของเรานะครับ” พนักงานชายพูดปนยิ้มกับเธอ พร้อมยื่นบัตรคิวให้ เธอเองก็ยิ้มตอบพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินกลับมาหาสามีที่ยืนรออยู่ด้านนอก
“ว่ายังไงคะ” เขาถาม ยกมือขึ้นมาโอบไหล่ของเธอ ยิ่งทำให้ผู้คนมองเข้าไปอีก ทว่าก็ไม่ได้ยินเสียงซุบซิบกัน บางที่ ๆ พวกเธอไปมีเสียงซุบซิบกันให้ได้ยินด้วย เป็นอะไรที่เสียมารยาทมาก ๆ อยากจะบอกว่า ‘ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดีเหลือเกิน’
“อ้อ เดี๋ยวเค้าประกาศเรียกค่ะถ้าทำเสร็จแล้ว ส่วนเราไปหาถ่ายรูปกัน เริ่ม ! ฮา “ เธอพูดด้วยความอารมณ์ดีที่สุด
“โอเค ! Let’s go” เขาตอบตกลงด้วยรอยยิ้ม ความสุขของภรรยาสาวคนนี้มีหรือจะขัดใจ ส่วนเขาตำแหน่งหน้าที่ช่างภาพส่วนตัวนั่นเอง
เขาและเธอเดินถ่ายรูปทุกมุมของร้านกันเลย นางแบบตัวน้อยคนดีที่น่ารักของเขา “น้องมาทางนี้ค่ะ มุมนี้สวยเห็นวิวตรงนี้ด้วย” เขาเรียกเธอให้มายืนมุมตรงนี้ เขาจะถ่ายรูปให้
พรนภาทำตามที่เขาบอก ยืนเป็นนางแบบให้สามีสุดที่รักเก็บภาพสวย ๆ ให้
….ขออนุญาตประกาศครับ เชิญคุณนภามารับเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์ได้แล้วครับ เมนูที่สั่งเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ประกาศอีกครั้งนะครับ คุณนภามารับเครื่องดื่มด้วยครับ ขอบคุณครับ…
เสียงพนักงานประกาศชื่อของเธอ เรียกให้ไปรับเครื่องดื่มที่สั่ง “น้องเค้าเรียกแล้วค่ะ เดี๋ยวพี่ไปเอาเอง น้องรอตรงนี้นะคะ”
“ม่าย ! ไปด้วยกันเลย” ไม่อยากให้เมธีไปคนเดียว ไม่ชอบสายตาพนักงานหญิงคนหนึ่งมองสามีของตนเองเลย ไม่ชอบ ! จึงขอตามไปด้วย ทว่าก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่เธอรู้ ! หึหึ
“โอเคค่ะไปก็ไป ปะ !” เขากอดคอเธอเดินไปรับเครื่องดื่มด้วยกัน จากนั้นก็เดินหาที่นั่ง พวกเธอได้มุมนั่งที่เหมาะ ๆ แล้ว มีมุมให้เก็บภาพไปอีกด้วย สวยมาก ! คือ มันถูกใจของเธอที่สุด เธอที่ชอบเซลฟี่ที่สุดเลย ได้มาสร้างคอนเทนท์กับร้านกาแฟสักทีสำหรับเดือนนี้
“พี่เมธีมาเค้าถ่ายรูปให้ตัวเอง นะ… นะคะ” ทำหน้าอ้อนแบบไม่เกรงใจคนอื่น ๆ ที่อยู่แถว ๆ นี้เลย ช่างปะไร ตัวใครตัวมันแฟนใครแฟนมันหนิ เธอไม่สนใจหรอก “มานั่งตรงนี้เลย เร็ว ๆ เค้าจะถ่ายรูปให้” ชี้มุมให้สามีรุ่นพ่อนั่ง
“ได้ค่ะ !” เขาทำตามอย่างว่าง่าย หยิบแว่นตากันแดดมิลเลอร์ออกมาสวม อย่างหล่อที่สุดเลย คนอะไรหล่อชะมัดสามีของเค้า พูดในใจพลางเผยยิ้มนิด ๆ ที่มุมปากด้วย “ยิ้มอะไรก่อน” เขาถาม
“เปล่าค่า ! แฮ่” ปฏิเสธไป “นึง สอง “ นับให้สัญญาณก่อนจะกดชัตเตอร์ถ่ายรูปให้กับเขา “หล่ออ่ะ ฮา ฝีมือล้วน ๆ เหอะ นภาถ่ายรูปสวยจะตาย” ชมฝีมือตนเองไปอีก พร้อมให้เจ้าตัวดูรูปไปด้วย
“คนมันหล่ออยู่แล้วมั้ยคะ ฮา” เขาพูดปนหัวเราะเช่นกัน แหม ! ไม่ค่อยจะเลย คนอะไรก็ไม่รู้หลงตังเองชะมัด ค่อนขอดให้ในใจ
“อีกรูปหนึ่งค่ะ เอามุมนี้” เธอชี้มือไปยังมุมถ่ายรูปอีกมุม ให้เมธีไปนั่งตรงนั้น เจ้าตัวก็ทำตามอย่างว่าง่ายอีกเช่นเดิม วันนี้ดูพูดง่ายแฮะ ไม่ดื้อ ! ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา จะถ่ายรูปทีต้องแอบถ่ายทีเผลอกันเลย แต่สำหรับวันนี้สั่งให้ทำอะไรก็ทำ
หลังจากเดินถ่ายรูปกันจนพอใจแล้ว ก็หาที่นั่งทานข้าวกัน เพราะท้องเริ่มหิวแล้ว ดูนาฬิกาเที่ยงจวนจะบ่ายโมงเข้าทุกที พวกเธอจึงหาที่นั่งทานข้าวกัน พร้อมเรียกพนักงานมาสั่งเมนูอาหาร สำหรับเธอแล้วเน้นวิวถ่ายรูปมากกว่าเน้นทาน
พนักงานรับเมนูไปแล้วคราวนี้ก็นั่งรอ นอกจากวิวถ่ายรูปสวยแล้ว กาแฟอร่อยแล้ว ทางร้านยังมีการแสดงโชว์ให้ชมฟรีอีกด้วย เป็นอะไรที่อเมสซิ่งมาก ๆ ไม่ผิดหวังจริง ๆ ที่เลือกมามองช้างคาเฟ่
การแสดงเป็นการแสดงโชว์ของคน ไม่ใช่ของสัตว์ คนที่ตั้งใจดูเห็นจะเป็นเมธีมากกว่า คงจะชอบล่ะสิ เพราะพนักงานแสดงโชว์นุ่งน้อยห่มน้อย ทำให้คนที่มาดื่มด่ำกาแฟ นอกจากจะละมุนไปกับรสชาติของกาแฟแล้ว ยังได้ดื่มด่ำไปกับการแสดงโชว์ของนางแมวป่า นางเสือดาว นางเสือสมิงของทางร้านไปด้วย
เสียงปรบมือดังกระหึ่มให้กำลังใจแก่นักแสดง เธอก็ไม่ได้ต่อว่า หรือ ทำให้เมธีเกิดความรำคาญใจ อยากดูก็ให้ดูไป ความสุขทางสายตา อนุญาตให้เปิดหูเปิดตาหนึ่งวัน จากที่อยู่กับเธอจนเบื่อแล้ว วันนี้ก็อนุญาตให้ดูสิ่งใหม่ ๆ บ้าง ไม่ว่ากันอยู่แล้วอยากให้เมธีมีความสุขที่สุดสำหรับมาเที่ยวร้านกาแฟในวันนี้
ทุกคนต่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ถ่ายคลิปวีดีโอบ้าง รวมทั้งเธอด้วยที่ถ่ายคลิปบางส่วนเอาไว้ เผื่อพี่เมธีอยากเปิดดู หึหึ พวกเธอนั่งทานข้าวไปด้วยดูแสดงโชว์ไปพร้อมอยากมีความสุข พอการแสดงโชว์จบประจวบเหมาะกับที่พวกเธอทานข้าวอิ่มพอดี จึงชวนกันเดินหาเก็บภาพถ่ายรูปโซนที่เหลือกันต่อสักหน่อย ค่อยเดินทางกลับ สำหรับวันนี้มาแค่นี้พอ มันเป็นแค่นี้ที่ยิ่งใหญ่ ที่มีความสุขสำหรับเธอ
ไปไหนก็ได้ ใกล้ไกลไปได้หมด แค่ไปกับคนของใจ คนที่เธอรัก แค่ได้เดินทางกับพี่เมธีพรนภาคนนี้ก็พอใจ และ มีความสุขล่ะ
“กลับได้ยังคะ” เขาถาม นี่ก็ปาไปบ่ายสามโมงแล้วที่พวกเธออยู่ที่นี่กัน
“กลับได้แล้วค่ะ ! งั้นเรากลับเถอะ อือ วันหลังพาต้นน้ำมากันเนอะ นภาอยากพาหลานมาดูช้างอ่ะ” เธอบอกสามี มองใบหน้าเกลี้ยงเกลาสะอาดนั้นอย่างรักที่สุด เธออยากพาหลานลูกของญาติมาดูบ้าง เจ้าอ้วนต้นน้ำคงชอบน่าดูแน่ ๆ