เมื่อฉันมีเพื่อนเป็นโรคซึมเศร้า ฉันควรทำอย่างไร ?

สวัสดีค่ะ

เรามีเพื่อนเป็นซึมเศร้า เพื่อนเข้ารับการรักษาแล้ว ไปเจอหมอเป็นประจำไม่ขาด กินยาตามหมอตลอด หมอบอกว่าเพื่อนดีขึ้นค่ะ เราดีใจด้วย เค้ามองเราเป็น safe zone เวลามีอะไรจะโทรมาคุยกับเราตลอด แต่เราก็ไม่ได้ว่างคุยตลอดนะคะ
 

ปกติเพื่อนในกลุ่มจะเป็นแนวไม่ใช่สายเม้ามอย เราแทบไม่ได้นัดกินข้าวหรือนัดเที่ยวอะไรกันเลย ต่างคนต่างใช้ชีวิต เวลามีอะไรปรึกษาจะพิมพ์ถามเอา เพราะเพื่อนอีกหลายคนอยู่ต่างจังหวัดด้วย นานๆทีถึงคุยไลน์ในกลุ่ม ซึ่งเราใช้ชีวิตแบบนี้กันมาตลอด
 

แต่ทีนี้ วันนึงเพื่อนคนนี้คือเครียด + นอนไม่หลับ พอไปหาหมอ หมอบอกว่าเป็นซึมเศร้า เราไม่รู้ว่าขั้นไหน แต่คือหนักอยู่ เค้ารักษามาเรื่อยๆ มีอะไรมาบ่นกับเราบ้าง เราก็ว่างบ้างไม่ว่างบ้าง เนื่องจากงานเราเยอะมาก แต่พักหลังๆ เพื่อนเราโทรมาแทบทุกวัน และทุกเวลา จนเราไม่มีเวลาส่วนตัว บางทีเราไม่ได้รับสายเพราะเพื่อนโทรมาดึกมาก อีกวันมาเค้าจะมายืนรอเรา หน้าตึกที่ทำงานแต่เช้าเลย เพื่อมาคุยกับเรา 
 

หลังๆมาเราอึดอัดค่ะ เราเหมือนได้พลังลบจากเค้าทุกๆวัน เราไม่มีเวลาส่วนตัว บางวันเราหลับไปเลยไม่ได้ตอบ หรือไม่ได้รับสาย เค้าก็จะทักน้องชายเรามา ถามว่าเราอยู่ด้วยมั้ย ขอคุยกับเราหน่อย เราสงสารน้องมากๆ แต่ก็รู้สึกผิดด้วย 
 

เราคิดว่าเข้าใจคนเป็นโรคนี้อยู่ระดับหนึ่งนะคะ เราเคยอ่านบทความเกี่ยวกับโรคนี้ อ่านเพื่อทำความเข้าใจ เราก็ไม่ได้บอกให้เพื่อนสู้ เรารับฟังอย่างเดียว  แต่หลังๆมามันเยอะมากๆ บางวันเราเครียดกับงาน เครียดอะไรหลายๆอย่าง เราไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว พอเราไม่ได้รับสายเพื่อน เราก็เครียดไปอีก เป็นห่วงเพื่อนก็เป็น แต่ลำพังตัวเราเอง ก็แทบจะแบกตัวเองไม่ไหวแล้ว 

ไปอ่านเจอเขาบอกว่าคนเป็นโรคนี้เหมือนตัวเองลงไปอยู่ในหลุม เราบอกให้เค้าขึ้นมาไม่ได้หรอก เราต้องลงไปอยู่ในหลุมเป็นเพื่อนเค้า แต่เราลงไปอยู่กับเค้าบ่อยมากๆ จนกลัวว่านานๆไปเราจะขึ้นมาไม่ได้ด้วยมั้ย เราอยาก save ตัวเองด้วย 
 

เราไม่รู้ต้องทำยังไงแล้ว กลัวว่าอีกหน่อยเราจะต้องไปหาหมอด้วยอ่ะค่ะ 
 

ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆในห้องนี้หน่อยนะคะ จะคนที่เป็น หรือที่คนใกล้ชิดกับคนเป็นก็ได้ หรือใครก็ได้ค่ะ รับฟังทุกความเห็นนะคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
เข้าใจ จขกท นะ การเป็นผู้ฟัง เป็นเพื่อนที่ดี อยู่เคียงข้างเพื่อนที่เป็นซึมเศร้า มันดีอยู่หรอก แต่เราโอเครึป่าว ตัวเราอะ

ถ้าเขาเบียดเบียนเวลาเราขนาดนั้นนน มันก็ไม่ไหวหรอกนะครับ โทรหาทุกเวลาที่อยากคุย โทรดึกดื่น ตื่นมาก็รอหน้าบ้าน แบบเนี้ย เกินขอบเขตไปแล้วครับ เราไม่ใช่พ่อพระ แม่พระ และไม่ใช่คนจิตใจเข้มแข็ง ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่นักจิตวิทยา ไม่ใช่พ่อแม่ ไม่ใช่ลูกหนี้ ไม่ได้ติดค้างอะไรเลย เราแค่เพื่อนผู้หวังดีคนนึงอะครับ ทำไมเราต้องมาเสียเวลา เสียพลังชีวิต โดนดูด ท้อแท้ตามไปด้วยละครับ จริงไหม อิอิ

การที่เราเปรียบเปรยว่า คนเป็นโรคซึมเศร้าเหมือนตกอยู่ในหลุมและพยายามดึงคนอื่นลงหลุมให้ดิ่งไปด้วยกันนั้น ถือว่าเป็นแนวคิดที่จริงพอสมควร เราต้องทำความเข้าใจอีกสักนิด ธรรมชาติของคนซึมเศร้ารุนแรง เหมือนคนกำลังจมน้ำตาย ณ.วินาทีจมน้ำ เขาพร้อมจะกดหัวทุกๆคนที่เข้ามาช่วยครับ เขาไม่สนแม้ต้องกดหัวคนอื่นให้จมตายเขาก็จะทำ เพราะการมีชีวิตรอดเป็นสัญชาตญาณพื้นฐานของทุกชีวิต เขาไม่ตั้งใจทำร้ายใคร เขาแค่ทำไปตามที่รู้สึกว่าต้องทำครับ

เพื่อน จขกท ก็เช่นกัน หากทำสิ่งใดแล้วรู้สึกดีขึ้น เขาก็จะทำที่ทำได้ หนึ่งในนั้นคือการได้พูดคุยกับเรา ระบายกับเรา โทรหาเรา ไม่ว่าเราจะคิดว่าเพื่อนตั้งใจฉุดเรารึป่าว นั่นไม่สำคัญ ปกติไม่มีใครตั้งใจทำร้ายคนอื่นครับ เขาแค่อยากรู้สึกดี และเขาจะทำแบบนี้เรื่อยๆๆๆๆๆ ไหนๆ เราก็วางตัวเป็นที่รองรับขนาดนี้แล้ว 5555

ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร หากปล่อยให้เป็นแบบนี้?
เราจะโดนดูดให้ตกลงไปในหลุมให้เศร้าจนตัวเราเป็นโรคซึมเศร้าเช่นกัน ระหว่างที่กระบวนการนี้กำลังเกิดขึ้น จะมีแรงต้านในตัวเรา เราเซ็นส์ได้ว่าไม่ต้องการตกหลุมนะ เราไม่อยากซึมเศร้าไปด้วยนะ เราเริ่มไม่ไหวแล้ว เราไม่อยากรู้สึกไม่ดี เป็นความรู้สึกที่ จขกท กำลังรู้สึกอยู่ ตัวเราเองไม่ได้อยากจะรู้สึกแย่ แต่เราก็ไม่อยากทำร้ายเพื่อนเช่นกัน เรากลัวว่าปฎิเสธการคุยกับเพื่อน จะทำให้เพื่อนอาการหนัก เราหวังดีกับเพื่อน แต่เราก็ไม่อยากจมดิ่งลงไปด้วย นั่นคือแรงต้านกำลังเกิด เราจึงรู้สึกแย่ครับ

การปล่อยให้เพื่อนได้ระบายกับเราต่อไปเรื่อยๆๆๆๆ โดยไม่เซฟตัวเองเลย โดนเบียดเบียนชีวิต เบียดเวลา บางครั้งชีวิตเราก็มีเรื่องของเราที่ต้องแก้ปัญหา ยังต้องมารับฟังปัญหาคนอื่นอีก มันจะทำให้เราแย่ จนถึงจุดหนึ่ง จุดนั้นคือจุดที่เราดิ่งต่ำกว่าเพื่อนครับ (หมายถึงเราซึมเศร้าหนักกว่าเพื่อน) เมื่อนั้น พลังลบของเราจะมีมากกว่า และเพื่อนจะเริ่มบอก บ๊ายบาย ไม่อยากคุยกับเราโดยอัตโนมัติ เพราะการคุยกับเรา ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีอีกต่อไป กลายเป็นว่าเราเนี่ยละอาการหนักกว่า

เพราะงั้น วิธีช่วย ก็ต้องใช้ Mindset แบบว่า เราไม่ลงไปในหลุมด้วยครับ เราต้องไม่เอาตัวเราดิ่งลงไปด้วย เราต้องยืนจากด้านบน คอยสนับสนุนให้เพื่อนเห็นว่าข้างบนมันดีกว่านะ ขึ้นมาเถอะ! ถ้าต้องลงมือช่วย เราก็ยื่นมือไปดึงช่วยเฉยๆครับ เราไม่ผลักจากด้านล่าง เราดึงจากข้างบน เหมือนเวลาช่วยคนจะจมน้ำอะครับ เราโยนห่วงยางไปให้เขาเกาะ หรือเราหาไม้ยาวๆ ยื่นให้เขาจับครับ เราไม่กระโดดลงไปในกระแสน้ำอันโหดร้ายด้วย เพราะเราอาจตายไปด้วยอะครับ

เราไม่ได้ทิ้งเพื่อน เราไม่ได้ทำตัวแย่ใดๆทั้งนั้น ในการเซฟตัวเอง อย่าไปรู้สึกแย่ เราช่วยได้เท่าที่เราทำได้ ถ้าศึกษาลึกๆ การที่เราจมปลักเศร้าไปกับเพื่อน ไม่ใช่การแก้ปัญหาครับ และการที่คนๆนึงจะหายซึมเศร้า จะกระโดดออกจากหลุมได้ มันต้องมาจากตัวเขาเอง เราไปแก้แทนให้ไม่ได้ครับ สิ่งที่เราทำได้คือให้กำลังใจ สนับสนุนจากด้านบน เป็นตัวอย่างของพลังบวกให้เพื่อนเห็น เป็นที่พึ่งพาที่แข็งแกร่งที่ไม่หวั่นไหว ให้เขามองขึ้นมาหาเรา แล้วดึงตัวเขาเองขึ้นมาครับ ไม่ใช่ว่าเราลงไปอุ้มเขาครับ สุดท้ายถ้าเป็นคนปฎิเสธไม่เก่ง มันไม่ยาก เราบอกเรางานยุ่ง เราไม่ว่าง มันไม่ได้ทำร้ายใครหรอกครับ พอช่วงไหนที่เราว่าง ช่วงที่เรากำลังมีความสุข เราก็เป็นฝ่ายโทรไปคุย แบ่งปันความสุขก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายรองรับทุกข์อย่างเดียว การสนทนายังไงก็เกิดขึ้นเพราะมี 2 ฝ่ายและพลังงานจะแลกเปลี่ยนกันตลอดครับ ต่อให้เราอยากช่วยเพื่อนและฝืนรับฟัง มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากหรอก เพราะพลังงานของเราเองก็ไม่ได้เป็นบวกอะไรมากมายที่จะไปช่วยเพื่อนอะครับ มันเป็นลักษณะยอมให้เพื่อนเหยียบตัวเราเพื่อเพื่อนรู้สึกดีขึ้นมาบ้างเฉยๆ ระยะยาวเราอย่าไปโดนเหยียบบ่อยๆครับ ทำบุญเป็นสิ่งดี แต่ถ้าทำบุญขณะจิตใจเราลบ เราจะทำไปทำไมครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่