สวัสดีค่ะ ปัจจุบันนั้น ยุ้ยใช้งาน iphone 8 plus และก็แอบเอามือถือแฟน(iphone11 pro)มาใช้ถ่ายภาพและวิดีโออยู่ประจำคะ ซึ่งมือถือ iphone11pro ที่มีนั้นมันก็ดี แต่สิ่งที่ขาดไปน่าจะเป็นเรื่องการถ่าย wide lens ในที่มืดและอยากจะลองของใหม่อย่างการถ่ายแบบ Cinematic Mode ซึ่งเป็นโหมดที่ Apple เคลมว่าถ่ายออกมาได้สวยเลยทีเดียว
การสั่งซื้อ
เริ่มต้นจากการสั่งซื้อนั้น ยุ้ยสั่งซื้อไปวันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2564 (ที่อเมริกา) ซึ่งทางบริษัทใช้ระยะเวลาในการจัดส่ง 7 วันนะคะ
อย่างไรก็ตาม เราเลือกแบบ delivery ถึงบ้าน แต่เอาจริงๆ มันก็ไม่ถึงบ้าน เพราะพัสดุมันแพง ทาง Apple เค้าให้เราไปรับที่ศูนย์ UPS drop off แถวบ้านนะคะ
แกะกล่อง 13 pro
ของในกล่องที่ให้มา : สายชาร์จ usb type C to Lightning port แค่นั้นจริงๆ ค่ะ
ภายในกล่องจะมี สายชาร์จ usb type C to Lightning port ให้เพียงแค่นั้น ตัวกล่องนั้นบางลงไปมากๆ
ภาพถ่าย
Macro Mode(pic and video)
โหมดนี้ถือว่าเป็นโหมดที่ฝรั่งทุกคนพูดถึงกันอย่างมากค่ะ ใน mode นี้ เราสามารถเอาเลนส์ wide ของกล้องเข้าใกล้วัตถุได้ใกล้สุดที่ 2 cm ซึ่งตัวกล้องนั้นจะให้ประสบการณ์อย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ในความคิดเห็นส่วนตัวของยุ้ย ยุ้ยคิดถ้ามีมือถือที่สามารถขยายภาพได้ขนาดนี้แล้ว อนาคตเราคงไม่ต้องใช้เลนส์ส่องพระเครื่องกันแล้วล่ะค่ะ ฮ่าๆ มันสะดวกจริงๆ นะ
อันนี้ของลองอีกรอบโดยการถ่ายลงไปในธนบัตร $1
Cinematic mode
อันนี้เหมาะกับสาย youtuber หรือสายวิดีโอเลยคะ การถ่ายโหมดนี้ก็ไม่ยากอะไรเลย เพียงแค่เราหยิบกล้องขึ้นมาและเปลี่ยนเป็นโหมด Cinematic จากนั้นก็เล็งไปที่หน้าคน
ตัวมือถือจะทำการโฟกัสหน้าคนให้เองหรือเราจะเอามาโฟกัสสิ่งของเองก็ได้แต่เราต้องแตะที่หน้าจอเพื่อให้โฟกัสของกล้องเปลี่ยนไปนะคะ
ความเห็นส่วนตัว : สิ่งที่ยุ้ยคิดว่ามันว้าวกว่า iphone 11pro ที่มี app foco live มาก็ตามคือเรื่องการทำหลังเบลอ ซึ่งตัว Cinematic Mode ของ iphone นั้นทำออกมาได้สมจริงกว่า App นะคะ
ปล. ยุ้ยทำวิดีโอเอาไว้ด้านล่างคลิปนะคะ ลองชมวิดีโอกันดูนะคะ
Night mode
โหมดนี้ก็เป็นโหมดที่ฝรั่งเค้าฮือฮากัน
นี่เป็นการภาพถ่ายจากวิดีโอด้วยเลนส์ต่างๆ ของ iphone 11 pro และ iphone 13 pro เพื่อเปรียบเทียบการมองเห็นในที่มืดกันนะคะ
อย่างที่เห็นได้ชัดเลยคือตัว iphone13pro นั้นจะเก็บแสงได้มากกว่าในทุกๆ ด้าน make the picture or the vdo ในส่วนของภาพถ่ายนั้น iphone13pro จะทำ HDR ออกมาได้ดีกว่า iphone11pro อย่างที่เห็นเลยค่ะ
ส่วนภาพด้านล่างนี้เป็นการถ่าย Night Mode ทั้งคู่จากเลนปกติของ iphone 11 pro และ iphone 13pro คะ
ปล. iphone 11pro ไม่มี night mode สำหรับ wide len นะคะ ยุ้ยเลยไม่ได้เอามาลงเพื่อเปรียบเทียบเพราะมันจะเหมือนมวยคนล่ะรุ่นไปเลยค้าา
Portrait
โหมดนี้เอาใจผู้ใช้งาน สาวๆแบบเราๆ นี่แหละค่ะ เรามองว่ากล้องดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วเนอะ
Wide & Tele
ส่วนเลน wide นั้น iphone11pro กับ 13pro แทบจะไม่ต่างกัน จะมีเพียงเรื่อง white balance ที่ iphone13pro ทำได้จืดกว่านะคะ
ส่วนเรื่อง zoom นั้น iphone13pro จะ zoom ได้มากกว่าและภาพที่ถ่ายออกมาจะเห็นได้ว่า iphone13pro ถ่ายได้ชัดกว่า iphone11pro ค่ะ
ปล. นี่เป็นภาพที่ capture มาจากวิดีโอนะคะ เชื่อว่าถ้าถ่ายภาพกันจริงๆ ก็จะชัดเจนกว่านี้ค่ะ
Running shot
โหมดนี้เป็นโหมดจำเป็นสำหรับทุกคนเลยเพราะเวลาเราเจอสถานการณ์ฉุกเฉินเช่น รถชน, ไฟไหม้, หรือคนหาเรื่องเรา การหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายและวิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่เราต้องทำทันที ดังนั้นการทดสอบนี้จึงเป็นทดสอบที่สำคัญอีกอันนึง เราจะเห็นได้ว่า iphone13pro สั่นน้อยกว่า iphone11pro อย่างเห็นได้ชัด
สรุป
หลังจากที่ยุ้ยใช้งานมือถือมาได้ 2 วันนี้ เริ่มเห็นความแตกต่างหลายอย่าง เช่น เวลาถ่ายภาพส่งให้เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่ารายละเอียดของภาพนั้นชัดเจนมากกว่า iphone 11 pro อย่างเห็นได้ชัด
ความคิดเห็นส่วนตัว iphone13pro นั้นเอามาใช้แทนกล้อง vlogger ได้เลยเพราะภาพที่ถ่ายออกมานั้น บางส่วนชัดและสมจริงเหมือนกล้อง DSLR ไปแล้วค่ะ
อีกเรื่องคือ เรื่องสัญญาณมือถือที่ยุ้ยใช้ที่อเมริกา
แต่ก่อนเวลายุ้ยขับรถจากมหาลัยกลับบ้านแล้วโทรคุย line กับที่บ้าน จะมีบางช่วงที่คลื่นโทรศัพท์หายไปหรือสัญญาณกระตุก แต่พอเปลี่ยนมาใช้ iphone 13pro ซึ่งสัญญาณเป็นแบบ 5G (ตลอดทางที่ขับกลับบ้าน) จะรู้สึกได้เลยว่าไม่มีปัญหาเรื่องสัญญาณ ทั้งๆ ที่ใช้ simcard ค่ายเดิม
ยังไงก็ตามนี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวจากการที่เรา upgrade จาก iphone 11 pro เป็น iphone 13 pro
ถ้ายังไง ทุกท่านก็อดใจรออีก 1-2 อาทิตย์เพื่อไปเจอ iphone 13 pro ตัวจริงที่ตัวแทนจำหน่ายที่ไทยกันนะคะ
[CR] รีวิวกล้อง iphone 13 pro ทั้งโหมด Cinematic และโหมด Macro
สวัสดีค่ะ ปัจจุบันนั้น ยุ้ยใช้งาน iphone 8 plus และก็แอบเอามือถือแฟน(iphone11 pro)มาใช้ถ่ายภาพและวิดีโออยู่ประจำคะ ซึ่งมือถือ iphone11pro ที่มีนั้นมันก็ดี แต่สิ่งที่ขาดไปน่าจะเป็นเรื่องการถ่าย wide lens ในที่มืดและอยากจะลองของใหม่อย่างการถ่ายแบบ Cinematic Mode ซึ่งเป็นโหมดที่ Apple เคลมว่าถ่ายออกมาได้สวยเลยทีเดียว
การสั่งซื้อ
เริ่มต้นจากการสั่งซื้อนั้น ยุ้ยสั่งซื้อไปวันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2564 (ที่อเมริกา) ซึ่งทางบริษัทใช้ระยะเวลาในการจัดส่ง 7 วันนะคะ
อย่างไรก็ตาม เราเลือกแบบ delivery ถึงบ้าน แต่เอาจริงๆ มันก็ไม่ถึงบ้าน เพราะพัสดุมันแพง ทาง Apple เค้าให้เราไปรับที่ศูนย์ UPS drop off แถวบ้านนะคะ
แกะกล่อง 13 pro
ของในกล่องที่ให้มา : สายชาร์จ usb type C to Lightning port แค่นั้นจริงๆ ค่ะ
ภายในกล่องจะมี สายชาร์จ usb type C to Lightning port ให้เพียงแค่นั้น ตัวกล่องนั้นบางลงไปมากๆ
ภาพถ่าย
Macro Mode(pic and video)
โหมดนี้ถือว่าเป็นโหมดที่ฝรั่งทุกคนพูดถึงกันอย่างมากค่ะ ใน mode นี้ เราสามารถเอาเลนส์ wide ของกล้องเข้าใกล้วัตถุได้ใกล้สุดที่ 2 cm ซึ่งตัวกล้องนั้นจะให้ประสบการณ์อย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ในความคิดเห็นส่วนตัวของยุ้ย ยุ้ยคิดถ้ามีมือถือที่สามารถขยายภาพได้ขนาดนี้แล้ว อนาคตเราคงไม่ต้องใช้เลนส์ส่องพระเครื่องกันแล้วล่ะค่ะ ฮ่าๆ มันสะดวกจริงๆ นะ
อันนี้ของลองอีกรอบโดยการถ่ายลงไปในธนบัตร $1
Cinematic mode
อันนี้เหมาะกับสาย youtuber หรือสายวิดีโอเลยคะ การถ่ายโหมดนี้ก็ไม่ยากอะไรเลย เพียงแค่เราหยิบกล้องขึ้นมาและเปลี่ยนเป็นโหมด Cinematic จากนั้นก็เล็งไปที่หน้าคน
ตัวมือถือจะทำการโฟกัสหน้าคนให้เองหรือเราจะเอามาโฟกัสสิ่งของเองก็ได้แต่เราต้องแตะที่หน้าจอเพื่อให้โฟกัสของกล้องเปลี่ยนไปนะคะ
ความเห็นส่วนตัว : สิ่งที่ยุ้ยคิดว่ามันว้าวกว่า iphone 11pro ที่มี app foco live มาก็ตามคือเรื่องการทำหลังเบลอ ซึ่งตัว Cinematic Mode ของ iphone นั้นทำออกมาได้สมจริงกว่า App นะคะ
ปล. ยุ้ยทำวิดีโอเอาไว้ด้านล่างคลิปนะคะ ลองชมวิดีโอกันดูนะคะ
Night mode
โหมดนี้ก็เป็นโหมดที่ฝรั่งเค้าฮือฮากัน
นี่เป็นการภาพถ่ายจากวิดีโอด้วยเลนส์ต่างๆ ของ iphone 11 pro และ iphone 13 pro เพื่อเปรียบเทียบการมองเห็นในที่มืดกันนะคะ
อย่างที่เห็นได้ชัดเลยคือตัว iphone13pro นั้นจะเก็บแสงได้มากกว่าในทุกๆ ด้าน make the picture or the vdo ในส่วนของภาพถ่ายนั้น iphone13pro จะทำ HDR ออกมาได้ดีกว่า iphone11pro อย่างที่เห็นเลยค่ะ
ส่วนภาพด้านล่างนี้เป็นการถ่าย Night Mode ทั้งคู่จากเลนปกติของ iphone 11 pro และ iphone 13pro คะ
ปล. iphone 11pro ไม่มี night mode สำหรับ wide len นะคะ ยุ้ยเลยไม่ได้เอามาลงเพื่อเปรียบเทียบเพราะมันจะเหมือนมวยคนล่ะรุ่นไปเลยค้าา
Portrait
โหมดนี้เอาใจผู้ใช้งาน สาวๆแบบเราๆ นี่แหละค่ะ เรามองว่ากล้องดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วเนอะ
ส่วนเรื่อง zoom นั้น iphone13pro จะ zoom ได้มากกว่าและภาพที่ถ่ายออกมาจะเห็นได้ว่า iphone13pro ถ่ายได้ชัดกว่า iphone11pro ค่ะ
ปล. นี่เป็นภาพที่ capture มาจากวิดีโอนะคะ เชื่อว่าถ้าถ่ายภาพกันจริงๆ ก็จะชัดเจนกว่านี้ค่ะ
ความคิดเห็นส่วนตัว iphone13pro นั้นเอามาใช้แทนกล้อง vlogger ได้เลยเพราะภาพที่ถ่ายออกมานั้น บางส่วนชัดและสมจริงเหมือนกล้อง DSLR ไปแล้วค่ะ
อีกเรื่องคือ เรื่องสัญญาณมือถือที่ยุ้ยใช้ที่อเมริกา
แต่ก่อนเวลายุ้ยขับรถจากมหาลัยกลับบ้านแล้วโทรคุย line กับที่บ้าน จะมีบางช่วงที่คลื่นโทรศัพท์หายไปหรือสัญญาณกระตุก แต่พอเปลี่ยนมาใช้ iphone 13pro ซึ่งสัญญาณเป็นแบบ 5G (ตลอดทางที่ขับกลับบ้าน) จะรู้สึกได้เลยว่าไม่มีปัญหาเรื่องสัญญาณ ทั้งๆ ที่ใช้ simcard ค่ายเดิม
ยังไงก็ตามนี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวจากการที่เรา upgrade จาก iphone 11 pro เป็น iphone 13 pro
ถ้ายังไง ทุกท่านก็อดใจรออีก 1-2 อาทิตย์เพื่อไปเจอ iphone 13 pro ตัวจริงที่ตัวแทนจำหน่ายที่ไทยกันนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้