[CR] รีวิวการทำวีซ่านักเรียนไปเรียนอังกฤษ UK Student Visa ปี 2021 (รอมากกว่า 4 weeks ทั้งที่เขาบอกไม่เกิน 3 weeks)

วันนี้จะมาขอรีวิวการทำวีซ่านักเรียน ไปเรียนที่อังกฤษ ว่าจะต้องทำอย่างไรและเจออะไรมาบ้าง

เอกสารที่ต้องเตรียม
1. Passport ตัวจริง และสำเนา
2. CAS หรือ Confirmation of Acceptance for Studies จากมหาวิทยาลัย (เขาจะสั่งมาหลังจากเราจ่าย Deposit แล้ว ซึ่งปีนี้ช้ามากกกก กว่าจะได้ คือเราได้ offer และจ่าย Deposit ไปตั้งแต่ต้นปี แต่กว่าจะได้ CAS คือปลายเดือน 7)
3. Offer letter จากมหาวิทยาลัย
4. ผลการตรวจปอด Tuberculosis tests จาก IOM (ดูรายละเอียดได้ตามกระทู้นี้เลย https://pantip.com/topic/40816608)
5. ATAS อันนี้ต้องดูว่าคอร์สเราต้องใช้หรือเปล่ามันจะมีเขียนใน CAS อยู่ แต่ของเราไม่ต้องใช้ 
6. ค่าทำ VISA £348  ค่า Healthcare surcharge £470

เอกสารที่เตรียมเผื่อไว้ แต่เราไม่ได้ใช้พวกนี้นะ
- Bank Guarantee Letter / Bank Statement  ที่แสดงว่าเรามีเงินมากกว่าที่เขากำหนดแปลงเป็นเงินปอนด์และคงอยู่อย่างน้อย 28 วัน ( เงินค่าเทอมที่หักDepositออก + ( £1,334(London) or £1,023(Other cities) คูณเดือนที่เรียนแต่ไม่เกิน 9 เดือน) + ค่าเรียน Pre-sessional)
- ถ้ามีทุนหรือใช้บัญชีอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองต้องมี Sponsorship Letter ด้วย
- บัตรประชาชน และสำเนา
- Passport เล่มเก่าและสำเนา
- IELTS Test Certificate
- Transcript
- Degree Certificate

เตรียมไว้ด้วยว่า ใน 10 ปีที่ผ่านมาเคยไปประเทศไหนบ้าง เหตุผลเดินทาง วันที่เดินทางและระยะเวลา แล้วก็ดูวงเงินในบัตรดีๆด้วยว่าพอป่าว 

ถ้าทุกอย่างพร้อมแล้วก็กดสมัครตามลิงค์นี้เลย 
https://www.gov.uk/student-visa/apply

ข้อมูลที่ใช้กรอกส่วนใหญ่จะอยู่ใน CAS กรอกเสร็จอัพโหลดเอกสาร เราอัพโหลดแค่ที่เขาขอ ไม่ได้อัพโหลดอะไรเพิ่มเติม (พี่Consultบอกยิ่งโหลดเยอะเขายิ่งเช็คเยอะยิ่งนาน) จ่ายตังค่า VISA ค่า IHS พอเสร็จจะมีให้ทำการนัดหมายเพื่อเข้าไปถ่ายรูปสแกนลายนิ้วมือที่ VFS (เรากรอกข้อมูล 3 Aug แต่ได้คิวทำ Bio แบบ 24 Aug เลย แต่เข้ามาดูอีกรอบเลยเปลี่ยนมา 14 Aug ได้)

ในขั้นตอนนี้เราควรจะได้เมลประมาณ 5 เมลคือ
1. UK visa application: sign in details         จาก UKVI
2. Your Immigration Health Surcharge payment            
3. UK visa application: payment confirmation - what to do next  จาก UKVI
4. Welcome to VFS Global  จาก VFS
5. Your Visa Application Centre appointment  จาก VFS

ในการทำวีซ่าของเรานั้น 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องทำความเข้าใจก่อนจะได้ตามถูก 
1. UKVI เป็นหน่วยงานที่อยู่ที่ UK เป็นคนพิจารณาวีซ่าให้เรา แต่เราจะไม่ได้ติดต่อเขาโดยตรงเราจะทำเรื่องผ่าน VFS
2. VFS เป็น 3rd Party เป็นบริษัทไว้ทำเรื่องวีซ่าให้ ซึ่งเวลาเราไปสแกนลายนิ้วมือ ถ่ายรูป รับวีซ่า ก็จะไปติดต่อ VFS นี่แหละ 
3. สถานทูตUK ที่ไทย  เขามีหน้าที่แปะใบวีซ่าให้เราแค่นั้น ไม่ได้มีอำนาจในการพิจารณาวีซ่าให้เรา

เมื่อถึงวันทำ Bio ที่นัดกับ VFS ไว้เราก้ไปที่ VFS Global Visa Application centre ที่ The Trendy Office Building ตามเวลานัดเลย สามารถจอดรถในตึกได้ต้องขึ้นไปจอดชั้น 5 เสียค่าจอดประมาณ 30 บาทถ้าเกินชมนึง (ปั้มตราที่จอด จอดฟรี 1 ชม ที่หน้าVFS) หรือไปจอดที่เทอมินอล21ก็ได้ หรือนั่ง BTS มาก็ได้  (เรามาจอดที่ตึกเลยเพราะไม่อยากเจอคนเยอะช่วงโควิท) 

พอถึงแล้วให้ไปที่ชั้น G ไปด้านหน้าจะเจอโต๊ะพี่รปภ ตรงนั้นจะมีลิฟตัวนึงสำหรับขึ้นไปชั้น 28 โดยเฉพาะ ถ้าคนเยอะ เราก้รับคิวจากพี่พนงตรงนั้นก่อน ถ้าคนไม่เยอะ เขาจะให้เราขึ้นตามเวลาที่นัด หรือก่อนซัก 10 นาที

พอขึ้นถึงชั้น 28 เลี้ยวซ้ายจะเจอเลย เขาจะให้เข้าเมื่อถึงเวลานัดเท่านั้น ถ้ายังไม่ถึงก้รอข้างหน้าไปก่อน พอเข้าไปแล้วยื่นใบนัดให้เจ้าหน้าเพื่อรับบัตรคิว เขาจะตรวจเอกสารเราก่อนรอบนึง ซึ่งเราอัพโหลดไปหมดแล้วเขาเลยไม่ได้เช้คมาก  แล้วไปนั่งรอคิวข้างใน

เมื่อถึงคิว ก็ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ ถ้าเรามีเอกสารที่ยังไม่ได้อัพโหลดหรือทำสำเนาก็ให้เขาทำตรงนี้ได้ แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แล้วก็ถ้าอยากเร่งก็จ่ายเงินเพิ่มตรงนี้ เราไม่ได้ทำ Priority เพราะตอนนั้นคนได้วีซ่าภายใน 2 อาทิตย์ คือโดยปรกติถ้ายื่นธรรมดา จะใช้เวลาไม่เกิน 3 อาทิตย์(15 working days) ถ้าจ่ายเพิ่มประมาณหมื่นบาท Priority จะได้ภายใน 1 อาทิตย์ (5 working days) หรือจ่าย 3-4 หมื่นบาท Super Priority จะได้ในวันทำการถัดไป ซึ่งการที่เราไม่ได้จ่ายเป็นการตัดสินใจที่ผิดมาก 

นอกจากนั้นเขาจะถามว่าจะรับ SMS บอกสถานะไหม ว่าวีซ่าเราได้ยัง คือ เขาจะมีส่งเมลมาให้อยู่แล้ว แต่ถ้าอยากได้ sms เพิ่มก็จ่ายเพิ่ม 80 บาท  ซึ่งเป็นการจ่ายที่ไม่คุ้มเลย เพราะเราได้เมลกะ SMS พร้อมกัน ถ้าเช้คเมลบ่อยอยู่แล้ว แนะนำไม่ต้องสมัครก็ได้

เมื่อเสร็จเรียบร้อยเขาจะให้ใบเสร็จแนบมากับสำเนา Passport เอาไว้สำหรับรับคืนเล่ม Passport เพราะเขาจะเก็บเล่มเราไว้ไปแปะใบวีซ่า 
เมื่อเสร็จจากตรงนี้ก็มานั่งรอหน้าห้อง Biometric เมื่อถึงคิวก็เข้าไปถ่ายรูป มีโอกาสครั้งเดียว แล้วไม่ให้ดูรูปด้วย 5555 จากนั้นแสกนลายนิ้วมือ จบกลับบ้านได้ อ้ออย่าลืมประทับตราบัตรจอดรถด้วยนะ 

เราไปทำ Bio วันเสาร์ วันอาทิตย์ได้เมลและ SMS ว่าApplication เรา Forward ไปให้ UKVI ละนะ จากนั้นก็รอไป 

เราก็รอไปจนครบ 15 working days ก็ยังไม่ได้ เราเลยไปที่ VFS อีกรอบเพื่อมาเช็คเล่มว่ามายัง เพราะเราไม่สามารถเช็คได้เลยว่าวีซ่าตอนนี้เราอยู่ที่ขั้นไหนแล้ว ไปถาม VFS เขาก็ไม่รุ้ เขาได้แต่จดชื่อไปเพื่อจะเอาไปเช็คให้ เรานี่ไปทุกจันทร์ พุธ ศุกร์เลย ก็คือไปที่ตึกรอคิวข้างล่าง แล้วรับบัตรคิวข้างบน รอๆๆๆ พอถึงคิวที่เคาเตอร์ยื่นใบเสร็จให้เขาเช็ค และพบว่าเล่มยังไม่มา เดินคอตกกลับบ้านวนไป และเราก็เลื่อนตั๋วเครื่องบินไปเรื่อยๆ ดีที่เลือกแบบเลื่อนฟรี 

ขอแนะนำวิธีการตามวีซ่า ถ้ายังไม่เกิน 15 วัน ยังทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเกินแล้วอย่างแรกคือส่งเรื่องไปหา UKVI ตามลิงค์นี้  https://ukvi.mysecurepay.co.uk/Home   ซึ่งต้องเสีย £2.74 และเขาจะตอบภายใน 2 working days ไม่รวมวันศุกร์  แต่แต่แต่ เราส่งเมลไปถามวันพุธ ได้เมลตอบมาวันอาทิตย์ของอีกสัปดาห์นึง ซึ่งเราได้วีว่ามาแล้วเฮ้อออ แต่คนอื่นที่ถามไปก่อนเราคือเขาตอบภายใน 2 วันนะ สงสัยช่วงนั้นคือพีคจริง ถ้าเขาตอบกลับมาว่ายังพิจารณาอยู่ก็ทำไรไม่ได้รอต่อไป เราก็ส่งเมลถามเขาได้เรื่อยๆนะ ไม่ต้องเสียตังแระถ้า reply จากอันเดิม แต่ถ้าเขาตอบว่าพิจารณาเสร็จแล้วคราวนี้ไปตามที่ VFS เลย ส่วนใหญ่คือถ้ายังไม่ได้รับเมลจาก VFS ว่าวีซ่ามาถึงแล้ว คือไปก้น่าจะยังไม่ได้

ในส่วนของเรานั้นรอไปจนถึง 21 working days ถึงได้เมลและ SMS ตอนเที่ยงครึ่ง แล้วบ่ายสองก็ไปรับเล่มที่ VFS เมื่อถึงที่ตึกคราวนี้คือคนมารอรับวีซ่าเยอะมาก ต้องรับบัตรคิวรอซักพัก ขึ้นไปข้างบน รับบัตรคิวอีกรอบ พอเขาเรียก ยื่นใบเสร็จที่ติดกับสำเนา passport เล่มก็มาตามนัด อยู่ในซองปิดมาอย่างดี เมื่อได้มาแล้วตรวจสอบข้อมูลดีๆ ใบA4ที่เขาเย็บมาด้วยไม่ต้องดึงออกละ หรือถ้าจะดึงออกก็เก็บดีๆมันต้องใช้

เช็คด้วยว่าเขาให้เข้าประเทศเมื่อไร เราต้องเข้าวันตามที่เขาบอกหรือหลังจากนั้นนะ แล้วก็ใบที่ติดที่Passport จะบอกว่าวีซ่ามีอายุแค่ 3 เดือนอันนี้คือช่วงเวลาที่เราเข้าประเทศได้ครั้งแรกอยู่ในช่วงนี้ เมื่อเราไปถึง UK แล้วเราต้องไปรับบัตร BRP อันนี้คือวีซ่าตัวจริงของเรา 

หลังจากได้วีซ่าคือไปตรวจโควิทต่อเลย ได้วีซ่าวันจันทร์ บินวันพุธ หลังจากนั้นคือกลับบ้านไปเพื่อจองโรงแรมกักตัว เพราะประเทศไทยเข้าสู่ redlist จึงต้องกักตัวที่โรงแรม ถ้าเราทำ priority นะคือสามารถบินได้ก่อนที่ ประเทศไทยจะเปลี่ยนเป็น Redlist ละ

ขอจบเพียงเท่านี้มหากาพการทำวีซ่าของเรา
ชื่อสินค้า:   UK Student Visa
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่