เราแต่งงานแล้ว สามีมาอยุ่บ้านเราค่ะ
เราจะเป็นมีเงินเดือนให้พ่อแม่ทุกเดือนค่าเลี้ยงลูกให้ระหว่างทำงาน ใช้จ่ายที่บ้าน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับลูก นี่คือรายจ่ายของเรา
เรากับแฟนอยากได้รถ แต่กลัวเงินเดือนมันจะชนเดือนเกินไป เราเลยอยากหารายได้เพิ่ม
เราอยากทำร้านค้าขายของเล็กๆ แต่ไม่มีที่จะทำ (ที่บ้านไม่สะดวกเพราะอยู่ลึก) จะให้พ่อแม่ขายในระหว่างที่เราไปทำงานจะได้มีรายได้เข้าบ้านทุกวัน
ก็เลยมองไปที่ร้านค้าชุมชนที่เราเคยขาย แต่คนที่มาขายต่อเขาดันป่วยเป็นอัมพาลก็เลยหยุดขายไปและไม่ได้คืนเงินให้ชุมชน ละปล่อยทิ้งไว้ไม่มีใครได้ขายเป็นเวลา 3 ปีแล้ว
(คนอื่นที่อยากขายไม่มีเงินมาให้ลงทุนต่อก็เลยไม่อยากทำร้ายกันกรรมการหมู่บ้านก็ไม่ได้ตามเงินส่วนนี้ อีกอย่างคนที่เป็นอัมพาลบอกว่าจะขายต่อ แต่ไม่มีเงินมาลงทุนสักที ร้านค้าชุมชนก็ปิดมา 3 ปีกว่าแล้ว )
เราก็เลยอยากจะเช่าพื้นที่ตรงนี้แล้วจะลงทุนเอง ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเงินส่วนนั้นเลย
ความคิดเห็นของคนในครอบครัว
-พ่อแม่ มองว่า เป็นความคิดที่ดีเห็นด้วย จะไปถามกรรมการให้ แต่ก็ไม่ไปถามสักที
-สามี มองว่า จะเป็นการใจร้ายกับคนเก่าเกินไป เพราะเขาก็บอกอยู่ว่าจะขาย ทุกคนจะไม่มองว่าเราใจร้ายกับครอบครัวนั่นหรอ
- เรา มองว่า อีก 2-3 ปีข้างหน้า เขายังไม่มีเงินมาลงทุนต่อแน่ๆ แล้วเราก็ไม่ได้จะไปเอาเงินจากเขามาลงทุนนิแล้วเราใจร้ายตรงไหน เราจะทำสัญญาเช่า 5 ปี พอหมดสัญญา ถ้าเขาอยากขายต่อ ก็มาต่อได้เราก็จะให้ขาย เราจะออกไปตั้งร้านเอง (จนตอนนั้นเราก็คงพอได้ลูกค้าบ้างแล้ว ส่วนที่ทางจะหาดูอีกที)
หรือใครคิดว่าไงค่ะ
จะหารายได้เพิ่ม แต่สามีบอกเราใจร้ายกับเขาเกินไป ทุกคนช่วยเราพิจารณาหน่อยค่ะ
เราจะเป็นมีเงินเดือนให้พ่อแม่ทุกเดือนค่าเลี้ยงลูกให้ระหว่างทำงาน ใช้จ่ายที่บ้าน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับลูก นี่คือรายจ่ายของเรา
เรากับแฟนอยากได้รถ แต่กลัวเงินเดือนมันจะชนเดือนเกินไป เราเลยอยากหารายได้เพิ่ม
เราอยากทำร้านค้าขายของเล็กๆ แต่ไม่มีที่จะทำ (ที่บ้านไม่สะดวกเพราะอยู่ลึก) จะให้พ่อแม่ขายในระหว่างที่เราไปทำงานจะได้มีรายได้เข้าบ้านทุกวัน
ก็เลยมองไปที่ร้านค้าชุมชนที่เราเคยขาย แต่คนที่มาขายต่อเขาดันป่วยเป็นอัมพาลก็เลยหยุดขายไปและไม่ได้คืนเงินให้ชุมชน ละปล่อยทิ้งไว้ไม่มีใครได้ขายเป็นเวลา 3 ปีแล้ว
(คนอื่นที่อยากขายไม่มีเงินมาให้ลงทุนต่อก็เลยไม่อยากทำร้ายกันกรรมการหมู่บ้านก็ไม่ได้ตามเงินส่วนนี้ อีกอย่างคนที่เป็นอัมพาลบอกว่าจะขายต่อ แต่ไม่มีเงินมาลงทุนสักที ร้านค้าชุมชนก็ปิดมา 3 ปีกว่าแล้ว )
เราก็เลยอยากจะเช่าพื้นที่ตรงนี้แล้วจะลงทุนเอง ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเงินส่วนนั้นเลย
ความคิดเห็นของคนในครอบครัว
-พ่อแม่ มองว่า เป็นความคิดที่ดีเห็นด้วย จะไปถามกรรมการให้ แต่ก็ไม่ไปถามสักที
-สามี มองว่า จะเป็นการใจร้ายกับคนเก่าเกินไป เพราะเขาก็บอกอยู่ว่าจะขาย ทุกคนจะไม่มองว่าเราใจร้ายกับครอบครัวนั่นหรอ
- เรา มองว่า อีก 2-3 ปีข้างหน้า เขายังไม่มีเงินมาลงทุนต่อแน่ๆ แล้วเราก็ไม่ได้จะไปเอาเงินจากเขามาลงทุนนิแล้วเราใจร้ายตรงไหน เราจะทำสัญญาเช่า 5 ปี พอหมดสัญญา ถ้าเขาอยากขายต่อ ก็มาต่อได้เราก็จะให้ขาย เราจะออกไปตั้งร้านเอง (จนตอนนั้นเราก็คงพอได้ลูกค้าบ้างแล้ว ส่วนที่ทางจะหาดูอีกที)
หรือใครคิดว่าไงค่ะ