สวัสดีค่ะ เกริ่นก่อนนะคะ แม่เราเปิดร้านนวด(นวดจริงๆ ไม่มีแอบแฝง เราเคยไปช่วยเฝ้าเคาเตอร์ช่วงนึงช่วงเรียนจบใหม่ๆ) พอดีว่ามีปัญหากับหมอนวดที่เป็นคนไทยที่พึ่งรับเข้ามาใหม่ค่ะ บอกก่อนว่าเค้าไม่มีวีซ่านะคะ ช่วงนี้หมอนวดหายากค่ะเลยต้องรับ จับได้ว่าเค้าแอบทำเรื่องอย่างว่า เรียกทริปแขกข้างใน จับได้เพราะมีลูกค้าประจำมากระซิบหลายคน และหลังๆ ลูกค้าไม่ได้ดีเหมือนเดิม เหตุผลที่ไม่ทำร้านให้เป็นร้านอย่างว่าเพราะแบบนี้ส่วนนึงค่ะ ลูกค้าจะคนละเกรดเลย ครั้งนี้ไม่ใช่คนแรกนะคะที่ทำ เพราะเปิดมาหลายปีแล้ว ไม่ได้ฟังความจากลูกค้าอย่างเดียวค่ะ สังเกตุพอสมควรจนต้องคุยแบบตรงๆ
***ประเด็นคือ พอบอกให้ออกแล้วต้องให้เค้าจ่ายค่าแท็กซี่ ค่าหัวที่เราต้องจ่ายให้นายหน้าตอนรับมา เพราะเค้าทำงานยังไม่ถึงเดือน เราทำธุรกิจถ้าไล่ออกเฉยๆ ก็ถือว่าขาดทุน เค้าไม่ยอมค่ะ เลยบอกถ้าไม่จ่ายก็ทำงานต่อแต่ห้ามทำเรื่องแบบนี้ในร้าน เค้าก็ไม่ยอมค่ะ บอกว่ามาหาเงินนวดปกติจะไปรวยอะไร และต่อว่าร้าน ป่าวประกาศโวยวาย บอกว่ามาอยู่ทองก็หาย คนนั้นขโมย คนนี้ขโมย ซึ่งเรื่องนี้ความจริงแม่เราก็ไม่รู้ว่าใครขโมยหรือเค้าหาเรื่องเฉยๆ บอกจะออกก็ไม่ให้ออก จะเอาแต่งานๆ พอเข้าใจใช่มั้ยคะ สุดท้ายเค้าก็ออกและไปแต่ตัวโดยทิ้งสำภาระไว้และบอกว่าจะกลับมาเอาทีหลัง
****ล่าสุด น้องสาวพึ่งเห็นว่ามีคนที่เค้ารับเปิดบัญชี เป็นล่าม ช่วยตามคดีคนไทยในเกาหลีมาโพสประจาน ชื่อ รูปภาพร้านแม่เรา คนนี้เค้ามีสามีเป็นคนเกาหลีค่ะ คนติดตามเยอะพอสมควร โดยเนื้อหาผิดเพี้ยนไปมาก ต่อว่า ท้า สารพัด โดยที่ไม่เคยสอบถามฝั่งทางร้านเราเลย คนแชร์ประมาณ 20 กว่าแชร์แล้วค่ะ แม่เราเลยติดต่อเค้าไป สรุปโดนสามีที่เป็นคนเกาหลีพูดเชิงขู่ ว่าแม่เค้าเป็นมาเฟียร์นะ ถ้าไม่คืนเงิน 7,000,0000 วอนให้หมอนวดคนนั้น(ค่าทองที่หาย ค่าสัมภาระที่เก็บไว้)เจอดีแน่ *ทั้งๆ ที่ สัมภาระไม่มีใครขัดนะ เค้าไม่เอาไปเอง แม่เราเคยรู้จากเพื่อนอีกทีว่าเค้ารับตามเรื่องแบบนี้ เงินที่ได้มาจะแบ่งครึ่งกัน
ปล.แจ้งความแล้วค่ะ ดูจะไม่ค่อยคืบหน้า ตำรวจไม่อยากให้มีเรื่องจะให้ไกล่เกลี่ยอย่างเดียว
ปล.2 แม่เราไม่มีอิทธิพลอะไรนะคะ อาป้าเราก็ทำร้านอาหารเล็กๆ ที่แม่เราเลือกทำร้านนวดเพราะแม่เคยเป็นหมอนวด แกรักอาชีพแกค่ะ ให้เลิกทำแล้วไปช่วยพ่อแกก็ไม่ยอม แกบอกงานอาหารแกไม่ถนัด ชอบทำร้านนวดมากกว่า
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ เราควรแนะนำแม่ยังไงดี เพราะถ้าเรื่องเกิดที่ไทยเราคงทำอะไรได้มากกว่านี้ค่ะ
ถ้าแท็กผิดกลุ่มขออภัยด้วยนะคะ
ขอวิธีรับมือกับโจรในคราบนักบุญหน่อยค่ะ
***ประเด็นคือ พอบอกให้ออกแล้วต้องให้เค้าจ่ายค่าแท็กซี่ ค่าหัวที่เราต้องจ่ายให้นายหน้าตอนรับมา เพราะเค้าทำงานยังไม่ถึงเดือน เราทำธุรกิจถ้าไล่ออกเฉยๆ ก็ถือว่าขาดทุน เค้าไม่ยอมค่ะ เลยบอกถ้าไม่จ่ายก็ทำงานต่อแต่ห้ามทำเรื่องแบบนี้ในร้าน เค้าก็ไม่ยอมค่ะ บอกว่ามาหาเงินนวดปกติจะไปรวยอะไร และต่อว่าร้าน ป่าวประกาศโวยวาย บอกว่ามาอยู่ทองก็หาย คนนั้นขโมย คนนี้ขโมย ซึ่งเรื่องนี้ความจริงแม่เราก็ไม่รู้ว่าใครขโมยหรือเค้าหาเรื่องเฉยๆ บอกจะออกก็ไม่ให้ออก จะเอาแต่งานๆ พอเข้าใจใช่มั้ยคะ สุดท้ายเค้าก็ออกและไปแต่ตัวโดยทิ้งสำภาระไว้และบอกว่าจะกลับมาเอาทีหลัง
****ล่าสุด น้องสาวพึ่งเห็นว่ามีคนที่เค้ารับเปิดบัญชี เป็นล่าม ช่วยตามคดีคนไทยในเกาหลีมาโพสประจาน ชื่อ รูปภาพร้านแม่เรา คนนี้เค้ามีสามีเป็นคนเกาหลีค่ะ คนติดตามเยอะพอสมควร โดยเนื้อหาผิดเพี้ยนไปมาก ต่อว่า ท้า สารพัด โดยที่ไม่เคยสอบถามฝั่งทางร้านเราเลย คนแชร์ประมาณ 20 กว่าแชร์แล้วค่ะ แม่เราเลยติดต่อเค้าไป สรุปโดนสามีที่เป็นคนเกาหลีพูดเชิงขู่ ว่าแม่เค้าเป็นมาเฟียร์นะ ถ้าไม่คืนเงิน 7,000,0000 วอนให้หมอนวดคนนั้น(ค่าทองที่หาย ค่าสัมภาระที่เก็บไว้)เจอดีแน่ *ทั้งๆ ที่ สัมภาระไม่มีใครขัดนะ เค้าไม่เอาไปเอง แม่เราเคยรู้จากเพื่อนอีกทีว่าเค้ารับตามเรื่องแบบนี้ เงินที่ได้มาจะแบ่งครึ่งกัน
ปล.แจ้งความแล้วค่ะ ดูจะไม่ค่อยคืบหน้า ตำรวจไม่อยากให้มีเรื่องจะให้ไกล่เกลี่ยอย่างเดียว
ปล.2 แม่เราไม่มีอิทธิพลอะไรนะคะ อาป้าเราก็ทำร้านอาหารเล็กๆ ที่แม่เราเลือกทำร้านนวดเพราะแม่เคยเป็นหมอนวด แกรักอาชีพแกค่ะ ให้เลิกทำแล้วไปช่วยพ่อแกก็ไม่ยอม แกบอกงานอาหารแกไม่ถนัด ชอบทำร้านนวดมากกว่า
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ เราควรแนะนำแม่ยังไงดี เพราะถ้าเรื่องเกิดที่ไทยเราคงทำอะไรได้มากกว่านี้ค่ะ
ถ้าแท็กผิดกลุ่มขออภัยด้วยนะคะ