JJNY : หมอธีระชี้ยังไม่ดีขึ้น│หญิงเดินไม่ได้หลังฉีดไขว้│ม.6 ซึมเศร้า เครียดเรียนออนไลน์ผูกคอดับ│อันดับโลกดิ่ง!สุวรรณภูมิ

'หมอธีระ' ชี้สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ปลายเดือนนี้หากคุมไม่ได้ ระบาดหนักกว่าเดิม
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6633904
  
 
‘หมอธีระ’ ชี้สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ปลายเดือนนี้หากคุมไม่ได้ จะระบาดหนักกว่าเดิม เตือนกลุ่มคนที่ผลักดันนโยบายเปิดประเทศ ต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่ตามมา
 
วันที่ 22 ก.ย.64 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/thiraw Thira Woratanarat วิเคราะห์สถานการณ์โควิด-19 ความว่า 
 
สถานการณ์ของไทยเรา เมื่อวานจำนวนติดเชื้อใหม่ที่รายงาน ยังสูงเป็นอันดับ 10 ของโลก แต่หากรวม ATK จะมีจำนวนติดเชื้อสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก มากกว่า ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม
 
สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น คาดว่าจะเห็นแนวโน้มการระบาดที่ชัดเจนหลังพ้นปลายเดือนนี้ หากคุมไม่ได้ น่าจะมีโอกาสสูงขึ้นกว่าเดิม
 
หากปล่อยให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายเปิดเมืองให้อยู่กับโรค ทั้งที่สถานการณ์การติดเชื้อยังมีจำนวนมาก ด้วยระบบสนับสนุนที่มีอยู่ทั้งเรื่องการตรวจคัดกรองโรคที่จำกัด วัคซีนที่มีชนิด ปริมาณ ความครอบคลุมที่จำกัด รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิต ค้าขาย บริการ ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อติดเชื้อกัน ยังไม่ปลอดภัยเพียงพอ
 
โมเดลกล่องทรายชี้ให้เห็นแล้วว่า มีปัญหา ขนาดเป็นพื้นที่จำกัด ยังเป็นดังที่เห็น ถ้าขยายมาเมืองหลวง โอกาสที่จะแตกย่อมมีสูงมาก
  
ประเทศพัฒนาแล้ว ที่มีทรัพยากรต่างๆ มากมายเพียบพร้อมกว่าเรายังเอาไม่อยู่ การอ้างว่าติดเชื้อแล้วป่วยรุนแรงต้องนอนรพ.น้อย ตายน้อยนั้น คงจะยากที่จะเป็นจริงเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ระบาดรุนแรงกลับซ้ำในอนาคต
 
ประเมินไว้ล่วงหน้า ยากที่จะเอาอยู่ กลุ่มคนที่ผลักดันนโยบายดังกล่าวจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่ตามมา นโยบายในลักษณะข้างต้นส่งผลต่อชีวิตของทุกคน
 
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10223154361199867
 

  
หญิงวัย 47 ช็อกเดินไม่ได้ หลังฉีดไขว้เข็ม 2 ลูกชายลั่นไม่ต้องการเงิน ถามใครจะรับผิดชอบ?
https://ch3plus.com/news/program/258714
  
ลูกชาย เผย แม่ช็อกขยับขาไม่ได้หลังฉีดวัคซีนไขว้แอสตราฯ เข็ม 2 ถามใครรับผิดชอบไร้การดูแล หมอบอกอาจเดินไม่ได้ 3 เดือน-1 ปี ยังไม่ชี้ชัดเกิดจากผลข้างเคียงหรือไม่รอตรวจวินิจฉัย ระบุ“ผมไม่ต้องการเงินอยากให้แม่กลับมาเดินได้เหมือนเดิม”
  
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพแม่ของตัวเอง นอนใส่สายออกซิเจนและสายน้ำเกลือ อยู่บนเตียงที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสภาพอ่อนเพลียหมดแรง หลังเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยโพสต์ข้อความเชิงตัดพ้อประสิทธิภาพของวัคซีน และทวงถามถึงความรับผิดชอบจากหน่วยงานภาครัฐ ใจความในโพสต์ระบุว่า
  
ขอถามรัฐบาลหน่อยจิตใจทำด้วยอะไร ทำไมเอาวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพมาฉีดให้แม่ พวกตน แม่ ครอบครัวของตนต้องมาลำบากเพราะอะไร ไม่เห็นหน่วยงานไหนมารับผิดชอบเลย หมอบอกว่า แม่อาจจะเดินไม่ได้ 3 เดือน หรืออย่างมาก 1 ปี ไม่รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนกันเลยหรอ
  
พอไม่ฉีดเกิดสังคมแอนตี้ ทั้ง ๆ วัคซีนที่ฉีดไม่ได้ป้องกันอะไรเลย ไม่มีประสิทธิภาพ วัคซีนร้ายแต่สังคมร้ายกว่าอยู่บ้านเราไม่ได้ต้องดิ้นรนเพื่อจะฉีดขนาดนั้น ไม่ได้อยู่พื้นที่เสี่ยง ไม่ได้ไปที่เสี่ยง คนที่ทำร้ายกันคือสังคมที่มองว่าคนที่ไม่ฉีดคือคนที่เอาเชื้อมาทำให้คนอื่นเดือนร้อน ไม่ฉีดก็โดนว่า ฉีดมาก็เป็นแบบนี้
 
“สาธุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ขอให้ปกปักรักษาแม่ของลูกให้หายจากภยันตรายทั้งหลายด้วยเถิด บุญกุศลที่ลูกได้ทำมาขอให้ช่วยนำพาให้แม่ของลูกกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติด้วยเถิด” มีใครพอรู้ไหมเกี่ยวกับอาการแบบนี้ เราต้องร้องเรียนได้ที่หน่วยงานไหนที่จะต้องมารับผิดชอบ
  
พร้อมระบุว่า พอมีใครรู้ไหมช่วยบอกผมหน่อย ถามว่า เรามีเงินรักษาไหมมีครับ แต่ผมต้องการแค่ให้หน่วยงานมารับผิดชอบ มาดูแลบ้างไม่ใช่นิ่งเฉย ไม่ทำอะไรเลย ให้คนในครอบครัวดิ้นรนกันเองรับผิดชอบในตัวกันเอง ใครพอรู้ไหมช่วยบอกผมหน่อย สุดท้ายช่วยฝากแชร์หน่อยนะครับ
  
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายพีรพัฒน์ ศาสตราชัย อายุ 27 ปี ลูกชาย เผยว่า แม่ชื่อนางสาวอรนิด อายุ 47 ปี อาศัยอยู่ที่ต.สร้างถ่อน้อย อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ โดยวันที่ 17 ก.ย.2564 แม่ได้ไปฉีดวัคซีนไขว้เข็ม 2 แอสตราเซเนกา ที่โรงพยาบาลหัวตะพาน ก่อนหน้านั้นฉีดเข็ม 1 วัคซีนซิโนแวค
  
ทั้งนี้หลังจากแม่ได้ฉีดวัคซีนเข็ม 2 แอสตราเซเนกา เสร็จแล้ว ผ่านไป 30 นาที แม่เริ่มปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ปวดแขนหน้ามืดต้องฝืนขับรถกลับบ้านคนเดียว ช่วงเย็นวันเดียวกันมีอาการเป็นไข้ หนาวสั่นตัวร้อน จากนั้นตี 2 ของวันที่ 18 ก.ย.2564 มีอาการช็อก จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหัวตะพาน
  
หมอแค่ให้น้ำเกลือ ไม่ได้ตรวจเช็คอาการใด ๆ บอกเป็นไข้หวัด และให้แม่กลับบ้านเพราะไม่มีเตียง ถ้าอาการไม่ไหวค่อยกลับมา รพ.ใหม่ ขณะนั้นแม่ยังมีสติคาดว่าตัวเองน่าจะได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ ลูกชายบอกว่าแม่ไม่มีโรคประจำตัว แข็งแรง ไม่มีอาการเจ็บป่วยอะไรมาก่อน อาการเริ่มทรุดหลังจากฉีดวัคซีน
  
จากนั้นกลางวันวันที่ 18 ก.ย.2564 แม่มีอาการช็อกอีก ตนจึงได้พาไปโรงพยาบาลอำนาจเจริญ แม่พูดตอบโต้อะไรไม่ได้เลย หมอบอกช่วงล่างอาจเดินไม่ได้ ต้องใช้เวลา 3 เดือน ถึง 1 ปี อาจจะกลับมาเดินได้ปกติ นอน 1 คืนหมอบอกไม่สามารถเอกซเรย์ได้เนื่องจากอุปกรณ์ไม่พร้อม จึงส่งตัวแม่ไปที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี
  
“ผมฟังหมอพูดเสร็จรู้สึกเสียใจ คุณแม่จะเอาคนที่แข็งแรงเดินได้ปกติ ต้องมาเจออะไรแบบนี้ หัวอกคนเป็นลูกรับไม่ได้ไม่มีหน่วยงานไหนมาดูหรือถามอาการของแม่เลย ให้คนในครอบครัวดิ้นรนกันเอง ตอนนี้แม่ยังอยู่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เริ่มพูดได้แล้วแต่ขายังขยับไม่ได้ หมอบอกวินิจฉัยได้ 50 50 ยังไม่สามารถระบุชี้ชัดได้ ว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ มันน่าคิดว่าหมอจะปิดบังเราหรือเปล่า แม่เห็นสภาพตัวเองกลายเป็นคนซึมเศร้า นั่งเหงาหงอย”
 
นายพีรพัฒน์ ลูกชายกล่าวต่อว่า หมอจะให้แม่ออกจากโรงพยาบาลภายใน 2-3 วัน และให้คนที่บ้านช่วยกันทำกายภาพบำบัดกันเอง ซึ่งหมอจะเจาะไขกระดูกสันหลังไปตรวจวินิจฉัยอีกรอบว่า อาการของแม่เกิดจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่าเกิดจากฉีดวัคซีนแน่นอน
  
“หากอาการของแม่เกิดจากผลข้างเคียง จากการฉีดวัคซีนจริง ผมอยากให้หน่วยงานของรัฐมาขอโทษและรับผิดชอบไม่อยากให้ใครมาล้มป่วยเหมือนแม่ผมอีก ผมไม่อยากได้เงินหรอก ผมอยากได้แม่คนเดิมของผมกลับมา อยากให้เขากลับมาเดินได้เหมือนเดิม อยากให้มาถามสารทุกข์สุกดิบบ้าง อาการเป็นยังไงบ้าง แต่ไม่มีใครมาถามเลย ไม่เห็นใครมารับผิดชอบสักคน”
  
ตนไม่รู้ว่าวัคซีนที่นำมาฉีดด้อยคุณภาพหรือไม่ บางคนฉีดอาจไม่เป็นอะไร วัคซีนดี ๆ คนที่มีเงินก็สามารถซื้อได้ แต่คนไม่มีเงินก็ต้องฉีดวัคซีนฟรีของรัฐบาล เหมือนโดนบังคับให้ฉีด ถ้าไม่ฉีดก็โดนสังคมหรือคนในหมู่บ้านต่อว่าแอนตี้ จึงจำใจไปฉีด ถ้ามีเงินคงไปซื้อวัคซีนดี ๆ มาฉีดแล้ว
 
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/_pvEyT2Lq3c

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
 

 
สลดเด็ก ม.6 ป่วยซึมเศร้า เครียดเรียนออนไลน์ ทิ้งจดหมายลาตาย ก่อนผูกคอดับ
https://ch3plus.com/news/program/258732
 
สลดเด็กชาย ม.6 ผูกคอตัวเองเสียชีวิต ทิ้งจดหมายลาตายบอกเหนื่อยแล้ว หลังมีอาการป่วยซึมเศร้า เครียดจากการเรียนออนไลน์ หนำซ้ำหมู่บ้านถูกปิดสกัดโควิด-19
 
เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (21 ก.ย.2564) เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุบุคคลผูกคอตัวเองเสียชีวิต ภายในหมู่บ้านโนนกระพี้ ตำบลโนนทองหลาง อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
 
ในที่เกิดเหตุพบศพของ นายนนทชัย หรือ น้องดิว อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบัวใหญ่ ผูกคอตัวเองเสียชีวิต โดยเขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้ข้อความระบุว่า 
 
“ปุ๊กเพื่อน -ูสิบ่อยู่แล้วนะ ตั้งใจเรียนละเพื่อน ขอบคุณ-ึงสำหรับทุกอย่าง สนุกมากเลย -ูขอโทษ ฝากบอกบิ๊กนำว่า -ูบ่อยู่แล้ว -ูเหนื่อยแล้ววะ พอ ขอบคุณทุกๆ อย่างนะเพื่อน บอกขอบคุณครูเมตตานำนะ ถึงเพื่อนปุ๊ก”
 
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำญาติของผู้ตายทราบว่า ผู้ตายที่มีความกดดันจากการเรียนออนไลน์ และความเครียดการที่หมู่บ้านต้องถูกคำสั่งปิด ห้ามเดินทางเข้าออกหมู่บ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ ประกอบกับผู้ตายมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ก่อนแล้ว คาดว่า อาจเป็นสาเหตุของการตัดสินใจผูกคอตัวเองเสียชีวิตในครั้งนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพไปทำการชันสูตรสาเหตุของการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบัวใหญ่ และจะเร่งสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่