AIS จับมือ SCB ตั้งบริษัทร่วมทุน “AISCB” เพื่อให้บริการสินเชื่อดิจิทัล
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศบรรลุข้อตกลงและลงนามในสัญญาร่วมทุน ในการจัดตั้งบริษัทในชื่อ “เอไอเอสซีบี (AISCB)” เพื่อให้บริการด้านการเงินดิจิทัล เช่น ให้บริการสินเชื่อผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Lending) ก่อนขยายสู่บริการทางการเงินอื่น ๆ ต่อไป
อันจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ในอนาคตของทั้ง 2 กลุ่มบริษัท
ทั้งนี้ AISCB มีทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท โดย AIS และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จะถือหุ้นในสัดส่วนคนละ 50%
ซึ่งบริษัทร่วมทุนดังกล่าว ได้นำเอาจุดเด่นของพันธมิตรทั้ง 2 คือ ความแข็งแกร่งทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ นวัตกรรมอันล้ำสมัย ตลอดจนศักยภาพในการให้บริการลูกค้าของ AIS มาผสานเข้ากับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านบริการทางการเงินของธนาคารไทยพาณิชย์
เพื่อมุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมและบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ ผ่านช่องทางดิจิทัลที่จะสามารถสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับคนไทยได้มากยิ่งขึ้น
ท่ามกลางบริบทของโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง AIS และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่บริษัทชั้นนำในสองอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ได้แก่ Telco และสถาบันการเงิน ร่วมทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถตอบโจทย์คนในวงกว้าง โดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ
ซึ่งดีลนี้ก็มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็มีฐานลูกค้าอยู่ในมือเป็นจำนวนมาก
อย่าง AIS ก็มีฐานลูกค้าอยู่กว่า 43.2 ล้านเลขหมาย
ส่วน ธนาคารไทยพาณิชย์ ก็มีฐานลูกค้า อาทิ ผู้ใช้งาน SCB EASY กว่า 12.4 ล้านราย
ดังนั้นบริษัทร่วมทุน AISCB ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ จึงมีแต้มต่อทางธุรกิจ และโอกาสเข้าถึงลูกค้าสูงมาก
ผนวกกับการนำจุดแข็ง, ทรัพยากร และความแข็งแกร่งของแบรนด์ จากทั้ง 2 ฝ่ายมา Synergy กัน
รวมถึงฐานข้อมูลจำนวนมหาศาล ทั้งประเภทไลฟ์สไตล์และการเงิน ที่สามารถนำมาวิเคราะห์การอนุมัติสินเชื่อและให้บริการอื่น ๆ
AISCB จึงนับเป็นผู้เล่นอีกรายที่น่าจับตามอง ในวงการสินเชื่อดิจิทัลและบริการด้านการเงินดิจิทัล
ซึ่งก็ไม่แน่ว่าในอนาคต บริษัทอาจให้บริการ "ชอปก่อน จ่ายทีหลัง" (Buy Now Pay Later : BNPL)
ที่เป็นโมเดลธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมกันในต่างประเทศ โดยมีจุดเด่นคือ ลูกค้าสามารถซื้อสินค้า/บริการ ไปก่อน แล้วค่อยมาผ่อนจ่ายทีหลังแบบ “ไร้ดอกเบี้ย” และไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีใด ๆ
มาสะเทือนวงการ ก็เป็นได้..
https://www.facebook.com/1387231808035873/posts/4291414114284280/
https://www.facebook.com/113397052526245/posts/1148218882377385/
น่าจะเป็นข่าวใหญ่ในรอบปี
- AISxSCB รวมกันกลายเป็นชื่อ AISCB ซะเลย ตั้งบริษัทใหม่ถือหุ้นคนละ 50% ปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้า AIS ที่มี 43 ล้านคน
- ถ้าถามว่าบริษัทอะไรที่คนไทยใช้งานมากสุด นอกจาก เฟซบุ๊ก กับ ไลน์ ที่เป็นของต่างประเทศ คำตอบที่ทุกคนอาจคิดไม่ถึง ก็คือ AIS นั่นเอง
- รู้หรือไม่ว่าแค่แพ็กเกจค่าโทรที่เราใช้กัน ก็เป็นตัวบอกระดับเครดิตได้เป็นอย่างดีว่าจะให้สินเชื่อเท่าไร ซึ่งยังไม่รวมถึงพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์ของเราที่จะบอกสถานะของแต่ละคนได้มากขึ้น
- บอกเลยว่า ดีลนี้เป็นดีลที่น่าจับตา และอาจทำให้ บริษัทปล่อยสินเชื่อไทย มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นอีกราย ซึ่งเป็นรายใหญ่ ที่มีศักยภาพมาก ๆ ซะด้วย..
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (จำกัด) มหาชน ระบุ
“ผมเคยพูดเสมอว่า เอไอเอสเชื่อในพลังของพาร์ทเนอร์ เพราะหากนำจุดแข็งแต่ละฝ่ายมาผสมผสานกัน ก็จะยิ่งสร้าง Impact ให้ทวีคูณได้มากยิ่งขึ้น การลงไปแย่งทำธุรกิจของพาร์ทเนอร์ จึงไม่เคยเป็นแนวทางของเรา
ดังนั้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา คงได้เห็นถึงความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในหลากหลายมิติ ด้วยเป้าหมายทั้งเพื่อดูแลลูกค้าของเราทั้งคู่ และช่วยกันฟื้นฟูประเทศท่ามกลางความท้าทายตอนนี้
ล่าสุด วันนี้ เราได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ กับ ธนาคารไทยพาณิชย์ ในการร่วมทุนจัดตั้งบริษัทเอไอเอสซีบี (AISCB) เพื่อให้บริการด้านการเงินดิจิทัล เช่น บริการด้านสินเชื่อ ก่อนขยายสู่บริการทางการเงินอื่น ๆ ในอนาคต
บริษัท เอไอเอสซีบี เป็นการใช้จุดเด่นของพันธมิตรทั้งสอง คือ ความแข็งแกร่งทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ นวัตกรรม ตลอดจนศักยภาพในการให้บริการลูกค้าของเอไอเอส มาผสมผสานเข้ากับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านบริการทางการเงินของธนาคารไทยพาณิชย์
เพื่อให้เราทั้งคู่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัล ที่จะมอบประโยชน์สูงสุดให้กับคนไทย
ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของไทยเลยก็ว่าได้ ที่เบอร์ 1 จากสองอุตสาหกรรมหลักของประเทศ คือ Telco และสถาบันการเงิน ประกาศร่วมทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่สามารถตอบโจทย์คนในวงกว้างโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ
เพราะเราต่างเชื่อมั่นเหมือนกันว่า ความร่วมมือนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศท่ามกลางความท้าทายในปัจจุบัน โดยใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเข้ามาลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสให้คนไทยที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน ได้อย่างดี
ถือเป็นเพียงการประกาศความร่วมมือขั้นต้นนะครับ ความชัดเจนของรูปแบบบริการน่าจะเห็นได้ชัดๆราวไตรมาส 1 ของปี 2565
ขอบคุณ SCB ที่มาร่วมทำงานด้วยกันครับ
นี่คือความตั้งใจของเรา ภาคเอกชนที่แสดงเจตนารมย์อย่างเต็มที่ว่า ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำพาประเทศให้เดินต่อให้ได้
ท่ามกลาง The Whole New World ที่กำลังไล่ล่าเราอยู่ทุกวัน
#AISCB “
https://www.facebook.com/1055166734614057/posts/2319344018196316/
AIS จับมือ SCB ตั้งบริษัทร่วมทุน “AISCB” เพื่อให้บริการสินเชื่อดิจิทัล
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศบรรลุข้อตกลงและลงนามในสัญญาร่วมทุน ในการจัดตั้งบริษัทในชื่อ “เอไอเอสซีบี (AISCB)” เพื่อให้บริการด้านการเงินดิจิทัล เช่น ให้บริการสินเชื่อผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Lending) ก่อนขยายสู่บริการทางการเงินอื่น ๆ ต่อไป
อันจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ในอนาคตของทั้ง 2 กลุ่มบริษัท
ทั้งนี้ AISCB มีทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท โดย AIS และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จะถือหุ้นในสัดส่วนคนละ 50%
ซึ่งบริษัทร่วมทุนดังกล่าว ได้นำเอาจุดเด่นของพันธมิตรทั้ง 2 คือ ความแข็งแกร่งทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ นวัตกรรมอันล้ำสมัย ตลอดจนศักยภาพในการให้บริการลูกค้าของ AIS มาผสานเข้ากับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านบริการทางการเงินของธนาคารไทยพาณิชย์
เพื่อมุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมและบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ ผ่านช่องทางดิจิทัลที่จะสามารถสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับคนไทยได้มากยิ่งขึ้น
ท่ามกลางบริบทของโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง AIS และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่บริษัทชั้นนำในสองอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ได้แก่ Telco และสถาบันการเงิน ร่วมทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถตอบโจทย์คนในวงกว้าง โดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ
ซึ่งดีลนี้ก็มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็มีฐานลูกค้าอยู่ในมือเป็นจำนวนมาก
อย่าง AIS ก็มีฐานลูกค้าอยู่กว่า 43.2 ล้านเลขหมาย
ส่วน ธนาคารไทยพาณิชย์ ก็มีฐานลูกค้า อาทิ ผู้ใช้งาน SCB EASY กว่า 12.4 ล้านราย
ดังนั้นบริษัทร่วมทุน AISCB ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ จึงมีแต้มต่อทางธุรกิจ และโอกาสเข้าถึงลูกค้าสูงมาก
ผนวกกับการนำจุดแข็ง, ทรัพยากร และความแข็งแกร่งของแบรนด์ จากทั้ง 2 ฝ่ายมา Synergy กัน
รวมถึงฐานข้อมูลจำนวนมหาศาล ทั้งประเภทไลฟ์สไตล์และการเงิน ที่สามารถนำมาวิเคราะห์การอนุมัติสินเชื่อและให้บริการอื่น ๆ
AISCB จึงนับเป็นผู้เล่นอีกรายที่น่าจับตามอง ในวงการสินเชื่อดิจิทัลและบริการด้านการเงินดิจิทัล
ซึ่งก็ไม่แน่ว่าในอนาคต บริษัทอาจให้บริการ "ชอปก่อน จ่ายทีหลัง" (Buy Now Pay Later : BNPL)
ที่เป็นโมเดลธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมกันในต่างประเทศ โดยมีจุดเด่นคือ ลูกค้าสามารถซื้อสินค้า/บริการ ไปก่อน แล้วค่อยมาผ่อนจ่ายทีหลังแบบ “ไร้ดอกเบี้ย” และไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีใด ๆ
มาสะเทือนวงการ ก็เป็นได้..
https://www.facebook.com/1387231808035873/posts/4291414114284280/
https://www.facebook.com/113397052526245/posts/1148218882377385/
น่าจะเป็นข่าวใหญ่ในรอบปี
- AISxSCB รวมกันกลายเป็นชื่อ AISCB ซะเลย ตั้งบริษัทใหม่ถือหุ้นคนละ 50% ปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้า AIS ที่มี 43 ล้านคน
- ถ้าถามว่าบริษัทอะไรที่คนไทยใช้งานมากสุด นอกจาก เฟซบุ๊ก กับ ไลน์ ที่เป็นของต่างประเทศ คำตอบที่ทุกคนอาจคิดไม่ถึง ก็คือ AIS นั่นเอง
- รู้หรือไม่ว่าแค่แพ็กเกจค่าโทรที่เราใช้กัน ก็เป็นตัวบอกระดับเครดิตได้เป็นอย่างดีว่าจะให้สินเชื่อเท่าไร ซึ่งยังไม่รวมถึงพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์ของเราที่จะบอกสถานะของแต่ละคนได้มากขึ้น
- บอกเลยว่า ดีลนี้เป็นดีลที่น่าจับตา และอาจทำให้ บริษัทปล่อยสินเชื่อไทย มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นอีกราย ซึ่งเป็นรายใหญ่ ที่มีศักยภาพมาก ๆ ซะด้วย..
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (จำกัด) มหาชน ระบุ
“ผมเคยพูดเสมอว่า เอไอเอสเชื่อในพลังของพาร์ทเนอร์ เพราะหากนำจุดแข็งแต่ละฝ่ายมาผสมผสานกัน ก็จะยิ่งสร้าง Impact ให้ทวีคูณได้มากยิ่งขึ้น การลงไปแย่งทำธุรกิจของพาร์ทเนอร์ จึงไม่เคยเป็นแนวทางของเรา
ดังนั้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา คงได้เห็นถึงความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในหลากหลายมิติ ด้วยเป้าหมายทั้งเพื่อดูแลลูกค้าของเราทั้งคู่ และช่วยกันฟื้นฟูประเทศท่ามกลางความท้าทายตอนนี้
ล่าสุด วันนี้ เราได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ กับ ธนาคารไทยพาณิชย์ ในการร่วมทุนจัดตั้งบริษัทเอไอเอสซีบี (AISCB) เพื่อให้บริการด้านการเงินดิจิทัล เช่น บริการด้านสินเชื่อ ก่อนขยายสู่บริการทางการเงินอื่น ๆ ในอนาคต
บริษัท เอไอเอสซีบี เป็นการใช้จุดเด่นของพันธมิตรทั้งสอง คือ ความแข็งแกร่งทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ นวัตกรรม ตลอดจนศักยภาพในการให้บริการลูกค้าของเอไอเอส มาผสมผสานเข้ากับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านบริการทางการเงินของธนาคารไทยพาณิชย์
เพื่อให้เราทั้งคู่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัล ที่จะมอบประโยชน์สูงสุดให้กับคนไทย
ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของไทยเลยก็ว่าได้ ที่เบอร์ 1 จากสองอุตสาหกรรมหลักของประเทศ คือ Telco และสถาบันการเงิน ประกาศร่วมทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่สามารถตอบโจทย์คนในวงกว้างโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ
เพราะเราต่างเชื่อมั่นเหมือนกันว่า ความร่วมมือนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศท่ามกลางความท้าทายในปัจจุบัน โดยใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเข้ามาลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสให้คนไทยที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน ได้อย่างดี
ถือเป็นเพียงการประกาศความร่วมมือขั้นต้นนะครับ ความชัดเจนของรูปแบบบริการน่าจะเห็นได้ชัดๆราวไตรมาส 1 ของปี 2565
ขอบคุณ SCB ที่มาร่วมทำงานด้วยกันครับ
นี่คือความตั้งใจของเรา ภาคเอกชนที่แสดงเจตนารมย์อย่างเต็มที่ว่า ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำพาประเทศให้เดินต่อให้ได้
ท่ามกลาง The Whole New World ที่กำลังไล่ล่าเราอยู่ทุกวัน
#AISCB “
https://www.facebook.com/1055166734614057/posts/2319344018196316/