เรามีเพื่อนอยู่คนหนึ่งเล่นด้วยกันมาสามปีแล้วแรกๆมีอะไรก็บอกไปไหนก็ชวนมีอะไรก็ให้ดูพูดคุยกัน.
แต่พอมาปีทีสองมันมีเพื่อนอีกคนเข้ามาช่วงแรกๆก็ไม่เป็นไรพอเปิดเทอมสองเท่านั้นแหละ เพื่อนที่เล่นด้วยกันมาสามปีมันเปลี่ยนไม่มีอะไรไม่ค่อยบอกเท่าไรมีอะไรก็ไม่ค่อยให้ดูเวลาเราพูดก็ไม่ค่อยสนใจชอบตัดบทของเราประจำเราน้อยใจมากแต่ก็ทนเก็บมีครั้งหนึ่งเราทนไม่ไว้เราพูดออกมาจนเรากับเพื่อนที่คบมาสามปีเกือบทะเลาะกัน,แต่มันทำให้เราไม่คุยกับเพื่อนอีกคนเข้าอาทิตย์หนึ่งเต็มๆแต่ก็มาปับความเข้าใจกัน.
แต่ปีนี้ก็เหมือนเดินแต่หมักกว่าเดิน คือเวลาที่พวกมันคุยอะไรกันมันทำเหมือนเราไม่อยู่ตรงนั้นทำเป็นไม่เห็นหัวเราเลย แต่เราก็ทนจนมันหมักเลื้อยๆมากขึ้นๆจนเราทนไม่ไหว เรื่องมันเกิดเมื่อวานนี้ มันชวนเรากับเพื่อนอีกคนไปดูดวง ช่วงบ่ายสามของวัน แต่เราบอกว่าไว้ค่อยไปพรุ่งนี้เพราะดูฝนมันจะตกและเราก็ไม่ได้เอาเงินไม่พอด้วยไว้พรุ่งนี้ค่อยไปเพราะ “เราเองก็จะดู” (คำนี้เราพูดเพื่อนอีกคนก็ได้ยินแล้วตอนจะกลับบ้านเราก็บอกกับเพื่อนอีกครั้งไปอีกครั้ง) มันก็พูดนั่นนี้เหมือนจะไม่ยอมเราเหมือนจะเอาวันนี้จะไปวันนี้ให้ได้ แต่เราก็พอนั่นนี้ จากนั้นมันก็เงียบไปเราเองก็คิดว่ามันจะเข้าใจ แต่ที่ไหนได้.
เพื่อนแบบนี้เรียกว่าอะไรหรอ?
แต่พอมาปีทีสองมันมีเพื่อนอีกคนเข้ามาช่วงแรกๆก็ไม่เป็นไรพอเปิดเทอมสองเท่านั้นแหละ เพื่อนที่เล่นด้วยกันมาสามปีมันเปลี่ยนไม่มีอะไรไม่ค่อยบอกเท่าไรมีอะไรก็ไม่ค่อยให้ดูเวลาเราพูดก็ไม่ค่อยสนใจชอบตัดบทของเราประจำเราน้อยใจมากแต่ก็ทนเก็บมีครั้งหนึ่งเราทนไม่ไว้เราพูดออกมาจนเรากับเพื่อนที่คบมาสามปีเกือบทะเลาะกัน,แต่มันทำให้เราไม่คุยกับเพื่อนอีกคนเข้าอาทิตย์หนึ่งเต็มๆแต่ก็มาปับความเข้าใจกัน.
แต่ปีนี้ก็เหมือนเดินแต่หมักกว่าเดิน คือเวลาที่พวกมันคุยอะไรกันมันทำเหมือนเราไม่อยู่ตรงนั้นทำเป็นไม่เห็นหัวเราเลย แต่เราก็ทนจนมันหมักเลื้อยๆมากขึ้นๆจนเราทนไม่ไหว เรื่องมันเกิดเมื่อวานนี้ มันชวนเรากับเพื่อนอีกคนไปดูดวง ช่วงบ่ายสามของวัน แต่เราบอกว่าไว้ค่อยไปพรุ่งนี้เพราะดูฝนมันจะตกและเราก็ไม่ได้เอาเงินไม่พอด้วยไว้พรุ่งนี้ค่อยไปเพราะ “เราเองก็จะดู” (คำนี้เราพูดเพื่อนอีกคนก็ได้ยินแล้วตอนจะกลับบ้านเราก็บอกกับเพื่อนอีกครั้งไปอีกครั้ง) มันก็พูดนั่นนี้เหมือนจะไม่ยอมเราเหมือนจะเอาวันนี้จะไปวันนี้ให้ได้ แต่เราก็พอนั่นนี้ จากนั้นมันก็เงียบไปเราเองก็คิดว่ามันจะเข้าใจ แต่ที่ไหนได้.