JJNY : 5in1 ศาลปค.สั่งเปิดผลสอบนาฬิกาหรู│ไทยฉีดวัคซีนอืด│จวกเพจไทยรู้ฯ│เตรียมยื่นร้องหลังอภิปราย│จี้อัดเงินเยียวยาเพิ่ม

ศาลปกครองสั่ง ป.ป.ช.เปิดผลสอบ คดีนาฬิกาหรู พร้อมคำชี้แจง บิ๊กป้อม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6622057
 
ศาลปกครองกลาง สั่ง ป.ป.ช.เปิดเผยผลสอบ คดีนาฬิกาหรู และคำชี้เเจง บิ๊กป้อม ทั้ง 4 ครั้ง ชี้การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารแสดงให้เห็นว่าโปร่งใสและตรวจสอบได้
 
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2564 ศาลปกครองกลางอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 2557/2562 คดีหมายเลขแดงที่ 1327/2564 ในคดีที่ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวออนไลน์ The MATTER ยื่นฟ้อง ป.ป.ช. กรณีไม่เปิดเผยข้อมุลข่าวสารเกี่ยวกับคดีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สมัยเป็นรองนายกฯ ในรัฐบาล คสช. ซึ่งป.ป.ช.มีมติไม่รับคดีนี้ไว้ไต่สวนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.2561
 
โดยศาลปกครองกลาง ได้พิพากษาให้ ป.ป.ช. ต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร จำนวน 2 รายการที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ให้กับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวออนไลน์ The MATTER ประกอบด้วย

1. รายงานสรุปผลการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งคณะทำงานรวบรวมเสนอต่อที่ประชุม ป.ป.ช.ในวันที่มีมติเกี่ยวกับคดีนี้ รวมถึงเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
 
และ 2. คำชี้แจงของพล.อ.ประวิตร ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.ในคดีนี้ รวมทั้งหมด 4 ครั้ง
 
ทั้งนี้ ให้ปกปิดข้อมูลที่มีลักษณะเฉพาะของบุคคล และให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารดังกล่าวภายใน 15 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
 
สำหรับเหตุผลในคำพิพากษา บางส่วนระบุว่า การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารนี้ จะแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและตรวจสอบได้ จะก่อให้เกิดความน่าเชื่อถือและศรัทธาในการปฏิบัติงานของ ป.ป.ช. อีกทั้งผู้ฟ้องคดีสมควรจะได้รับความคุ้มครองสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารซึ่งอยู่ในความครอบครองของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐจะต้องเปิดเผย ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 41 และ 59
 
เพื่อเปิดโอกาสให้มีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ของรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในระบอบประชาธิปไตย ตามหลักการและเจตนารมณ์ของ 
พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ และเพื่อให้มีการตรวจสอบความโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช.ให้สิ้นสงสัย อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติหน้าที่และการใช้อำนาจ ที่ต้องเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติทั้งปวงในการใช้ดุลยพินิจ
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีกสิ่งที่น่าสนใจในคดีนี้ นอกจากผลของคำพิพากษาที่สั่งให้ ป.ป.ช.ต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสารคดีนาฬิกาหรู ของ พล.อ.ประวิตร แล้ว ยังมีข้อต่อสู้ทางกฎหมายจาก ป.ป.ช. ที่ศาลปกครองกลางปัดตก คำอ้างของ ป.ป.ช.ในหลายๆ กรณี อาทิ ป.ป.ช.อ้างว่าตัวเองเป็นองค์กรอิสระ ข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากการทำหน้าที่ควรถูกเก็บไว้เป็นความลับ และกฎหมาย ป.ป.ช. ก็ออกมาใช้ในปี 2561 หลังจากพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ที่ออกมาใช้ในปี 2540 ซึ่งตามหลักหากมีบทบัญญัติกฎหมายขัดกัน จะต้องยึดตามกฎหมายที่ออกมาภายหลัง
 
โดยศาลชี้ว่า กฎหมาย ป.ป.ช. โดยเฉพาะมาตรา 36 ไม่ใช่บทยกเว้นให้ไม่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ และ ป.ป.ช.ก็เป็น หน่วยงานของรัฐ ตามนิยามของพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ มาตรา 4 จึงต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้
 
ศาลปกครองกลาง ยังยกกฎหมายหลายฉบับมายืนยัน หน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของ ป.ป.ช. และสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจาก ป.ป.ช. ทั้งรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 3 วรรคสอง (องค์กรอิสระต้องปฏิบัติตามกฎหมาย) มาตรา 41 (รับรองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของรัฐ) มาตรา 59 (รัฐมีหน้าที่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาธารณะ) มาตรา 215 (องค์กรอิสระต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติ)
 
กฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 36 (คดีที่ ป.ป.ช.มีมติแล้วให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารได้) มาตรา 180 (กำหนด ข้อยกเว้น โทษในการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของ ป.ป.ช.) และ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ มาตรา 15 ที่เขียนถึงการให้เจ้าหน้าที่มีดุลยพินิจในการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารต่างๆ โดยจะต้องพิจารณาถึง 3 ปัจจัยคือ การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของหน่วยงานรัฐ ประโยชน์ของสาธารณะ และประโยชน์ของเอกชน
 
ส่วนที่ป.ป.ช.อ้างว่า ข้อเท็จจริงในสำนวนคดีนี้ ที่มีข้อหาเรื่องการไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สิน จะถูกนำไปใช้กับสำนวนคดีอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา เช่น ข้อหารับทรัพย์สินหรือประโยชน์เกิน 3,000 บาท และข้อหาร่ำรวยผิดปกติ ศาลปกครองกลางก็ปัดตกคำอ้างนี้เช่นกัน โดยระบุว่าเป็นคนละกรณีกัน
 
อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.ยังสามารถอุทธรณ์คดีนี้ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษา
 

 
ไทยฉีดวัคซีนโควิดอืด เข็มแรก 38.5% เข็ม 2 ได้ 18.4% ห่างไกล ปท.ที่ใช้ชีวิตปกติ
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2941128
 
ไทยฉีดวัคซีนโควิดอืด เข็มแรก 38.5% เข็ม 2 ได้ 18.4% ห่างไกล ปท.ที่ใช้ชีวิตปกติ
 
กรณีที่ ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์ถึงแนวโน้มสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย ที่ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเริ่มลดลง แต่ยังต้องเร่งมาตรการฉีดวัคซีนให้มากขึ้น เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด โดยยกตัวอย่าง จากการติดตามตัวเลขในต่างประเทศที่เข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว พบว่ามีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 สูงถึง ร้อยละ 70 ของประชากร และเข็มที่ 2 ถึง ร้อยละ 60 ซึ่งต้องเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกันนั้น
 
เมื่อวันที่ 15 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ภาพรวมในประเทศไทย ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ณ วันที่ 14 กันยายน 2564 เวลา 18.00 น. พบว่า ขณะนี้ประเทศไทยสามารถฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 694,076 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 228,352 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 464,749 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 975 ราย
 
โดยการฉีดวัคซีนสะสมทั้งหมดรวมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 41,647,101 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 27,769,095 ราย คิดเป็นร้อยละ 38.5 ของจำนวนประชากรทั้งหมด และเข็มที่ 2 จำนวน 13,260,456 ราย คิดเป็นร้อยละ 18.4 ของจำนวนประชากรทั้งหมด ขณะที่เข็มที่ 3 จำนวน 617,550 ราย เท่านั้น
 

 
ดราม่าจนได้ ชาวเน็ตจวก เพจไทยรู้สู้โควิด วาดการ์ตูนลุงหื่นใส่สาวคล้ายลิซ่า
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_6621741
  
ชาวเน็ตดราม่า ทัวร์ลงเพจ ไทยรู้สู้โควิด หลังวาดการ์ตูนสาวคล้ายลิซ่า รณรงค์ประชาชนป้องกันโควิด แต่มีภาพลุงพูดจาให้คิดสองแง่ สองง่าม ร่วมอยู่ในซีน
  
กระแส ลิซ่า แบล็กพิงก์ หลังจากออกเพลงเดี่ยว โกยยอดวิวเกือบ 50 ล้านวิว ทำให้เกิดปรากฎการณ์อิงกระแสลิซ่า ไม่ว่าจะเป็นรัดเกล้าที่ตลาดพาหุรัด ที่ขายดีจนแพ็กสินค้าส่งแทบไม่ทัน หรือ ลูกชิ้นยืนกินที่บุรีรัมย์ ซึ่งสาวลิซ่า บ่นว่าคิดถึงและอร่อยถูกใจ ก็ขายดีจนมีการพรีออร์เดอร์
  
ล่าสุด เพจไทยรู้สู้โควิด ได้อิงกระแสลิซ่า โดยทำโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ ดาวน์โหลดคู่มือ ครอบครัวรอบรู้อยู่กับโควิด-19 ตามหลัก Universal prevention  โดยมีภาพวาด ผู้หญิงสวมรัดเกล้าและชุดสีทอง หน้าม้าคล้ายลิซ่า เขียนในภาพว่า หนูขอฝากมาตรการป้องกันโควิด ขั้นสูงสุดนะคะ โดยมีภาพชายสูงอายุ มองด้านข้างเขียนข้อความว่า น่ารักเลยลุงชอบๆ
  
โดยแคปชั่นได้ระบุว่า 
   
“ให้คิดเสมอว่าเชื้อโรคสามารถอยู่ได้ทุกที่ใกล้ตัวเรา น้อง..ขอแนะนำ Universal Prevention เป็นการป้องกันตัวเองขั้นสูงสุด เพื่อให้พวกเรากลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ดู MV ของน้องที่บ้านก็อย่าลืมใส่แมสก์กันด้วยนะคะ ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และ ไทยรู้สู้โควิด”
 
แต่พบว่าภาพดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทั้งประเด็นเอาภาพมาทำโฆษณาขออนุญาตหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นที่มีภาพลุงยืนข้างๆ บอกว่า น่ารัก ถูกตีความไปในประเด็นของการใช้คำพูดแบบสองแง่ สองง่าม เหมือนกับว่า กำลังหื่นใส่สาวตัวการ์ตูนดังกล่าว
 

 
‘ฝ่ายค้าน’ เผย เตรียมยื่นร้องหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไป ป.ป.ช. 8 เรื่อง กมธ. 1 เรื่อง
 https://www.matichon.co.th/politics/news_2940331
  
‘ฝ่ายค้าน’ เผย เตรียมยื่นร้องหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไป ป.ป.ช. 8 เรื่อง กมธ. 1 เรื่อง ปูด ครม.เพิ่งเคาะซื้อซิโนแวคโดสละ 10.8 เหรียญ ทั้งที่รองนายกฯแจงสภาว่าซื้อล็อตสุดท้ายที่ราคา 8.9 เหรียญ เตรียมยื่นป.ป.ช.เพิ่มอีก
 
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 15 กันยายน ที่รัฐสภา แกนนำ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยพท. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคพท. นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อชาติ (พช.) นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคพท.
 
โดยนายสมพงษ์ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ให้แต่ละพรรคกลับไปเตรียมเรื่องที่จะร้องมา แล้วนำมาให้พรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมดๆได้ร่วมเซ็นต์ แล้วยื่นร้องพร้อมกัน โดยเราวางกำหนดการณ์ไว้ว่าวันที่ 29 กันยายนนี้ เวลา 10.00 น. เราจะประชุมร่วมกันอีกครั้งเพื่อสรุปคำร้องต่างๆ ที่พรรคพท. จากนั้นจะนำยื่นต่อไป
 
นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องที่จะยื่นประกอบด้วยยื่น ป.ป.ช. 8 เรื่อง เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับโควิด 6 เรื่อง เรื่องการระบายสต๊อกยางพารา 1 เรื่อง และเรื่องดาวเทียมของ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) 1 เรื่อง และกมธ.ป.ป.ช. 1 คือเรื่องแจกเงิน 5 ล้านบาทที่เป็นข่าว คนที่จะถูกยื่น ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม , นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ,นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส ส่วนคนอื่นๆเราจะติดตามดู โดยเก่อนหน้านี้เราเคยยื่นนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไปแล้ว โดยประเด็นที่จะยื่นคือกรณีทุจริต การจงใจปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหาย
 
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า เรื่องที่ยื่นส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่นายกฯ ไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจนได้ เช่น ส่วนเรื่องเงินทอนจากการซื้อวัคซีนซิโนแวค  จำนวนกว่า 2 พันล้านบาท ที่ไม่สามารถตอบได้ว่าไปอยู่ตรงไหน และวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ตนตรวจทราบมาว่า ครม. เพิ่งอนุมัติจัดซื้อซิโนแวคอีก 12 ล้านโดส ในราคา 10.80 เหรียญ ถ้าไม่มีการอภิปรายครั้งที่ผ่านมา อาจจะยังจัดซื้อวัคซีนที่ 17 เหรียญอยู่ก็ได้ แต่อย่างไรก็คตาม แม้รัฐบาลจะซื้อที่ราคา 10.80 เหรียญ เราก็ยังเห็นว่าเป็นราคาที่สูงอยู่ดี เพราะตามที่รองนายกฯได้ชี้แจงในสภา การซื้อรอบสุดท้ายอยู่ที่ราคา 8.9 เหรียญเท่านั้น ดังนั้น มติ ครม. เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมายังอนุมัติซื้อในราคาที่สูงกว่า ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยอยู่ และยังเดินหน้าจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค ทั้งที่หน่วยงานอื่นๆคัดค้าการซื้อแล้วให้จัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ปนะเด็นนี้เราก็ต้องสืบหาข้อเท็จจริง และยื่นต่อ ป.ป.ช.ต่อไปอีก
 
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า การยื่นป.ป.ช.เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ในการยื่นเพื่อตรวจสอบการทุจริตหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่อาจจะรอดจากการยกมือในสภา แต่ก็อาจจะถูกดำเนินการทางกฎหมายได้ ทั้งนี้ ที่เรานยื่นไม่ได้เป็นเพราะเราโกรธแค้น หรือต้องการหาเสียง แต่เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านตามรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่