สวัสดีสมาชิกทุกคนนะคะ อยากจะมาเล่าและข้อความคิดเห็นจากเพื่อน ๆ สมาชิกค่ะ
คือว่า ถ้าผู้ชายที่อยู่ผ่านความลำบากกันมา 13 ปี บอกเราว่า เราดีอยู่อย่างเดียวคือ ทำกับข้าว ที่เหลือไม่มีดีเลย ปกติเราจะเป็นสาวออฟฟิศ ทำงานมีเงินเดือนประจำ แต่เงินไม่ค่อยเหลือเพราะต้องจ่ายหนี้ และส่งเสียครอบครัว และมีค่าใช้จ่ายในบ้าน (ค่าไฟ 2 พันกว่าต่อเดือน,ค่าโทรศัพท์ 2 คนประมาณ 1,300 ค่าอินเตอร์เน็ต 700, ค่าผ่อนห้องแฟลต 2,700 ค่าบัตรดิตเราเอง ประมาณ 8 พัน ค่าประกัน 1,500) ปกติเลิกงานไปก็ทำงานบ้าน เช่น ซักผ้า ทำกับข้าว กวาด-ถูบ้าน(แต่ข้อนี้ไม่ได้ทำทุกวัน) แล้วเขาทำงานกิจการส่วนตัว เขาจะให้เราช่วยงานเขาในเรื่องของเอกสารคือ ใบเสนอราคา วางบิล โทรทวงยอดค้าง ซึ่งเราก็ทำให้เขามาตลอด บางครั้งเราก็อารมณ์เสียเพราะเขาพูดไม่เคลียร์พอทำไปผิดเขาก็ด่าว่าเรา และเขาก็หาว่าเราไม่สนใจงานเขาเป็นอย่างนี้มาตลอด เมื่อก่อนอยู่บ้านเช่า แต่ตอนนี้ซื้อบ้านและเปิดร้านเองที่บ้าน (งานของเขานะ) เขาก็ชอบหาว่าเราไม่ดูแลบ้าน ไม่รักษาสิ่งของ ซึ่งบางทีเราไม่ได้ตั้งใจแต่เขาก็ว่า ว่าเงินไม่ได้หามาง่าย ๆ นะ กว่าจะได้แต่ละบาท เอามาให้กินให้ใช้ กว่าจะได้สร้างสมบัติ ไม่ใช่เงินเองไม่รู้หรอกนะว่าเขาเหนื่อยขนาดไหน และว่าเราว่า ทำงานมีแต่หนี้ เมื่อไหร่จะได้สร้างอะไรกับเขาสักที (ตอนซื้อบ้านเราซื้อ ตู้เย็น 13,xxx ,ชุดห้องนอน โต๊ะตู้เตียง 16,xxx ,ทีวี 2 เครื่อง ประมาณ 2 หมื่นกว่า, ซิ้งค์ล่งจานแบบ 2 หลุม ราคา 12,xxx) เรามีกำลังสร้างได้แค่นี้ แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาไม่เคยคิดถึงสิ่งของเหล่านี้เลย เราเลยถามไปว่า เราไม่มีข้อดีสำหรับเธอเลยเหรอเรามีแต่ข้อเสียเหรอ เขาบอกว่าใช่ แต่เขารับได้ เราบอกว่าเรารับนิสัยเขาไม่ได้ (ขี้หึง ปากร้าย อารมณ์ร้อน ไม่ค่อยฟังเหตุผลแต่สักพักก็หาย แต่เขาก็มีส่วนดีนะ คือ ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ไม่เจ้าชู้ ไม่ติดเหล้า ขยันทำงาน) เขาจึงให้เราเลือกว่าาเราจะอยู่หรือจะไป อยากสอบว่าควรไปต่อหรือพอแค่นี้
ข้อความคิดเห็นหน่อยตอนนี้สับสนไปหมดแล้วว่า สรุปแล้วมันดีหรือไม่ดี
มีข้อเสียเยอะแต่ยอมรับได้
คือว่า ถ้าผู้ชายที่อยู่ผ่านความลำบากกันมา 13 ปี บอกเราว่า เราดีอยู่อย่างเดียวคือ ทำกับข้าว ที่เหลือไม่มีดีเลย ปกติเราจะเป็นสาวออฟฟิศ ทำงานมีเงินเดือนประจำ แต่เงินไม่ค่อยเหลือเพราะต้องจ่ายหนี้ และส่งเสียครอบครัว และมีค่าใช้จ่ายในบ้าน (ค่าไฟ 2 พันกว่าต่อเดือน,ค่าโทรศัพท์ 2 คนประมาณ 1,300 ค่าอินเตอร์เน็ต 700, ค่าผ่อนห้องแฟลต 2,700 ค่าบัตรดิตเราเอง ประมาณ 8 พัน ค่าประกัน 1,500) ปกติเลิกงานไปก็ทำงานบ้าน เช่น ซักผ้า ทำกับข้าว กวาด-ถูบ้าน(แต่ข้อนี้ไม่ได้ทำทุกวัน) แล้วเขาทำงานกิจการส่วนตัว เขาจะให้เราช่วยงานเขาในเรื่องของเอกสารคือ ใบเสนอราคา วางบิล โทรทวงยอดค้าง ซึ่งเราก็ทำให้เขามาตลอด บางครั้งเราก็อารมณ์เสียเพราะเขาพูดไม่เคลียร์พอทำไปผิดเขาก็ด่าว่าเรา และเขาก็หาว่าเราไม่สนใจงานเขาเป็นอย่างนี้มาตลอด เมื่อก่อนอยู่บ้านเช่า แต่ตอนนี้ซื้อบ้านและเปิดร้านเองที่บ้าน (งานของเขานะ) เขาก็ชอบหาว่าเราไม่ดูแลบ้าน ไม่รักษาสิ่งของ ซึ่งบางทีเราไม่ได้ตั้งใจแต่เขาก็ว่า ว่าเงินไม่ได้หามาง่าย ๆ นะ กว่าจะได้แต่ละบาท เอามาให้กินให้ใช้ กว่าจะได้สร้างสมบัติ ไม่ใช่เงินเองไม่รู้หรอกนะว่าเขาเหนื่อยขนาดไหน และว่าเราว่า ทำงานมีแต่หนี้ เมื่อไหร่จะได้สร้างอะไรกับเขาสักที (ตอนซื้อบ้านเราซื้อ ตู้เย็น 13,xxx ,ชุดห้องนอน โต๊ะตู้เตียง 16,xxx ,ทีวี 2 เครื่อง ประมาณ 2 หมื่นกว่า, ซิ้งค์ล่งจานแบบ 2 หลุม ราคา 12,xxx) เรามีกำลังสร้างได้แค่นี้ แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาไม่เคยคิดถึงสิ่งของเหล่านี้เลย เราเลยถามไปว่า เราไม่มีข้อดีสำหรับเธอเลยเหรอเรามีแต่ข้อเสียเหรอ เขาบอกว่าใช่ แต่เขารับได้ เราบอกว่าเรารับนิสัยเขาไม่ได้ (ขี้หึง ปากร้าย อารมณ์ร้อน ไม่ค่อยฟังเหตุผลแต่สักพักก็หาย แต่เขาก็มีส่วนดีนะ คือ ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ไม่เจ้าชู้ ไม่ติดเหล้า ขยันทำงาน) เขาจึงให้เราเลือกว่าาเราจะอยู่หรือจะไป อยากสอบว่าควรไปต่อหรือพอแค่นี้
ข้อความคิดเห็นหน่อยตอนนี้สับสนไปหมดแล้วว่า สรุปแล้วมันดีหรือไม่ดี