สมาคมวอลเลย์บอลชี้แจง เป็นไปไม่ได้ที่จะออก ITC ให้สำหรับฝาแฝด “มันไม่ใช่การลงโทษทางวินัย แต่มันคือกฎระเบียบ และมีผลย้อนหลังได้”



สืบเนื่องจากข่าวนี้ : https://pantip.com/topic/40968406

เนื่องจากพี่น้องฝาแฝดอีแจยองและอีดายองผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับความรุนแรงในโรงเรียนยืนยันที่จะเดินทางไปกรีซอย่างจริงจัง สมาคมวอลเลย์บอลเกาหลีจึงได้แถลงคำอธิบายสำหรับประเด็นนี้ไว้ดังนี้

ตามรายงานของสื่อล่าสุด เป็นที่ทราบกันดีว่าเอเจนซี่ของตุรกีที่ผลักดันฝาแฝดให้เข้าร่วมสโมสร PAOK ในกรีซได้ทำการยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) เกี่ยวกับการปฏิเสธที่จะออกข้อตกลงการโอนระหว่างประเทศ (ITC) ของสมาคมวอลเลย์บอลเกาหลีแล้ว และมีการถกเถียงกันว่ากฎ 'การห้ามเดินทางไปต่างประเทศ' ของสมาคม ฯ นั้นสามารถมีผลย้อนหลังและนำไปใช้กับฝาแฝดได้หรือไม่

เจ้าหน้าที่จากสมาคมวอลเลย์บอลกล่าวในโทรศัพท์กับสตาร์นิวส์เมื่อวันที่ 11 กันยายนว่า "เราได้รับโทรศัพท์จากทนายของฝาแฝด ประเด็นที่ทางฝ่ายฝาแฝดได้หยิบยกมามีอยู่ว่าเหตุใดจึงมีการดำเนินการทางวินัย และเหตุใดจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะออก ITC”

ซึ่งทางสมาคม ฯ ก็ได้กล่าวตอบไปว่า “การถอดถอนผู้เล่นทั้งสองจากทีมชาตินั้นเป็นไปตามกฎระเบียบการคัดเลือกและดำเนินการของทีมชาติ ไม่ถือเป็นโทษทางวินัย” เขากล่าวต่อว่า "มันเป็นมาตรการทางวินัยในการ 'ระงับการเดินทางเพื่อธุรกิจ' ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ คดีนี้ก่อให้เกิดเรื่องอื้อฉาวทางสังคม ดังนั้นจึงจะกล่าวไม่ได้ว่านี่เป็นการลงโทษทางวินัย เพราะมันหมายความว่าคุณไม่มีคุณสมบัติในการจะได้คัดเลือกเข้าทีมชาติตามกฎ”

นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้ปฏิเสธที่จะออก ITC สำหรับฝาแฝดตามกฎระเบียบว่าด้วยเรื่อง 'การจำกัดคุณสมบัติสำหรับการเดินทางไปเล่นอาชีพยังต่างประเทศไปยังผู้ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางสังคมหรือสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับโลกของวอลเลย์บอล' อย่างไรก็ตาม กฎดังกล่าวที่ระบุไว้ในข้อบังคับให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอนุมัติ เช่น 23 มกราคม 2014 และ 18 กุมภาพันธ์ 2016 แต่เหตุการณ์ใช้ความรุนแรงของฝาแฝดเกิดขึ้นประมาณ 10 ปีที่แล้ว หรือราว ๆ ปี 2012 จึงไม่สามารถมีผลย้อนหลังได้

ทางสมาคมได้โต้แย้งว่ากฎเกณฑ์ดังกล่าวสามารถนำไปใช้ย้อนหลังได้เพราะมีการกำหนดเงื่อนไขว่า ‘นี่ไม่ใช่การลงโทษทางวินัย’ เจ้าหน้าที่อธิบายว่า “มีการพูดถึงการใช้อำนาจในทางที่ผิด ดังนั้น ฉันจึงได้ปรึกษาหารือกับทีมกฎหมายของสมาคมกีฬาเกาหลีถึงเรื่องนี้แล้ว หากเป็นการลงโทษตามคดีอาญาก็ไม่สามารถมีผลย้อนหลังได้จริง แต่ฉันได้รับแจ้งว่าในกรณีนี้นั้นสามารถมีผลย้อนหลังได้เนื่องจากไม่ใช่การลงโทษทางวินัย”

ด้วยเหตุนี้ สมาคมวอลเลย์บอลจึงยังคงยึดถือนโยบาย 'ไม่' สำหรับการออกไปเล่นลีกอาชีพในต่างประเทศของฝาแฝด แต่ตอนนี้ลูกบอลดูเหมือนจะส่งผ่านไปยัง FIVB แล้ว แม้ว่าสมาคมจะปฏิเสธที่จะออก ITC ฝาแฝดทั้งสองก็สามารถเล่นในกรีซได้หาก FIVB อนุมัติ เจ้าหน้าที่จากสมาคมกล่าวว่า "เนื่องจาก FIVB เป็นระดับสูงสุดของสมาคมวอลเลย์บอล จึงมีการตัดสิน (ว่าจะออก ITC ให้หรือไม่) ตามคำตัดสินของพวกเขา"

ที่มา : https://n.news.naver.com/sports/general/article/108/0002988059

สรุปตามที่จขกท.เข้าใจคือตามที่ทนายของฝาแฝดกล่าวว่าสมาคมมีการใช้อำนาจในทางที่ผิดขัดต่อรัฐธรรมนูญเรื่องกีดกันไม่ให้ฝาแฝดประกอบอาชีพคือทางสมาคมบอกว่าสมาคมไม่ได้ดำเนินการลงโทษอะไรกับฝาแฝดเลย ทั้งทีมชาติและลีกอาชีพ สมาคมเพียงแค่ปฏิบัติตามกฎที่มีอยู่

เรื่องทีมชาติ สมาคมก็ไม่ได้ลงโทษแบนฝาแฝดออกจากทีมชาติ เพียงแต่สองแฝดนั้นก่อให้เกิดเรื่องอื้อฉาวทางสังคม ซึ่งขัดต่อคุณสมบัติในการพิจารณาผู้เล่นเข้าทีมชาติ จึงไม่ได้มีการเรียกสองแฝดติดทีมชาติก็เท่านั้น

ส่วนเรื่องลีกอาชีพ สมาคมก็ไม่ได้ลงโทษแบนการเล่นลีกทั้งในและนอกประเทศของสองแฝดแต่อย่างใด เพียงแต่ลีกในประเทศนั้น ทางสโมสรต้นสังกัดเลือกจะไม่ต่อสัญญากับผู้เล่นทั้งสองเอง ส่วนลีกต่างประเทศนั้น กฎของสมาคมก็เขียนเอาไว้ชัดเจนว่าไม่สามารถออก ITC ให้กับผู้เล่นที่ก่อให้เกิดเรื่องอื้อฉาวทางสังคมได้

ส่วนเรื่องที่ทนายของฝาแฝดกล่าวว่า ‘กฎหมายไม่มีผลย้อนหลัง’ สมาคมก็โต้แย้งกลับไปว่า แม้ว่ากฎของสมาคมจะออกมาหลังจากเกิดเรื่อง แต่จะมาอ้างว่ากฎหมายไม่มีผลย้อนหลังไม่ได้ เพราะกรณีนี้ไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นการทำตามกฎในปัจจุบันต่างหาก ถ้าเป็นการลงโทษทางอาญาอะไรแบบนั้นถึงจะไม่สามารถทำได้เพราะกฎหมายไม่มีบทลงโทษย้อนหลัง แต่กรณีนี้สมาคมไม่ได้ลงโทษอะไรแฝดเลย สมาคมแค่ไม่ออก ITC ให้ตามกฎที่มีอยู่ในปัจจุบันของสมาคมเอง เพราะฉะนั้นมันไม่เกี่ยวว่ากฎเพิ่งตั้งมาหลังเรื่องเกิด แต่ฝาแฝดมาขอ ITC เอาตอนหลังจากที่กฎตั้งขึ้นมาแล้ว สมาคมจึงมีสิทธิปฏิเสธไม่ออก ITC ให้ เพราะการไม่ออก ITC ให้ ไม่ได้แปลว่าลงโทษ

สรุปแล้วคือสมาคมจะบอกว่าทางสมาคมไม่เคยลงโทษแบนอะไรสองแฝดเลย เพียงแต่สองแฝดขาดคุณสมบัติในเรื่องต่าง ๆ ไปเอง จะมาโทษว่าสมาคมไม่ยุติธรรมหรือใช้อำนาจในทางไม่ชอบไม่ได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ FIVB ตามเห็นสมควร