วัดตะเคียนงาม ปากน้ำประแส จ.ระยอง
จากทริปเตลิดเปิดเปิงเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๖๔
กลับจากจันทบุรีไประยองจะไปแวะปากน้ำประแส ขับผ่านวัดนี้โดยบังเอิญไม่ได้อยู่ในแผนการเดินทางก็เลยแวะเข้าไปถ่ายรูปแบบรีบๆครับเพราะเดี๋ยวจะค่ำมากเกินไปตามเวลาที่กำหนดไว้ วันที่ผมไปเขากำลังบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถอยู่พอดีแต่ใกล้เสร็จแล้วละครับตามภาพ จากที่ผมอ่านประวัติและเดินดู พระอุโบสถนี้น่าจะสร้างใหม่ในภายหลังจากครั้งแรกที่สร้างวัดมาแต่ดั้งเดิม (เดาเอานะครับ) ได้วิเคราะห์เองในบางเรื่องมันก็สนุกตรงนี้แหละครับ เพราะไม่รู้จะถามใครตอนนั้น ที่ผมคิดว่ามาสร้างใหม่ หรือมีการ บูรณปฏิสังขรณ์ ใหม่ครั้งใหญ่มาก่อนหน้านี้ เพราะดูจากใบเสมาหรือสีมา เขียนไว้ ๒๕๑๑ แถมไม่ได้ใช้เลขไทยด้วย อืมผมก็ งง งง ดีครับ ไม่ไช่นักประวัติศาสตร์ด้วยสิแต่ชอบ โม้ซะยาวมาดูประวัติกันครับ
------------
วัดตะเคียนงาม ตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
ประวัติวัดฯ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๐๙ (ร.ศ.๘๕) ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๙ บริเวณในวัดร่มรื่นมีต้นไม้ให้ร่มเงาสวยงาม และยังเป็น
ที่ตั้งของต้นตะเคียน ต้นไม้อันทรงคุณค่า สู่ "รุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี" ซึ่งต้นตะเคียนแห่งนี้ มีอายุกว่า ๔00 ปี มีต้นตะเคียนใหญ่จำนวน ๒ ต้น ชาวบ้านเรียกว่าต้นตะเคียนเจ้าแม่และต้นตะเคียนเจ้าพ่อ ซึ่งเมื่อในอดีตต้นตะเคียนเป็นหมุดหมายสำคัญในการนำเรือเข้าฝั่งของชาวประมง และจากจดหมายเหตุเมืองจันทบูรบันทึกไว้ว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้มีรับสั่งให้นำไม้ตะเคียนจากปากน้ำประแส เพื่อไปทำเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และใน พ.ศ. ๒๔๐๙ ชาวบ้านจึงได้ชวนกันสร้างศาสนสถานขึ้นและใช้ชื่อว่า “วัดตะเคียนงาม” เพื่อให้ความสำคัญต่อต้นตะเคียนสองต้นนี้ครับ
ประวัติความเป็นมา(เพิ่มเติม)
สมัยก่อนชาวตำบลปากน้ำกระแส ต้องเดินทางโดยทางเรือไปบำเพ็ญกุศลที่วัดประชุมคงคาซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “วัดแหลมเมือง” นับว่าเป็นหนทางที่ยากลำบากมากในการเดินทางไปบำเพ็ญกุศล จึงได้มีผู้ชักชวนกันบริจาคที่ดินประมาณ 9 ไร่เศษ โดยมีนายจันทร์ เหมมิญช์ เป็นหัวหน้ากลุ่มจัดหาผู้บริจาคที่ดินจากนั้นได้เริ่มสร้างศาลาการเปรียญพร้อมกุฏิสงฆ์ และให้ชื่อว่า “วัดตะเคียนงาม” โดยถือสัญลักษณ์ตะเคียนใหญ่ 2 ต้น มาตั้งเป็นชื่อวัด และชาวปากน้ำกระแสก็ได้มีประเพณีทำบุญทอดผ้าป่ากลางน้ำ สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ก็จบเรื่องวัดตะเคียนงาม แบบแวะด่วนๆ แค่นี้นะครับ เดี๋ยวจะกลับไปจันทบุรี แล้ววิงไประยองอีกในตอนอื่นๆ อิอิ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมครับ
วัดตะเคียนงาม ปากน้ำประแส จ.ระยอง
จากทริปเตลิดเปิดเปิงเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๖๔
กลับจากจันทบุรีไประยองจะไปแวะปากน้ำประแส ขับผ่านวัดนี้โดยบังเอิญไม่ได้อยู่ในแผนการเดินทางก็เลยแวะเข้าไปถ่ายรูปแบบรีบๆครับเพราะเดี๋ยวจะค่ำมากเกินไปตามเวลาที่กำหนดไว้ วันที่ผมไปเขากำลังบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถอยู่พอดีแต่ใกล้เสร็จแล้วละครับตามภาพ จากที่ผมอ่านประวัติและเดินดู พระอุโบสถนี้น่าจะสร้างใหม่ในภายหลังจากครั้งแรกที่สร้างวัดมาแต่ดั้งเดิม (เดาเอานะครับ) ได้วิเคราะห์เองในบางเรื่องมันก็สนุกตรงนี้แหละครับ เพราะไม่รู้จะถามใครตอนนั้น ที่ผมคิดว่ามาสร้างใหม่ หรือมีการ บูรณปฏิสังขรณ์ ใหม่ครั้งใหญ่มาก่อนหน้านี้ เพราะดูจากใบเสมาหรือสีมา เขียนไว้ ๒๕๑๑ แถมไม่ได้ใช้เลขไทยด้วย อืมผมก็ งง งง ดีครับ ไม่ไช่นักประวัติศาสตร์ด้วยสิแต่ชอบ โม้ซะยาวมาดูประวัติกันครับ
------------
วัดตะเคียนงาม ตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
ประวัติวัดฯ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๐๙ (ร.ศ.๘๕) ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๙ บริเวณในวัดร่มรื่นมีต้นไม้ให้ร่มเงาสวยงาม และยังเป็น
ที่ตั้งของต้นตะเคียน ต้นไม้อันทรงคุณค่า สู่ "รุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี" ซึ่งต้นตะเคียนแห่งนี้ มีอายุกว่า ๔00 ปี มีต้นตะเคียนใหญ่จำนวน ๒ ต้น ชาวบ้านเรียกว่าต้นตะเคียนเจ้าแม่และต้นตะเคียนเจ้าพ่อ ซึ่งเมื่อในอดีตต้นตะเคียนเป็นหมุดหมายสำคัญในการนำเรือเข้าฝั่งของชาวประมง และจากจดหมายเหตุเมืองจันทบูรบันทึกไว้ว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้มีรับสั่งให้นำไม้ตะเคียนจากปากน้ำประแส เพื่อไปทำเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และใน พ.ศ. ๒๔๐๙ ชาวบ้านจึงได้ชวนกันสร้างศาสนสถานขึ้นและใช้ชื่อว่า “วัดตะเคียนงาม” เพื่อให้ความสำคัญต่อต้นตะเคียนสองต้นนี้ครับ
ประวัติความเป็นมา(เพิ่มเติม)
สมัยก่อนชาวตำบลปากน้ำกระแส ต้องเดินทางโดยทางเรือไปบำเพ็ญกุศลที่วัดประชุมคงคาซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “วัดแหลมเมือง” นับว่าเป็นหนทางที่ยากลำบากมากในการเดินทางไปบำเพ็ญกุศล จึงได้มีผู้ชักชวนกันบริจาคที่ดินประมาณ 9 ไร่เศษ โดยมีนายจันทร์ เหมมิญช์ เป็นหัวหน้ากลุ่มจัดหาผู้บริจาคที่ดินจากนั้นได้เริ่มสร้างศาลาการเปรียญพร้อมกุฏิสงฆ์ และให้ชื่อว่า “วัดตะเคียนงาม” โดยถือสัญลักษณ์ตะเคียนใหญ่ 2 ต้น มาตั้งเป็นชื่อวัด และชาวปากน้ำกระแสก็ได้มีประเพณีทำบุญทอดผ้าป่ากลางน้ำ สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ก็จบเรื่องวัดตะเคียนงาม แบบแวะด่วนๆ แค่นี้นะครับ เดี๋ยวจะกลับไปจันทบุรี แล้ววิงไประยองอีกในตอนอื่นๆ อิอิ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมครับ