สวัสดีค่ะ นี้เป็นกระทู้ที่รู้สึกท้อมากค่ะ ขอระบายเรื่องราวที่ไม่เคยบอกใครที่ไหนก่อนนะคะ เราเป็นโรคซึมเศร้า ด้วยเหตุที่จากการกระทบจิตใจในอดีตตั้งแต่เด็ก บวกกับโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ จุดเริ่มต้นคือตั้งแต่สมัยเรายังเด็ก
เอาที่เราเริ่มจำความได้ คือเราเกิดในครอบครัวที่แม่ไม่ต้องการ แม่เป็นเมียน้อยเขา เราเป็นลูกเมียน้อย เราเติบโตมาด้วยการโดนทำร้าย ราวๆป.2แม่เรายกเราให้โบส์ย่านดินแดง เพื่อให้หาพ่อแม่บุญธรรมมารับไป แต่ไม่ทันได้ไปไหน พ่อของเราก็ยื่นข้อเสนอว่าถ้าเลี้ยงเราไว้จะซื้อบ้านให้ ทำให้แม่เลี้ยงเราเรื่อยมา
เรื่องดำเนินไป อย่างที่เคยเป็นมา จนเราอยู่ป.5 แม่เรานอกใจพ่อเรา ทุกครั้งที่แม่เราไปหาผู้ชายใหม่ก็จะเอาเราไปด้วยบังหน้าไม่ให้ใครรู้ วันหนึ่งแม่นอนกับผู้ชายใหม่ ตอนแม่หลับเขาก็ล่วงเกินจับโน้นจับนี้ แต่เราก็แกล้งดิ้นจนแม่เราตื่น เวลาผ่านไป วันหนึ่งพ่อเราจับได้ พ่อเราโมโหมาก เพราะเรายังเด็กเลยหลับไป สักพักแม่เราเขย่าตัวเราลุกขึ้น เอาตัวเราบังแม่ไว้ พอเราลืมตาตื่นเราก็เห็นปืนจ่อที่หน้า เราต้องใจร้องไห้ตลอด หลังจากนั้นแม่เราก็หาทางหนีพ่อเรากับเราโดยออกประตูหลังบ้านและหายไป พ่อเราโมโหมากที่แม่หนีไป เขาเลยทำอะไรที่เราคิดไม่ถึงพ่อเราขืนใจเรา และหลังจากนั้นเขาก็ส่งเราไปอยู่กับอา เราไม่เคยรู้จักเลย เราไปอยู่กับอา อาเรามีลูกชาย เขาก็พยายามล่วงละเมิดทางเพศเราอีก เราเติบโตมาด้วยความกลัวและหวาดระแวง วันหนึ่งพ่อง้อแม่กลับมาได้ เราเลยได้กลับมาอยู่กับแม่อีกครั้ง นับแต่นั้นเวลาเรากลับจากโรงเรียน เห็นรองเท้าพ่ออยู่หน้าบ้านทีไร เราจะนั่งกลัวอยู่ข้างบ้านร้องไห้ตลอด จนอายุ12 เราพยายามฆ่าตัวตายโดยวิ่งให้รถชน แต่ก็รอดมาได้ ทุกคนคิดเป็นอุบัติเหตุเราใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดจนจบมัทธยม
หลังจากนั้นเราโตขึ้น เริ่มปกป้องตัวเองได้ ผ่านชีวิตมากมาย ที่ผิดหวังและเสียใจเรื่อยมา ขอข้ามเรื่องราวหลังจากนี้ จนเป็นครอบครัวในปัจจุบันนะคะ
เราอายุ27เจอผู้ชายคนหนึ่ง เป็นชาวต่างชาติ เขามาจีบเราอยู่นาน แต่ด้วยความเราไม่เคยไว้ใจผู้ชายเลยใจแข็งไม่ชอบเขา แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราก็รักเขาไม่รู้ตัว เขาทำทุกอย่างเพื่อเรา เขารู้ว่าเราป่วย เขาก็อดทน ต้องบอกก่อนนะคะ เราเป็นแฟนที่ไม่ดีเท่าไร เพราะเรามีปมในใจ เลยหาเรื่องเขาตลอดขี้หึงขึ้โมโหโดยไม่ตั้งใจ เขาก็อดทนเรื่อยมา จนเขาเสมือนครึ่งของชีวิต ของเรา ความเชื่อใจ ความไว้ใจ ยกให้ไปหมดแล้ว เราแต่งงานกัน มีลูกด้วยกัน1คน เรามีความสุขกันมาก แม้อาการของฉันจะมีระแวงบ้างแต่ก็ผ่านมาได้ตลอด เป็นเวลา9ปี
วันหนึ่งพ่อของสามีป่วยเขาชวนเราย้ายไปประเทศเขา เรารักเขารักก็เลยยอมไปทั้งที่เราไม่เคยไปไหนไกลจากบ้านเลย พอเราย้ายมาอยู่อังกฤษ เราอยากหายจากสิ่งที่เป็นทำร้ายตัวเอง วิตกกังวล และอยากเป็นภรรยาที่ดีขึ้นสำหรับเขา เลยบอกเขาเราต้องการหาหมอเพื่อรักษา เราเลยรู้ว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า ได้ยามากินก็ดีขึ้น ผ่านมา2ปี เราให้อิสระกับเขาให้เขาไปเที่ยว ไปทำอะไรที่เขาอยากทำ ไม่โทรตามโทรจิก ไม่หึงไม่ระแวง เขาจะไปเที่ยงเมืองอื่นกับเพื่อน3-4วันเราก็ปล่อย แต่วันหนึ่งเขาเริ่มเย็นชา เราทำอะไรเขาก็หงุดหงิดตลอด เราก็ไม่คิดอะไร เลยยอมๆเขา เพราะเขายอมเรามาตั้งนาน ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดคือตอนนี้ เราอยู่กับเขา11ปี ยาที่กินเริ่มไม่ได้ผล เลยเปลี่ยนยาหมอบอกใช้เวลา3อาทิตย์ในการปรับตัวกับยาตัวใหม่ อารมณ์เราจะขึ้นๆลงๆ ผ่านมา1อาทิตย์
เมื่อวันที่4วันเสาร์ที่ผ่านมา เราไม่มีเรื่องทะเลาะกันเลย แถบจะไม่ทะเลาะกันเลยหลังจากที่เราทานยาโรคซึมเศร้า อยู่ๆวันนั้น เขาก็เดินมาคุยในห้องแล้วบอกว่า มีเรื่องที่ต้องคุยจริงจัง เขาขอแยกทาง เขาบอก เขาไม่มีความรู้สึกแล้ว เขาหาความรักที่เขาให้เราไม่เจอแล้ว เรานึกว่าเขาพูดเล่นแต่พอเห็นเขาหลบหน้าและร้องไห้ เอาแต่พูดเขาขอโทษ เขาเสียใจ และเขาก็วิ่งออกจากบ้านขับรถออกไปเลย เราเอาแต่ร้องไห้ จนสุดท้ายเราทานยาฆ่าตัวตาย60เม็ด ยาที่สร้างสารเคมีในสมอง หลังจากนั้นเราจำไม่ได้ จำได้อีกที พ่อแม่สามีมาเขย่าตัวบอกอย่าหลับแล้วพาเราไปส่งโรงพยาบาล เราถูกช่วยด้วยหมอจนมีชีวิตอีกครั้ง เรานอนอยู่ที่โรงพยาบาล มองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมคำถามมากมาย ฉันมาทำไหมที่นี้ ทำไหมฉันอยู่ที่นี้ มันไม่ใช่บ้านฉัน ฉันเคว้งแบะโดดเดี่ยวและกลัวมาก เพราะเราไม่เก่งภาษาเลย เกริ่นก่อนว่า สามีเราที่จีบติดเพราะเราบอกเราไม่เข้าใจคำว่ารักในภาษาอังกฤษ มันไม่รู้สึกเท่าภาษาไทย เขาเลยไปเรียนภาษาและกลับมาจีบเรา ทำให้เขาพูดไทยเก่ง พูดไทยกับเรามาตลอด11ปี
เราอยู่โรงพยาบาล ด้วยความรู้สึกฉันไม่มีใครที่นี้เลย ฉันตัวคนเดียว ถ้ากลับไทย ฉันก็ไม่มีใครที่นั้น ลูกฉันก็อยู่ที่นี้ มันมีแต่คำถามที่หาคำตอบไม่ได้ เพราะเขาให้เหตุผลเราแค่นั้น ในสมองเรามีคำถามมากมาย เกิดอะไรขึ้น เราไม่ต้องการให้ครอบครัวพังลงแบบนี้ เพราะเราไม่เคยได้รับความรักในครอบครัว ทำให้เวลาเรามีครอบครัวเราอยากรักษามันให้ดีที่สุด ณ. ตอนนร้ ครบ1อาทิตย์แล้ว เขาไม่ยอมเจอหน้า ไม่คุย ไม่ตอบข้อความฉันไม่เคยเห็นหรือคุยกับเขาอีกเลยตั้งแต่วันนั้น โรคซึมเศร้าฉันกำเริบหนัก หมอเข้ามาช่วยดูแลกันมากมาย ตอนนี้ก็ยังอยู่ในความดูแลของหมอและทีมของหมอ คือฉันไม่ได้ทำร้ายตัวเองเพื่อให้เขากลับมา แต่ตอนนั้นมันเหมือนสมองมันปิดแล้ว มันคิดทุกทาง ปัญหาที่เข้ามา ลูกที่ครอบครัวแตกแยก ฉันจะเอายังไงต่อกับตัวเอง และอีกมากมายมันเข้ามาจน สมองมันปิด เราเลยควบคุมตัวเองไม่ได้ ตอนนี้ตอนที่เราเขียนอยู่นี้ เราอยู่คนเดียว ในบ้านที่อยู่กลับเขา เขาแสร้งทำดีขึ้นจนหมอให้กลับมาอยู่บ้านได้ ทั้งที่จิตใจเราแย่มากๆ แต่รู้สึกก็ดีกว่าอยู่โรงพยาบาล มันรู้สึกเคว้งจริงๆ
ตอนนี้คือบางอารมณ์อยากแขวนคอตัวเอง บางทีก็อยากวิ่งให้รถชน เราพยายามสู้กับตัวเองตลอด เพราะเรานึกถึงลูก เราต้องทำได้ และเราอยากยื้อคำว่าครอบครัวเอาไว้ แต่ตอนนี้เราท้อเหลือเกิน เราเลือกอะไรไม่ได้เลย เพราะเขาเลือกและวางแผนไว้หมดแล้ว เราไปทางไหนไม่ได้เลย ถามไม่ได้ พอรู้สึกเขาก็ว่า ตอนนี้เรายังอยู่ที่อังกฤษ มันทรมานเหลือเกินค่ะ
เราไม่รู้เลยว่าเขาจะเอาไง เขาบอกไม่เลิกแต่แยกกันอยู่ ยังไม่ได้หย่านะคะ เขาบอกไม่ใช่ไม่รัก แต่มองไม่เห็นความรักที่มีให้เรามันหายไป คือเรารู้สึกแบบไร้ค่าที่สุด
เราไม่รู้จะทำยังไง บางคนบอกให้เราง้อเขา บางคนบอกเราทำใจ เขาเป็นสามีที่ดีมาตลอด11ปี อยู่เกิดเรื่องแบบนี้เลยไม่รู้ว่าเราควรรอเขากลับมา หรือจะเดินหน้า แต่สำคัญที่สุดตอนนี้ ทุกวันทุกวินาทีของเรา เราทรมานมากๆเลยค่ะ เรารู้สึก การมีชีวิตมันช่างน่ากลัวกว่าการจากไปเหลือเกิน เกิดมากผ้ไม่มีใครต้องการ ตอนนี้ คนที่เป็นเหมือนคนให้ชีวิตใหม่ก็มาทิ้งเราไป มันเลยทำให้เรารู้สึกสุดท้ายใครๆก็ทิ้งก็ไม่ต้องการเรา ตอนนี้คิดแต่เรื่องลูก เรารักลูกเรามาก ลูกเราจะ8ขวบเดือนนี้ เราไม่อยากให้ลูกรู้หรือเสียใจเลย สำหรับเราครอบครัวคือมันจะขาดใครคนหนึ่งไม่ได้
ตอนนี้เราทั้งเกลียดตัวเอง ทั้งเศร้า ทุกข์ และแคว้งมาก ไม่รู้จะเอายังไง เดินไปทางไหน มันเศร้ามากเลย คือบอกใครก็ไม่ได้ กลัวคนอื่นจะมองสามีไม่ดี เพราะยังมีความหวังเพื่อวันหนึ่งเขาจะกลับมา เลยเก็บไว้คนเดียว ใครก็ได้ช่วยเราคิดที ช่วยเราออกจากความเศร้าที เราทรมานเหลือเกิน
หาทางออกไม่เจอ ทำยังไงให้ครอบครัวกลับมาเหมือนเดิม
เอาที่เราเริ่มจำความได้ คือเราเกิดในครอบครัวที่แม่ไม่ต้องการ แม่เป็นเมียน้อยเขา เราเป็นลูกเมียน้อย เราเติบโตมาด้วยการโดนทำร้าย ราวๆป.2แม่เรายกเราให้โบส์ย่านดินแดง เพื่อให้หาพ่อแม่บุญธรรมมารับไป แต่ไม่ทันได้ไปไหน พ่อของเราก็ยื่นข้อเสนอว่าถ้าเลี้ยงเราไว้จะซื้อบ้านให้ ทำให้แม่เลี้ยงเราเรื่อยมา
เรื่องดำเนินไป อย่างที่เคยเป็นมา จนเราอยู่ป.5 แม่เรานอกใจพ่อเรา ทุกครั้งที่แม่เราไปหาผู้ชายใหม่ก็จะเอาเราไปด้วยบังหน้าไม่ให้ใครรู้ วันหนึ่งแม่นอนกับผู้ชายใหม่ ตอนแม่หลับเขาก็ล่วงเกินจับโน้นจับนี้ แต่เราก็แกล้งดิ้นจนแม่เราตื่น เวลาผ่านไป วันหนึ่งพ่อเราจับได้ พ่อเราโมโหมาก เพราะเรายังเด็กเลยหลับไป สักพักแม่เราเขย่าตัวเราลุกขึ้น เอาตัวเราบังแม่ไว้ พอเราลืมตาตื่นเราก็เห็นปืนจ่อที่หน้า เราต้องใจร้องไห้ตลอด หลังจากนั้นแม่เราก็หาทางหนีพ่อเรากับเราโดยออกประตูหลังบ้านและหายไป พ่อเราโมโหมากที่แม่หนีไป เขาเลยทำอะไรที่เราคิดไม่ถึงพ่อเราขืนใจเรา และหลังจากนั้นเขาก็ส่งเราไปอยู่กับอา เราไม่เคยรู้จักเลย เราไปอยู่กับอา อาเรามีลูกชาย เขาก็พยายามล่วงละเมิดทางเพศเราอีก เราเติบโตมาด้วยความกลัวและหวาดระแวง วันหนึ่งพ่อง้อแม่กลับมาได้ เราเลยได้กลับมาอยู่กับแม่อีกครั้ง นับแต่นั้นเวลาเรากลับจากโรงเรียน เห็นรองเท้าพ่ออยู่หน้าบ้านทีไร เราจะนั่งกลัวอยู่ข้างบ้านร้องไห้ตลอด จนอายุ12 เราพยายามฆ่าตัวตายโดยวิ่งให้รถชน แต่ก็รอดมาได้ ทุกคนคิดเป็นอุบัติเหตุเราใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดจนจบมัทธยม
หลังจากนั้นเราโตขึ้น เริ่มปกป้องตัวเองได้ ผ่านชีวิตมากมาย ที่ผิดหวังและเสียใจเรื่อยมา ขอข้ามเรื่องราวหลังจากนี้ จนเป็นครอบครัวในปัจจุบันนะคะ
เราอายุ27เจอผู้ชายคนหนึ่ง เป็นชาวต่างชาติ เขามาจีบเราอยู่นาน แต่ด้วยความเราไม่เคยไว้ใจผู้ชายเลยใจแข็งไม่ชอบเขา แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราก็รักเขาไม่รู้ตัว เขาทำทุกอย่างเพื่อเรา เขารู้ว่าเราป่วย เขาก็อดทน ต้องบอกก่อนนะคะ เราเป็นแฟนที่ไม่ดีเท่าไร เพราะเรามีปมในใจ เลยหาเรื่องเขาตลอดขี้หึงขึ้โมโหโดยไม่ตั้งใจ เขาก็อดทนเรื่อยมา จนเขาเสมือนครึ่งของชีวิต ของเรา ความเชื่อใจ ความไว้ใจ ยกให้ไปหมดแล้ว เราแต่งงานกัน มีลูกด้วยกัน1คน เรามีความสุขกันมาก แม้อาการของฉันจะมีระแวงบ้างแต่ก็ผ่านมาได้ตลอด เป็นเวลา9ปี
วันหนึ่งพ่อของสามีป่วยเขาชวนเราย้ายไปประเทศเขา เรารักเขารักก็เลยยอมไปทั้งที่เราไม่เคยไปไหนไกลจากบ้านเลย พอเราย้ายมาอยู่อังกฤษ เราอยากหายจากสิ่งที่เป็นทำร้ายตัวเอง วิตกกังวล และอยากเป็นภรรยาที่ดีขึ้นสำหรับเขา เลยบอกเขาเราต้องการหาหมอเพื่อรักษา เราเลยรู้ว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า ได้ยามากินก็ดีขึ้น ผ่านมา2ปี เราให้อิสระกับเขาให้เขาไปเที่ยว ไปทำอะไรที่เขาอยากทำ ไม่โทรตามโทรจิก ไม่หึงไม่ระแวง เขาจะไปเที่ยงเมืองอื่นกับเพื่อน3-4วันเราก็ปล่อย แต่วันหนึ่งเขาเริ่มเย็นชา เราทำอะไรเขาก็หงุดหงิดตลอด เราก็ไม่คิดอะไร เลยยอมๆเขา เพราะเขายอมเรามาตั้งนาน ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดคือตอนนี้ เราอยู่กับเขา11ปี ยาที่กินเริ่มไม่ได้ผล เลยเปลี่ยนยาหมอบอกใช้เวลา3อาทิตย์ในการปรับตัวกับยาตัวใหม่ อารมณ์เราจะขึ้นๆลงๆ ผ่านมา1อาทิตย์
เมื่อวันที่4วันเสาร์ที่ผ่านมา เราไม่มีเรื่องทะเลาะกันเลย แถบจะไม่ทะเลาะกันเลยหลังจากที่เราทานยาโรคซึมเศร้า อยู่ๆวันนั้น เขาก็เดินมาคุยในห้องแล้วบอกว่า มีเรื่องที่ต้องคุยจริงจัง เขาขอแยกทาง เขาบอก เขาไม่มีความรู้สึกแล้ว เขาหาความรักที่เขาให้เราไม่เจอแล้ว เรานึกว่าเขาพูดเล่นแต่พอเห็นเขาหลบหน้าและร้องไห้ เอาแต่พูดเขาขอโทษ เขาเสียใจ และเขาก็วิ่งออกจากบ้านขับรถออกไปเลย เราเอาแต่ร้องไห้ จนสุดท้ายเราทานยาฆ่าตัวตาย60เม็ด ยาที่สร้างสารเคมีในสมอง หลังจากนั้นเราจำไม่ได้ จำได้อีกที พ่อแม่สามีมาเขย่าตัวบอกอย่าหลับแล้วพาเราไปส่งโรงพยาบาล เราถูกช่วยด้วยหมอจนมีชีวิตอีกครั้ง เรานอนอยู่ที่โรงพยาบาล มองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมคำถามมากมาย ฉันมาทำไหมที่นี้ ทำไหมฉันอยู่ที่นี้ มันไม่ใช่บ้านฉัน ฉันเคว้งแบะโดดเดี่ยวและกลัวมาก เพราะเราไม่เก่งภาษาเลย เกริ่นก่อนว่า สามีเราที่จีบติดเพราะเราบอกเราไม่เข้าใจคำว่ารักในภาษาอังกฤษ มันไม่รู้สึกเท่าภาษาไทย เขาเลยไปเรียนภาษาและกลับมาจีบเรา ทำให้เขาพูดไทยเก่ง พูดไทยกับเรามาตลอด11ปี
เราอยู่โรงพยาบาล ด้วยความรู้สึกฉันไม่มีใครที่นี้เลย ฉันตัวคนเดียว ถ้ากลับไทย ฉันก็ไม่มีใครที่นั้น ลูกฉันก็อยู่ที่นี้ มันมีแต่คำถามที่หาคำตอบไม่ได้ เพราะเขาให้เหตุผลเราแค่นั้น ในสมองเรามีคำถามมากมาย เกิดอะไรขึ้น เราไม่ต้องการให้ครอบครัวพังลงแบบนี้ เพราะเราไม่เคยได้รับความรักในครอบครัว ทำให้เวลาเรามีครอบครัวเราอยากรักษามันให้ดีที่สุด ณ. ตอนนร้ ครบ1อาทิตย์แล้ว เขาไม่ยอมเจอหน้า ไม่คุย ไม่ตอบข้อความฉันไม่เคยเห็นหรือคุยกับเขาอีกเลยตั้งแต่วันนั้น โรคซึมเศร้าฉันกำเริบหนัก หมอเข้ามาช่วยดูแลกันมากมาย ตอนนี้ก็ยังอยู่ในความดูแลของหมอและทีมของหมอ คือฉันไม่ได้ทำร้ายตัวเองเพื่อให้เขากลับมา แต่ตอนนั้นมันเหมือนสมองมันปิดแล้ว มันคิดทุกทาง ปัญหาที่เข้ามา ลูกที่ครอบครัวแตกแยก ฉันจะเอายังไงต่อกับตัวเอง และอีกมากมายมันเข้ามาจน สมองมันปิด เราเลยควบคุมตัวเองไม่ได้ ตอนนี้ตอนที่เราเขียนอยู่นี้ เราอยู่คนเดียว ในบ้านที่อยู่กลับเขา เขาแสร้งทำดีขึ้นจนหมอให้กลับมาอยู่บ้านได้ ทั้งที่จิตใจเราแย่มากๆ แต่รู้สึกก็ดีกว่าอยู่โรงพยาบาล มันรู้สึกเคว้งจริงๆ
ตอนนี้คือบางอารมณ์อยากแขวนคอตัวเอง บางทีก็อยากวิ่งให้รถชน เราพยายามสู้กับตัวเองตลอด เพราะเรานึกถึงลูก เราต้องทำได้ และเราอยากยื้อคำว่าครอบครัวเอาไว้ แต่ตอนนี้เราท้อเหลือเกิน เราเลือกอะไรไม่ได้เลย เพราะเขาเลือกและวางแผนไว้หมดแล้ว เราไปทางไหนไม่ได้เลย ถามไม่ได้ พอรู้สึกเขาก็ว่า ตอนนี้เรายังอยู่ที่อังกฤษ มันทรมานเหลือเกินค่ะ
เราไม่รู้เลยว่าเขาจะเอาไง เขาบอกไม่เลิกแต่แยกกันอยู่ ยังไม่ได้หย่านะคะ เขาบอกไม่ใช่ไม่รัก แต่มองไม่เห็นความรักที่มีให้เรามันหายไป คือเรารู้สึกแบบไร้ค่าที่สุด
เราไม่รู้จะทำยังไง บางคนบอกให้เราง้อเขา บางคนบอกเราทำใจ เขาเป็นสามีที่ดีมาตลอด11ปี อยู่เกิดเรื่องแบบนี้เลยไม่รู้ว่าเราควรรอเขากลับมา หรือจะเดินหน้า แต่สำคัญที่สุดตอนนี้ ทุกวันทุกวินาทีของเรา เราทรมานมากๆเลยค่ะ เรารู้สึก การมีชีวิตมันช่างน่ากลัวกว่าการจากไปเหลือเกิน เกิดมากผ้ไม่มีใครต้องการ ตอนนี้ คนที่เป็นเหมือนคนให้ชีวิตใหม่ก็มาทิ้งเราไป มันเลยทำให้เรารู้สึกสุดท้ายใครๆก็ทิ้งก็ไม่ต้องการเรา ตอนนี้คิดแต่เรื่องลูก เรารักลูกเรามาก ลูกเราจะ8ขวบเดือนนี้ เราไม่อยากให้ลูกรู้หรือเสียใจเลย สำหรับเราครอบครัวคือมันจะขาดใครคนหนึ่งไม่ได้
ตอนนี้เราทั้งเกลียดตัวเอง ทั้งเศร้า ทุกข์ และแคว้งมาก ไม่รู้จะเอายังไง เดินไปทางไหน มันเศร้ามากเลย คือบอกใครก็ไม่ได้ กลัวคนอื่นจะมองสามีไม่ดี เพราะยังมีความหวังเพื่อวันหนึ่งเขาจะกลับมา เลยเก็บไว้คนเดียว ใครก็ได้ช่วยเราคิดที ช่วยเราออกจากความเศร้าที เราทรมานเหลือเกิน