ประกันรถยนต์ชั้นนำ

เราต้องเกิดอุบัติเหตุ11กพ63เเละเราได้เอารถเอาในเครือประกันของเราซึ่งทางประกันเป็นคนเเนะนำให้เขาประกันชั้น1เราเป็นฝ่ายถูก รถเราซ่อมอยุ่หลายเดือน  ปลายพ.ค.ทางอู่บอกรถเรียบร้อยเร่เข้าไปดูปรากฎว่าเกียร์เรามันเอียงไม่เข้าเป้าเกียร์ซึ่งทำให้ลำบากต่อการขับเราว่าเราไม่รับรถนะเปลี่ยนให้เราเขาบอกเขาก็ซ่อมได้เเค่นี้ เราอึ้ง แล้วยังมีปากเสียงกับเราเอาไปขับเถอะไม่ตายหรอกคำพูดจากเจ้าของอู่ เราเลยโทรให้ประกันเรามาดูแลให้เราตรวจสอบให้ปรากฎว่าเอียงผิดรูปจริง ประกันชั้นนำอันดับ1เลยสั่งเปลี่ยนให้พอประมาน5มิถุนายนเราได้รับรถอีกครั้ง ขับๆไปหน้ากากครอบเรือนไหมหลุด คุณพระอะไรนี้ แถมมีน้อตเหลือในกรัชังหน้รถ1ถุง เราเลยเเจ้งบ.ชั้นนำไปว่ามีปัญหาประมานเดือนกันยาก็คุยกับจนท.ประกันบอกว่าให้เข้าเช้คอู่ใกล้เราเลยในเครื่อพอไปปรากฏว่าอู่เข้าไม่ทำให้เขาบอกเขาไม่อยากทำงานแก้จากอู่อื่นมา โอเครเราก็ติดต่อประกันเราไป ระหว่างนั้นกระป๋องพักน้ำก็มีรอยแตกไม่เปลี่ยนน้ำหม้อน้ำแห้งรถเราเกือบพังรอยร้าวที่กระป๋องพักน้ำรถเราชนเข้าด้านหน้า ทางประกันบอกให้เขามาซึ่งทุกครั้งที่มีปัญหาเร่จะแจ้งประกันตลอดติดต่อเจ้าหน้าที่เขาส่งรุปให้ดู ตั้งแต่สีบนหลังคา รอยพ่นสีเป้นละลองมาเกาะรถเราเป้นจุดด่างๆ กล่องควบคุมเครื่องแตกก็ไม่เปลี่ยนให้เราเราก็เเจ้งไว้กับจนทเขาตลอดรับเรื่องเขาบอกให้เราเข้ามาในเมืองเราอยุ่ห่างจากตัวเมือง100กว่ากิโล และเราเเจ้งไปว่าวันที่12พ.ย63เราเข้าไปนะเราก็เข้าไปเขาบอกเขาเเจ้งให้อู่มาดูอู่ไม่มาเขาก็เช้ครถเราถ่ายรุปไว้ แล้วเร่ขอหาอู่เช้ครถทุกอย่างที่ซ่อมไปนะ เขาก็บอกได้แต่ด้วยเหตุไม่คาดคิดวันนั้นเเฟนเราโดยไฟฟ้าแรงสูงซ็อต ไหม้ทั้งตัว อาการสาหัสหมอบอกไม่รอดเราก็โทรเเจ้งประกันรถเราว่าเราไม่สามารถไปหาอู่เช้ครถได้นะในช่วงนี้เราต้องอยุ่รพ ก็บอกสาเหตุไปจนท.ก็บอกว่าไม่เป้นไรให้พี่เสร้จเรื่องเเฟนเรื่องรถค่อยมาว่ากันต่อผมรับเรื่องให้เเล้ว เราไม่มีใจจะทำอะไรอยุ่รพ.3-4เดือนที่เเฟนเรารักษาตัวกว่าจะกลับมาช่วยตัวเองได้ แต่เราก็แจ้งทางประกันตลอดว่าเรายังไม่สะดวกนะ พอประมานมี.ค.เรายอกว่าจะเอารถเขาตรวตสอบนะ จนท.ที่เราติดต่อเขาบอก ว่าผมจะแต้งให้ตอนนี้ผมไม่ได้รับเคสพี่เเล้ว พอเเจ้งเขาบอกเลยเวลามาเเล้ว ไม่สามารถทำอะไรได้เราก็อ้าวเเล้วที่คุยๆไปละ เขาบอกเขามารับงานใหม่คนเก่าทำไรไว้ก็ส่วนคนเก่า เราก็บอกนั้นมาดูรถเราว่าสภาพเป้นที่กล่าวไว้ไหมเขาก็มาเช้ค เห็นสภาพรถเรากับหลักฐานที่เราเคยส่งให้คนเก่าก็ว่าเรารับรถสภาพแบบนี้มาทำไม เราจะไปรุ้หรือว่าจะซ่อมแย่จขนาดนี้เราผญไม่รุ้เรื่องรถเครื่องยนต์เท่าใดหรอก เเล้วเขาบอกจะแจ้งให้ผู้จัดการทราบ และนัดเราไปที่อู่ที่ซ่อม อู่ก็พูดจาจะฟ้องเราทำให้เขาเสียงชื่อเสียง หน้ากากเรือนไมค์ไม่ได้แก้จะแตกได้ไง จนท.ประกันก็ดูรูปตอนซ่อมก็มีการรื้อทางอู่ปฎิเสธทุกอย่าง เราได้ถ่ายรุปไว้บางตอนไปดูเราระหว่างซ่อมเราก็มีรูปถอดคอลโซนหน้าหมด จากนั้นประกันให้เราไปตีค่าเสียงหายจากอู่อื่นมาว่า รวมๆทุกอย่างประมานเท่าไร เราเอารายการมายื่น20000กว่าบาท ตอนแรกเสนอให้เรา5000เราไม่รับ เเล้วก็มีปากเสียงกับจนท.ประกันท่านหนึ่ง ไปเลยไปฟ้องคปภ.ผมไม่กลัวหรอก ให้เรา10000จบไหมเราว่าขอเสนอหน่อยได้ไหมเขาบอก10000จบไม่ให้เเล้วนี้ช่วยมากเเล้วขึ้นเสียงกล่าวว่าด่ากันได้เลย เราเลยตัดสินใจไปคปภ.ปรึกษาดูเขาก็ยอกให้ว่าเราของ14000 ทางโน้นบอก11000มันยืดเยื้อเสียหายมากแล้วเหนื่อยเอาจริงๆ มากๆด้วยเราจึงจบ11000 ถ้าว่าคุ้มไหมไม่หรอกรถเราสภาพหมดไปแล้ว เรารุ้ว่าซ่อมมาไม่100เปอหรอกแต่มันควรดีกว่านี้ไหม คปภบอกว่านั้นก็เดียวให้ทางประกันติดต่อไป สรุปไม่ติดต่อมาเราแจ่งคปภ เขาตามเรื่องให้ได้ความว่าทางประกันไปเอาเงินจากอู่5000ประกันออก6000อู่ไม่นอมตอนเเรกอู่ยอมเเต่าตอนนี้ไม่ยอมจ่าย คปภ.จึงแนะนำให้เรายื่นหนังสือฟ้องร้อง(อ่อตอนเเรกเราแค่โทรคุยคปภ.ทางคปภ.ช่วยเจรจาให้ไม่ได้ทำเรื่องร้องเรียนอย่างเป้นทางการ)พอทางคปภแจ้งอย่างนั้นเขาให้ขอหนังสือปฎิเสธการรับผิดชอบซ่อมรถแล้วมายืนพร้อมคำร้อง ปรากฎว่าเราเเจ้งประกันไปขอหนังสือก็เงียบหายไป เราว่าควรจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ต่อดี ใครพอจะเเนะนำหน่อยได้ไหมเราทำประกันชั้น1มาตลอดกับบริษัทนี้8ปีไม่เคยเครม ครั้งนี้เป็นประสบดารณ์เลวร้ายมากที่สุด ร้องไห้หลายครั้งด้วยเจอคำพูดที่ไม่ควรจะได้ยินจากอู่จากประกัน