อยากให้คนที่เป็นพ่อแม่เข้ามาอ่านค่ะ

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ เราต้องบอกก่อนว่าเราเป็นแค่เด็กม.ต้นคนนึง อาจจะไม่ได้เข้าใจโลกเท่าที่ควร แต่นี่เป็นสิ่งที่เราอยากจะบอกกับคนที่เป็นพ่อแม่ค่ะ ว่าบางทีความเป็นห่วงมากๆของพวกคุณ ก็ไม่ได้ทำให้ลูกมีความสุข เริ่มเลยก็คือพ่อแม่ไม่ยอมให้ทำสิ่งที่เราชอบค่ะ ไม่ยอมเลย เราชอบวาดรูป แม่ก็ไม่ให้วาดทั้งที่เราวาดแค่ในเวลาว่าง ไม่ได้เสียการเรียน เขาอาจจะกลัวว่าถ้าเราวาดรูปมากๆอาจจะทำให้คะแนนตก แต่ก็นั่นแหละค่ะ พี่เราเป็นคนเรียนเก่ง ส่วนเราเรียนธรรมดาๆ ไม่ได้เก่งมาก ที่ถนัดก็คือด้านภาษากับศิลปะ แต่พ่อแม่ก็ไม่สนับสนุน จริงๆยังมีอีกมากนะคะ แต่ขอไม่พูดดีกว่า เพราะเราไม่ได้เข้ามาระบายนี่เนอะ

อยากจะบอกคนที่เป็นพ่อแม่ว่า รู้ว่าห่วง แต่ได้โปรดให้เด็กได้ทำในสิ่งที่ชอบเถอะค่ะ ได้โปรดสนับสนุนในสิ่งที่เราเป็น แม้ว่าคุณอาจจะบอกว่าไม่ได้กดดัน แต่บางครั้งพ่อแม่ก็อาจจะกดดันลูกโดยไม่รู้ตัว พ่อแม่ส่วนใหญ่ย่อมคาดหวังในตัวลูกอยู่แล้วค่ะ และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้พวกคุณกดดันลูกๆอย่างเรา เราเชื่อว่าเด็กหลายๆคน โดยเฉพาะวัยรุ่น ต้องมีความคิดที่ว่า 'อยากให้พ่อแม่เข้าใจ' ใช่ค่ะ พ่อแม่หลายๆคนคงจะอยากให้ลูกได้ดีใช่ไหมคะ พวกคุณจึงได้พยายามเคี่ยวเข็นเราในทางที่พวกคุณคิดว่าดี แต่ก่อนจะทำอะไร ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรแทนลูก อยากให้ถามลูกก่อนนะคะว่าชอบไหม ที่พ่อแม่เลี้ยงแบบนี้ แนะนำให้เปิดอกคุยกันไปเลยค่ะ ถามตรงๆเลย บางครั้งคุณอาจจะคิดว่า 'ถ้าไม่ชอบก็ควรจะบอกออกมาสิ' ขอบอกเลยนะคะว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะกล้าบอกออกมาแบบนั้น เราเป็นคนนึงที่ชอบเก็บปัญหาไว้กับตัว

ข้อแรกเลยก็คือกลัวว่าพ่อแม่จะว่า กลัวว่าแทนที่จะปลอบ แทนที่จะเข้าใจ กลับดุด่า ทำให้เด็กไม่กล้าแสดงความคิดเห็น หรือแสดงความรู้สึกจริงๆออกมา ใครที่รู้ตัวว่าเลี้ยงลูกแบบนี้ อยากให้เปลี่ยนวิธีนะคะ เพราะวันนึง ลูกของคุณจะกลายเป็นเด็กเก็บกด เครียด และตีตัวออกห่างจากสังคมค่ะ

ข้อสอง คุณเคยเอาเรื่องไม่ดีของลูกไปบ่นกับคนอื่นไหมคะ ? นั่นแหละค่ะ บางครั้งที่เด็กต้องการความเข้าใจ ต้องการให้พ่อแม่รับฟัง เพราะเด็กคิดว่าพ่อแม่เป็นคนที่เราไว้ใจได้มากที่สุด แต่ถ้าหากคุณเอาเรื่องที่ลูกระบาย ไปปรึกษากับคนอื่น ความไว้ใจนั้นจะหายไปค่ะ เพราะเราแค่ต้องการให้พ่อแม่รับฟัง ไม่ใช่คนอื่น

ข้อสาม กลัวพ่อแม่จะเหนื่อย ไม่ได้ห้ามว่าพ่อแม่ห้ามแสดงท่าทางว่าเหนื่อยนะคะ สิ่งที่เราจะสื่อก็คือ อยากให้มีเวลาให้ลูกบ้าง เรื่องงานอาจจะสำคัญ แต่ความรู้สึกของลูกก็สำคัญเช่นกัน คุณอาจจะเหนื่อยกับงาน แต่อยากให้ถามลูกว่า เป็นยังไงบ้าง ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ที่เหนื่อยเป็นนะคะ เด็กอย่างเราก็เหนื่อยกับชีวิตเหมือนกัน ทุกวันนี้แค่ได้ยินคนถามว่าเหนื่อยไหม เราก็แทบน้ำตาแตกแล้วค่ะ

ข้อสี่ ฟังผ่านๆ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำแบบนั้น แต่การแสดงออกอาจทำให้ลูกคิดแบบนั้นได้ค่ะ อยากให้เวลาที่ลูกมาปรึกษา ให้มองตาลูก พยักหน้าเป็นระยะเพื่อให้รับรู้ว่าคุณกำลังฟังเขา กำลังใส่ใจกับเรื่องของเขาจริงๆ อย่าทำอย่างอื่นระหว่างที่ลูกกำลังระบาย อย่าขึ้นเสียงใส่เขา เพราะนั่นคือช่วงเวลาที่เขากำลังอ่อนแอ

สิ่งที่พ่อแม่คิดว่าถูกต้อง บางทีอาจเป็นการทรมานลูกอย่างนึงก็ได้นะคะ อยากให้คนที่เป็นพ่อแม่สังเกตลูกดู สีหน้าของลูกดูเศร้าหรือเปล่า ร่าเริงน้อยลงไหม ยิ้มน้อยลงไหม แม้ว่าลูกจะบอกว่าไม่เป็นไร ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอะไรจริงๆนะคะ

เราเข้าใจข้อที่ว่าพ่อแม่เป็นห่วงลูก แต่ไม่อยากให้พ่อแม่ตีกรอบลูกมากเกินไป ให้อิสระอย่างเหมาะสม ให้ลูกได้ทำในสิ่งที่รัก ถ้ากลัวว่าลูกจะเสียการเรียน อยากให้บอกกับลูกว่า 'ถ้าเรียนเสร็จแล้ว ทำการบ้านเสร็จแล้ว แม่/พ่อจะให้เวลาอิสระของลูกเป็นรางวัลนะ' เด็กจะมีแรงจูงใจใจการเรียนมากขึ้น แล้วก็มีความสุขกับการเรียนด้วยค่ะ หากเด็กทำพลาด ขอร้องว่าอย่าดุด่า ให้สอนเขาอย่างใจเย็น เราเข้าใจว่าพ่อแม่อาจหงุดหงิด อาจไม่พอใจ แต่อยากให้เก็บอารมณ์นั้นไว้ก่อน ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นทุกข์ เด็กบางคนก็กลายเป็นเด็กที่มีปมในใจเพราะพ่อแม่เข้มงวดมากเกินไปก็ได้นะคะ การจะบอกให้ลูกเข้าใจพ่อแม่ มันยากค่ะ เพราะเราไม่เคยเป็นผู้ใหญ่มาก่อน แต่พ่อแม่ที่เคยเป็นเด็ก เคยเป็นวัยรุ่น ลองเปิดใจดูนะคะ แล้วจะเข้าใจลูกได้มากขึ้น เด็กจะมีความสุขมากขึ้นค่ะ

หรือถ้าคุณไม่มั่นใจ อยากให้ลองตอบคำถามเหล่านี้ดูนะคะ

1.ลูกเกิดวันไหน เดือนไหน ปีอะไร ปีนี้อายุเท่าไหร่
2.ลูกชอบสีอะไร
3.อาหารโปรดของลูกคืออะไร
4.ลูกไม่ชอบกินอะไร
5.ลูกมีงานอดิเรกคืออะไร
6.ลูกเรียนห้องไหน เลขที่เท่าไหร่
7.ลูกชอบเรียนวิชาอะไร(วิชาที่'ชอบ'นะคะ ไม่ใช่วิชาที่เก่ง)
8.เบอร์โทรศัพท์ของลูกคืออะไร
9.ลูกชอบอ่านหนังสือหรือดูหนังแนวไหน
10.ลูกมีเพื่อนสนิทกี่คน ชื่ออะไรบ้าง

มันดูเป็นคำถามที่เบสิคมากๆ แต่เชื่อไหมคะว่าพ่อแม่บางคนตอบได้ไม่เกินครึ่ง ล่าสุดแม่ยังถามว่าวันเกิดเราวันไหนอยู่เลยค่ะ ทั้งๆที่อีกไม่ถึงสัปดาห์ก็วันเกิดเราแล้ว555 พ่อแม่คนไหนตอบได้ไม่เกิน8ข้อ อยากให้ลองคิดแล้วนะคะว่าคุณรู้จักลูกจริงๆหรือเปล่า ใส่ใจลูกในสิ่งที่เขาต้องการไหม

ทั้งหมดนี้คือความในใจที่คนเป็นลูกคนนึงอย่างเราอยากจะบอกกับพ่อแม่ค่ะ อาจจะเป็นแค่ความคิดเห็นของเด็กคนนึง แต่อยากให้รับฟังด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
รออ่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่