เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้ไปสมัครบัตรเครดิตแบบเงินฝากค้ำที่ธนาคารกสิกรไทยมาค่ะ พนักงานแลดูงงๆ ไม่แม่นเรื่องเอกสาร Print ไป ก็ถามรุ่นพี่ไป ใช้อันนี้มั้ย ? ใช้อันนั้นมั้ย? ขอแต่บัตรประชาชน ไม่ขอเอกสารแสดงรายได้หรือเอกสารอื่นๆ แล้วให้กรอกแบบฟอร์มสมัครบัตร พร้อมเปิดบัญชีแบบฝากประจำ15,000 บาท อ่ะ ... เปิดก็เปิด ไม่เป็นไร เตรียมตัว เตรียมเงินมาแล้ว จัดไป !!
บอกก่อนว่าตั้งใจไปเลยว่าสมัตรบัตร PTT จะไว้เติมน้ำมัน
เราได้สอบถามพนักงานผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งแลดูอาวุโสกว่าทุกท่าน เขาบอกว่าเขาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการสาขา โอเค แบบนี้ค่อยมั่นใจหน่อย เจอระดับผบรห. สาขา อ่ะ มาเริ่มกัน
เรา : ไม่ขอเอกสารแสดงรายได้อะไรเลยหรือ ??
เขา : ไม่ต้องครับ ใช้แต่บัตรประชาชน
เรา : อ่อ ค่ะ แล้วอนุมัติง่ายไหมคะ ?
เขา : อ๋อ ง่ายครับ เพราะไม่เช็คบูโร อนุมัติทุกเคส เพราะมีเงินฝากค้ำ
แต่ๆๆๆๆๆๆ เอกสารที่ให้กรอก ก็เหมือนสมัครบัตรเครดิตทั่วไป และ 1 ในนั้นคือเปิดเผยข้อมูลเครดิตแห่งชาติ อ้าว ?? ไหนบอกไม่เช็คบูโร อ่ะ ไม่เป็นไร ไหนๆก็มาแระ ในใจคิดว่าคงเป็นกฏของแบงค์ชาติ ไม่เป็นไร ไม่เหลือบ่ากว่าแรงอะไร เราก็กรอกไปจนจบขั้นตอน
อ่ะ อ่ะ อ่านด้านบนดีๆนะคะ ระดับผู้ช่วยผู้จัดการสาขาบอกว่า " อนุมัติทุกเคส เพราะมีเงินฝากค้ำ" เป็นใครๆใครก็เชื่อ ถูกมั้ยคะ ?
แต่ๆๆๆๆๆๆๆ วันนี้ค่ะ ส่ง SMS มาแจ้งตอน 19.19 นาที (แหม ... เวลามงคลฤกษ์ซะด้วย )
อ่านแล้วเสียความรู้สึกมาก ไอ้เรื่องเสียความรู้สึกว่าไม่อนุมัติอันนั้นก็แย่พอแล้ว แต่ที่เสียความรู้สึกแย่กว่าคือ นี่หรือคือสิ่งคนระดับผู้ช่วยผู้จัดการสาขาพูด เป็นงัยคะ ? มันไม่ใช่แบบที่พนักงานคุณพูดเลย เหมือนพูดไปเรื่อยเปื่อย พูดไปเรื่อย ความน่าเชื่อถือมันอยู่ตรงไหนคะ ? แล้วไอ้ระบบเงินฝากค้ำจะมีไว้ทำไมคะ ? ต้องเอาบ้าน เอารถไปค้ำมั้ยคะ ? ไม่มีใครเค้าอยากเป็นหนี้หรอกค่ะ แต่คนที่เค้าไปทำบัตรเครดิตก็ดี สินเชื่อก็ดี เค้ามีความจำเป็นใช้เงินด้วยกันทั้งนั้น ธนาคารกสิกรไทยต้องอบรมและ Educate พนักงานซะว่าอย่าพูดไปเรื่อย อย่าพูดให้เหมือนทุกอย่างดูง่ายไปหมด เพราะมันเป็นการให้ความหวังเค้า แต่พอสุดท้ายไม่เป็นแบบที่พูดที่พร่ำ ใครมารับผิดชอบความรู้สึกลูกค้าได้บ้างคะ ? เพราะบางคนเขามีความจำเป็นที่จะใช้เงินจริงๆ พ่อป่วยแม่ป่วยบ้านจะโดนยึด โน่นนี่นั่น การยอมเป็นหนี้คือแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่พวกเขารออยู่ .... ฝากไว้ให้คิดค่ะ #ธนาคารกสิกรไทย
ประสบการ์ณสมัตรบัตรเครดิตแบบเงินฝากค้ำธนาคารกสิกรไทย
บอกก่อนว่าตั้งใจไปเลยว่าสมัตรบัตร PTT จะไว้เติมน้ำมัน
เราได้สอบถามพนักงานผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งแลดูอาวุโสกว่าทุกท่าน เขาบอกว่าเขาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการสาขา โอเค แบบนี้ค่อยมั่นใจหน่อย เจอระดับผบรห. สาขา อ่ะ มาเริ่มกัน
เรา : ไม่ขอเอกสารแสดงรายได้อะไรเลยหรือ ??
เขา : ไม่ต้องครับ ใช้แต่บัตรประชาชน
เรา : อ่อ ค่ะ แล้วอนุมัติง่ายไหมคะ ?
เขา : อ๋อ ง่ายครับ เพราะไม่เช็คบูโร อนุมัติทุกเคส เพราะมีเงินฝากค้ำ
แต่ๆๆๆๆๆๆ เอกสารที่ให้กรอก ก็เหมือนสมัครบัตรเครดิตทั่วไป และ 1 ในนั้นคือเปิดเผยข้อมูลเครดิตแห่งชาติ อ้าว ?? ไหนบอกไม่เช็คบูโร อ่ะ ไม่เป็นไร ไหนๆก็มาแระ ในใจคิดว่าคงเป็นกฏของแบงค์ชาติ ไม่เป็นไร ไม่เหลือบ่ากว่าแรงอะไร เราก็กรอกไปจนจบขั้นตอน
อ่ะ อ่ะ อ่านด้านบนดีๆนะคะ ระดับผู้ช่วยผู้จัดการสาขาบอกว่า " อนุมัติทุกเคส เพราะมีเงินฝากค้ำ" เป็นใครๆใครก็เชื่อ ถูกมั้ยคะ ?
แต่ๆๆๆๆๆๆๆ วันนี้ค่ะ ส่ง SMS มาแจ้งตอน 19.19 นาที (แหม ... เวลามงคลฤกษ์ซะด้วย )
อ่านแล้วเสียความรู้สึกมาก ไอ้เรื่องเสียความรู้สึกว่าไม่อนุมัติอันนั้นก็แย่พอแล้ว แต่ที่เสียความรู้สึกแย่กว่าคือ นี่หรือคือสิ่งคนระดับผู้ช่วยผู้จัดการสาขาพูด เป็นงัยคะ ? มันไม่ใช่แบบที่พนักงานคุณพูดเลย เหมือนพูดไปเรื่อยเปื่อย พูดไปเรื่อย ความน่าเชื่อถือมันอยู่ตรงไหนคะ ? แล้วไอ้ระบบเงินฝากค้ำจะมีไว้ทำไมคะ ? ต้องเอาบ้าน เอารถไปค้ำมั้ยคะ ? ไม่มีใครเค้าอยากเป็นหนี้หรอกค่ะ แต่คนที่เค้าไปทำบัตรเครดิตก็ดี สินเชื่อก็ดี เค้ามีความจำเป็นใช้เงินด้วยกันทั้งนั้น ธนาคารกสิกรไทยต้องอบรมและ Educate พนักงานซะว่าอย่าพูดไปเรื่อย อย่าพูดให้เหมือนทุกอย่างดูง่ายไปหมด เพราะมันเป็นการให้ความหวังเค้า แต่พอสุดท้ายไม่เป็นแบบที่พูดที่พร่ำ ใครมารับผิดชอบความรู้สึกลูกค้าได้บ้างคะ ? เพราะบางคนเขามีความจำเป็นที่จะใช้เงินจริงๆ พ่อป่วยแม่ป่วยบ้านจะโดนยึด โน่นนี่นั่น การยอมเป็นหนี้คือแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่พวกเขารออยู่ .... ฝากไว้ให้คิดค่ะ #ธนาคารกสิกรไทย