ต้องบอกก่อนว่าบ้านเรา เป็นบ้านทาวนเฮ้า มีปัญหาเรื่องการจอดรถมาก เพราะที่ตามหน้าบ้านข้างบ้านเขาไม่ให้เราจอด ทำให้พ่อเราต้องไปจอดรถที่ว่างระหว่างเฟสในหมู่บ้าน ซึ่งค่อนข้างห่างกับบ้านเรา แต่ก็สามารถเดินไปได้ แล้วพอพ่อกลับมาจากทำงาน เราก็ต้องขับมอไซด์ไปรับพ่อเพื่อให้พ่อขับมอไซด์พาเรากลับ มันก็เป็นแบบนี้ไปทุกวันๆ ซึ่งเหมือนเราต้องสแตนบายทั้งเช้าและเย็น เพื่อไปส่งพ่อ บางวันย่าเราจะไปตลาดตอนเช้ามืด เรายังไม่ตื่น พ่อต้องไปก็เดินไปเอารถเอง เรื่องของเรื่องมันมีปัญหาตรงที่ว่า วันนึงเราตื่นมาสาย ตื่นมาอีก6นาทีเรามีเรียนออนไลน แล้วพ่อเราบอกว่าให้ไปส่งเอารถหน่อย เราก็บอกไปว่าไม่ทัน เราพึ่งตื่น ร่างกายยังไม่รีเซตอ่ะ แบบ กว่าจะเดินลงไป ทำอะไรอีกนู้นนี่นั่น เราค่อนข้างซีเรียสกับการเรียน เราก็บอกไปแบบนั้น พ่อก็โมโหเลยพูดว่า “จำไว้ละกัน พ่อแม่ขอแปปเดียวบอกไม่ได้ ถ้าถึงทีบ้าง อย่ามาว่าอะไรละกัน พูดให้คิดนะ ก็จำไว้ “ /พูดแบบเราตื่นเลย
คือมันมีเรื่องก่อนหน้านี้ค่ะ เนื่องจากเราเป็นคนซีเรียสเรื่องเรียน ทำงานมาก แล้วบ้านเราไม่มีปริ้นเตอร์ค่ะ ต้องฝากงานพ่อปริ้นเข้ามา กว่าจะได้ก็ตอนพ่อกลับมาจากทำงานช่วงค่ำ วันนึงพ่อลืมงานเรา ทั้งที่รับปากแล้ว พอเราถาม พ่อบอกลืม แล้วเราวางแผนไว้หมดแล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง เราก็โกรธมาก ไม่พูดด้วย นั่นแหละค่ะ พ่อก็เอามาพูดตอนที่ว่าเราเรื่องรถ
ทุกวันนี้อยู่ที่บ้านมีเรื่องทะเลาะกันบ่อย คือพ่อเราก็พูดจากับแม่ไม่ค่อยดี นิสัยพาลกันทั้งบ้านอะ แม่เราค่อนข้างไม่มีเหตุผล แม่ทะเลาะกับพ่อก็มาพาลเรา ปสดมาก แต่ก่อนเราเป็นคนมีอะไรก็เล่าให้พ่อแม่ฟังนะ แต่พักหลังคือห่างกันสักพักเถอะ คือเราเคยเข้าใจมาตลอดว่าพ่อเราคือคนที่เข้าใจเราที่สุด แต่ความจริงแล้วไม่มีใครเข้าใจเราจริงๆเลย แม้กระทั่งย่าเรา เราเคยเล่าให้เขาฟัง เขาก็ฟังแล้วก็เข้าใจ พอเวลาผ่านไป เขาก็ว่าเราเหมือนกัน เราก็แบบเอ้า นึกว่าเข้าใจซะอีก เหมือนโดนแทงข้างหลัง5555555
นี่ก็คิดแค่ว่า ถ้าติดมหาลัยอยากอยู่หอ อยากอยู่คนเดียว แยกกันอยู่เราอาจรู้สึกดีกว่า จะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองทำบาปมาก ไม่ได้เถียง อยู่ไปเราก็บั่นทอน พอเราบอกพ่อแม่ไป เรื่องหอ แม่ก็บอกว่า ดีเนอะ เด็กคนอื่นไม่มีพ่อแม่ อยากอยู่กับพ่อแม่ แบบนี้อะ เราอยากจะปรึกษาพระมาก แบบ คิดแบบนี้ดีมั้ย ควรทำยังไงกับชีวิตดี555
ไม่อยากอยู่กับพ่อแม่ มีเรื่องทะเลาะกันตลอด
คือมันมีเรื่องก่อนหน้านี้ค่ะ เนื่องจากเราเป็นคนซีเรียสเรื่องเรียน ทำงานมาก แล้วบ้านเราไม่มีปริ้นเตอร์ค่ะ ต้องฝากงานพ่อปริ้นเข้ามา กว่าจะได้ก็ตอนพ่อกลับมาจากทำงานช่วงค่ำ วันนึงพ่อลืมงานเรา ทั้งที่รับปากแล้ว พอเราถาม พ่อบอกลืม แล้วเราวางแผนไว้หมดแล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง เราก็โกรธมาก ไม่พูดด้วย นั่นแหละค่ะ พ่อก็เอามาพูดตอนที่ว่าเราเรื่องรถ
ทุกวันนี้อยู่ที่บ้านมีเรื่องทะเลาะกันบ่อย คือพ่อเราก็พูดจากับแม่ไม่ค่อยดี นิสัยพาลกันทั้งบ้านอะ แม่เราค่อนข้างไม่มีเหตุผล แม่ทะเลาะกับพ่อก็มาพาลเรา ปสดมาก แต่ก่อนเราเป็นคนมีอะไรก็เล่าให้พ่อแม่ฟังนะ แต่พักหลังคือห่างกันสักพักเถอะ คือเราเคยเข้าใจมาตลอดว่าพ่อเราคือคนที่เข้าใจเราที่สุด แต่ความจริงแล้วไม่มีใครเข้าใจเราจริงๆเลย แม้กระทั่งย่าเรา เราเคยเล่าให้เขาฟัง เขาก็ฟังแล้วก็เข้าใจ พอเวลาผ่านไป เขาก็ว่าเราเหมือนกัน เราก็แบบเอ้า นึกว่าเข้าใจซะอีก เหมือนโดนแทงข้างหลัง5555555
นี่ก็คิดแค่ว่า ถ้าติดมหาลัยอยากอยู่หอ อยากอยู่คนเดียว แยกกันอยู่เราอาจรู้สึกดีกว่า จะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองทำบาปมาก ไม่ได้เถียง อยู่ไปเราก็บั่นทอน พอเราบอกพ่อแม่ไป เรื่องหอ แม่ก็บอกว่า ดีเนอะ เด็กคนอื่นไม่มีพ่อแม่ อยากอยู่กับพ่อแม่ แบบนี้อะ เราอยากจะปรึกษาพระมาก แบบ คิดแบบนี้ดีมั้ย ควรทำยังไงกับชีวิตดี555