สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
คนกำลังโกรธจัด อาฆาตจัด พูดให้ใจเบาลง คงทำได้ยาก
(เราเขียนไว้ เผื่อให้คุณได้มาอ่าน ตอนที่ใจเย็นกว่านี้ ซึ่งอาจจะมีประโยชน์กับคุณบ้างในภายหน้า)
“ เราถึงขั้นคิดว่าถ้าเราทำของใส่พวกเขาแล้วมันกลับเข้าตัวเราก็ยอม ”
นี่คือ ขีดสุดของความเกลียดชัง ที่จะเกิดขึ้นได้ในใจมนุษย์
คือ ยอม วอดวายไปตามกัน ขอเพียงได้มีโอกาสเอาคืน จองล้างจองผลาญกัน
คนเรา จะมารัก มาเกลียด มาจองเวรกันนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยค่ะ
ในข่าวคราว มีให้เห็นออกบ่อย คนที่โดนหนักหนาสาหัส แบบที่กรรมบีบให้แค้นชนิดที่อยากจะจองเวรทุกชาติไป
เพราะรู้สึกถึงความอยุติธรรมที่ตนโดน รู้สึกถึงความไม่สาแก่ใจ หากอีกฝ่ายจะทุกข์แบบตน แค่ชาติเดียว
รักแล้วฆ่าทั้งครอบครัว
รักแล้วหลอกจนหมดเนื้อหมดตัว
รักแล้วพาไปขายต่อในซ่องโสเภณี
รักแล้วสาดน้ำกรด หมดอนาคต กลายเป็นคนพิกลพิการไป
...
ฯลฯ
อ่านแล้วสงสารเหยื่อค่ะ เพราะพวกเรา รับรู้แต่สภาพปัจจุบันเท่านั้น ว่า มีคนหนึ่ง ทำร้ายอีกคนหนึ่ง
แต่ถ้าคิดในทางกลับกัน ...
เมื่อเกิดใหม่ ... ผู้เสียหายในชาตินี้ กลายเป็นผู้ก่อเหตุเองบ้าง (ตามแรงอาฆาต ขอเอาคืนร้อยเท่าพันเท่า)
กรรมเก่าส่งมา ให้ต้านทานแรงดึงดูดกันและกันไม่ไหว
มารักกัน หลงกัน หัวปักหัวปำ ...
จากนั้น หึงโหด วนลูปเดิม รักต้องฆ่า ต้องทำลายล้าง !!!
สังสารวัฏ ยาวไกล ...
ที่พระท่านสอนว่า เวรระงับด้วยการไม่จองเวร เป็นหนทางเดียว
ที่จะตัดวงจรอุบาทว์ ห่างไกลคนพาลสันดานคดได้ วิธีเดียวเท่านั้น
คือ อโหสิกรรม ค่ะ
ยิ่งชิงชัง ขยะแขยง ยิ่งต้องให้อภัย ยิ่งต้องไม่ตอบโต้
เพราะเมื่อตอบโต้เมื่อใด เท่ากับเราลงไปอยู่ในระดับเดียวกับเขาทันที
ไม่ใช่กลัวเขาค่ะ ไม่ใช่ไม่มีพลังที่จะตอบโต้
แต่กลัวที่สุดคือกรรม กลัวว่า ผลของการกระทำของเรา จะทำให้ต้องเจอคนพรรค์นี้อีก
การได้ล้างแค้น จะสะใจเพียงประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น
(หากเคยเป็นคนที่ฝึกจิตมาอย่างดี จะทรมานมาก ยามล้างแค้นสำเร็จ จะรู้สึกผิด และไม่มีความสุข ตกนรกทางใจทันทีเลย)
วิธีที่เราใช้ยามความเกลียดเข้าครอบงำใจ
เราจะให้อภัย เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาค่ะ
เวลาโกรธมากๆ ลำพังใจเราก็เอาไม่อยู่ ต้องอาศัยพุทธคุณท่านช่วย
การปฏิบัติบูชา มีค่ากว่าอามิสบูชา
ยิ่งอภัยได้ยาก แต่ยังอภัยให้ได้ เพื่อถวายบุญบูชาท่าน
ยิ่งได้บุญใหญ่กลับคืนมา
เห็นไหมคะ พลิกจิตนิดเดียว พลิกความคิดนิดเดียว กลับเปลี่ยนชะตากรรมภายหน้าได้อย่างมหาศาล
คนที่คุณเกลียด ในที่สุดเขาก็ต้องตาย ก่อนตายก็ต้องพบทุกข์มากมาย (ตามธรรมดาของสัตว์โลก) อยู่แล้ว
ต่อให้ไม่ต้องไปทำร้ายเขา เขาก็ไม่รอดพ้นกรรมตัวเองไปได้
แต่คุณมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบจิตใจและผลการกระทำของตัวเอง
อย่าให้เสียชาติเกิด หรือเสียเวลาไปเปล่า หรือกระทั่งถอยหลังเข้าคลอง มาสว่างแต่ต้องไปมืด
เพียงเพราะอยากจะแก้แค้นคนเลวๆเลยค่ะ
ไม่คุ้มหรอก
(เราเขียนไว้ เผื่อให้คุณได้มาอ่าน ตอนที่ใจเย็นกว่านี้ ซึ่งอาจจะมีประโยชน์กับคุณบ้างในภายหน้า)
“ เราถึงขั้นคิดว่าถ้าเราทำของใส่พวกเขาแล้วมันกลับเข้าตัวเราก็ยอม ”
นี่คือ ขีดสุดของความเกลียดชัง ที่จะเกิดขึ้นได้ในใจมนุษย์
คือ ยอม วอดวายไปตามกัน ขอเพียงได้มีโอกาสเอาคืน จองล้างจองผลาญกัน
คนเรา จะมารัก มาเกลียด มาจองเวรกันนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยค่ะ
ในข่าวคราว มีให้เห็นออกบ่อย คนที่โดนหนักหนาสาหัส แบบที่กรรมบีบให้แค้นชนิดที่อยากจะจองเวรทุกชาติไป
เพราะรู้สึกถึงความอยุติธรรมที่ตนโดน รู้สึกถึงความไม่สาแก่ใจ หากอีกฝ่ายจะทุกข์แบบตน แค่ชาติเดียว
รักแล้วฆ่าทั้งครอบครัว
รักแล้วหลอกจนหมดเนื้อหมดตัว
รักแล้วพาไปขายต่อในซ่องโสเภณี
รักแล้วสาดน้ำกรด หมดอนาคต กลายเป็นคนพิกลพิการไป
...
ฯลฯ
อ่านแล้วสงสารเหยื่อค่ะ เพราะพวกเรา รับรู้แต่สภาพปัจจุบันเท่านั้น ว่า มีคนหนึ่ง ทำร้ายอีกคนหนึ่ง
แต่ถ้าคิดในทางกลับกัน ...
เมื่อเกิดใหม่ ... ผู้เสียหายในชาตินี้ กลายเป็นผู้ก่อเหตุเองบ้าง (ตามแรงอาฆาต ขอเอาคืนร้อยเท่าพันเท่า)
กรรมเก่าส่งมา ให้ต้านทานแรงดึงดูดกันและกันไม่ไหว
มารักกัน หลงกัน หัวปักหัวปำ ...
จากนั้น หึงโหด วนลูปเดิม รักต้องฆ่า ต้องทำลายล้าง !!!
สังสารวัฏ ยาวไกล ...
ที่พระท่านสอนว่า เวรระงับด้วยการไม่จองเวร เป็นหนทางเดียว
ที่จะตัดวงจรอุบาทว์ ห่างไกลคนพาลสันดานคดได้ วิธีเดียวเท่านั้น
คือ อโหสิกรรม ค่ะ
ยิ่งชิงชัง ขยะแขยง ยิ่งต้องให้อภัย ยิ่งต้องไม่ตอบโต้
เพราะเมื่อตอบโต้เมื่อใด เท่ากับเราลงไปอยู่ในระดับเดียวกับเขาทันที
ไม่ใช่กลัวเขาค่ะ ไม่ใช่ไม่มีพลังที่จะตอบโต้
แต่กลัวที่สุดคือกรรม กลัวว่า ผลของการกระทำของเรา จะทำให้ต้องเจอคนพรรค์นี้อีก
การได้ล้างแค้น จะสะใจเพียงประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น
(หากเคยเป็นคนที่ฝึกจิตมาอย่างดี จะทรมานมาก ยามล้างแค้นสำเร็จ จะรู้สึกผิด และไม่มีความสุข ตกนรกทางใจทันทีเลย)
วิธีที่เราใช้ยามความเกลียดเข้าครอบงำใจ
เราจะให้อภัย เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาค่ะ
เวลาโกรธมากๆ ลำพังใจเราก็เอาไม่อยู่ ต้องอาศัยพุทธคุณท่านช่วย
การปฏิบัติบูชา มีค่ากว่าอามิสบูชา
ยิ่งอภัยได้ยาก แต่ยังอภัยให้ได้ เพื่อถวายบุญบูชาท่าน
ยิ่งได้บุญใหญ่กลับคืนมา
เห็นไหมคะ พลิกจิตนิดเดียว พลิกความคิดนิดเดียว กลับเปลี่ยนชะตากรรมภายหน้าได้อย่างมหาศาล
คนที่คุณเกลียด ในที่สุดเขาก็ต้องตาย ก่อนตายก็ต้องพบทุกข์มากมาย (ตามธรรมดาของสัตว์โลก) อยู่แล้ว
ต่อให้ไม่ต้องไปทำร้ายเขา เขาก็ไม่รอดพ้นกรรมตัวเองไปได้
แต่คุณมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบจิตใจและผลการกระทำของตัวเอง
อย่าให้เสียชาติเกิด หรือเสียเวลาไปเปล่า หรือกระทั่งถอยหลังเข้าคลอง มาสว่างแต่ต้องไปมืด
เพียงเพราะอยากจะแก้แค้นคนเลวๆเลยค่ะ
ไม่คุ้มหรอก
แสดงความคิดเห็น
แนะนำวิธีไรก็ได้คะให้เราเลิกแค้นอดีตแฟนกับแฟนเก่าของเขาที