แม้ว่าจะมีนกหลายชนิดที่บินไม่ได้บนโลก แต่เชื่อกันว่านกพิราบ Parlour Roller เป็นเพียงนกเดียวที่ได้รับการเพาะพันธุ์โดยมนุษย์ จนกระทั่งสูญเสียความสามารถในการบินขึ้นไปบนท้องฟ้า และพัฒนาวิธีการเดินทางที่แปลกใหม่และแปลกประหลาดโดยสิ้นเชิง โดยตีลังกากลับหลัง
หากคุณเห็นนกพิราบ parlor roller กลิ้งบนพื้น อาจจะคิดว่ามันมีอาการชัก แต่ในความเป็นจริง นกกำลังกลิ้งอยู่บนพื้นเพราะมันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าสายพันธุ์นี้ถูกสร้างขึ้นอย่างไรหรือเมื่อใด แต่ผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่ชื่นชอบคาดเดาว่าต้นกำเนิดสามารถสืบย้อนไปถึงสกอตแลนด์ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 เมื่อมีคนอาจพบตัวอย่างที่มีแนวโน้มเล็กน้อยที่จะกลิ้งไปบนพื้นและตัดสินใจว่ามันคุ้มค่า โดยเน้นการคัดเลือกพันธุ์ เชื่อกันว่าในช่วงหลายปีของการผสมพันธุ์แบบเลือกสรร นกพิราบที่กลิ้งไปมาในระยะทางไกลอาจได้รับยีนมา
parlor roller เป็นนกพิราบที่ดูธรรมดาซึ่งมีน้ำหนักระหว่าง 7 - 10 ออนซ์และมีหลายสี ตั้งแต่สีขาวบริสุทธิ์ไปจนถึงขนสีรุ้งแบบดั้งเดิมของนกพิราบทั่วไป สิ่งที่ทำให้นกพิราบนี้แตกต่างจากนกพิราบสายพันธุ์อื่นคือ ไม่สามารถบินได้ และมีแนวโน้มที่จะตีลังกากลับหลังบนพื้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งที่น่าสนใจส่งเสริมมัน
Parlor Roller คือนกเพียงชนิดเดียวที่ถูกเพาะพันธุ์โดยมนุษย์เพื่อให้มันสูญเสียความสามารถในการบินขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่นั่นไม่ใช่ความแปลกประหลาดที่สุดของมัน เพราะนกพิราบชนิดนี้ใช้วิธีเคลื่อนที่ด้วยวิธี “ตีลังกากลับหลัง” เท่านั้น
parlor rollers นั้นมีร่างกายพร้อมสำหรับการบินและมีน้ำหนักไม่มากกว่านกพิราบสายพันธุ์อื่นๆ ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่สมเหตุสมผลว่าทำไมพวกมันจึงบินไม่ได้ แม้ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของสิ่งนี้ แต่บางคนเชื่อว่าพวกมันอาจมี " ข้อบกพร่องบางอย่างในศูนย์สมดุลของสมอง " ที่ทำให้พวกมันกลิ้งไปบนพื้นแทนที่จะบิน
การตีลังกากลับหลัง เป็นสิ่งที่นกพิราบเหล่านี้เก่งและเติบโตมา โดยจะกลิ้งไปบนพื้นเหมือนลูกโบว์ลิ่งตอนเริ่มต้น จากนั้นนกจะกลิ้งต่อไปได้ไกลถึงสองสามร้อยฟุต บันทึกปัจจุบันสำหรับการม้วนตัวที่ยาวที่สุดในปัจจุบันอยู่ที่ 662 ฟุต 3 นิ้ว (201.85 เมตร) แม้ว่าการแข่งขันทั่วไปจะเห็นว่านกที่ชนะจะกลิ้งไปมาในระยะประมาณ 50-80 ฟุต (~ 15 ถึง 25 เมตร) เท่านั้น
แม้จะเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่คนรักสัตว์ แต่หลายคนมองว่าการเพาะพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่โหดร้ายเพื่อส่งเสริมสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นความทุพพลภาพ แต่นกพิราบเหล่านี้ก็เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักเล่นนก และด้วยความสามารถของมันจึงทำให้นักเล่นนกพิราบชนิดนี้จัดให้มันอยู่ในประเภท Flying / Sporting หรือเป็นนกพิราบที่ถูกนำมาแข่งขันบินเป็นกีฬา โดยใช้วิธีการกลิ้งแทนการบิน ผู้ที่เล่นนกพิราบชนิดนี้จะสนใจเพียงแค่ความสามารถในการกลิ้งของพวกมันเท่านั้น ส่วนเรื่องรูปลักษณ์สวยงามถือเป็นเรื่องรอง
เมื่อเห็นนกพิราบกลิ้งไปบนพื้นคุณอาจคิดว่ามันมีอาการผิดปกติบางอย่าง แต่ในความเป็นจริงแล้วนั่นคือธรรมชาติของนกชนิดนี้ที่ถูกมนุษย์สร้างขึ้นมา
ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่านกพิราบสายพันธุ์นี้ถูกสร้างขึ้นมาทำไมหรือเมื่อไหร่ แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าต้นกำเนิดของมันมีมานานกว่า 200 ปีแล้ว
Parlour Roller เป็นสายพันธ์ที่สุดยอดกว่านกพิราบที่มีพรสวรรค์ทางกายกรรมอีกสายพันธุ์หนึ่งคือ Parlour Tumbler ความแตกต่างที่โดดเด่นที่สุดระหว่างทั้งสองคือ Parlour Tumbler สามารถทั้งบินและกลิ้งไปในอากาศได้ ในขณะที่ Parlour Roller ไม่สามารถบินได้เลยเมื่ออายุเกินสามเดือน แม้ก่อนหน้านั้นพวกมันจะบินได้ระดับหนึ่งชั่วครู่
นกพิราบ Parlour นั้นรู้จักกันในหลายชื่อได้แก่ Parlor Tumbler, Parlor Roller, Ground Tumbler Pigeon, Bodenpurzler, Culbutant au Sol ซึ่งพบรายงานว่ามีต้นกำเนิดมาจากสกอตแลนด์ในฐานะสายพันธุ์ดั้งเดิม แต่มาแพร่หลายในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษพร้อมกันตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1850 ในพันธุ์ที่พัฒนาแล้ว โดยถูกนำจากอินเดียไปยังบริเตนใหญ่ และจากสกอตแลนด์ไปยังสหรัฐอเมริกา (นกพิราบอินเดีย Parlor Tumbler จะเรียกว่า " Lotan "
ได้มาจากการผสมกับ Parlour Roller สายพันธุ์อื่น)
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
" Parlour Roller " นกพิราบพันธุ์พิเศษที่ตีลังกากลับหลังแทนที่จะบิน
หากคุณเห็นนกพิราบ parlor roller กลิ้งบนพื้น อาจจะคิดว่ามันมีอาการชัก แต่ในความเป็นจริง นกกำลังกลิ้งอยู่บนพื้นเพราะมันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าสายพันธุ์นี้ถูกสร้างขึ้นอย่างไรหรือเมื่อใด แต่ผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่ชื่นชอบคาดเดาว่าต้นกำเนิดสามารถสืบย้อนไปถึงสกอตแลนด์ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 เมื่อมีคนอาจพบตัวอย่างที่มีแนวโน้มเล็กน้อยที่จะกลิ้งไปบนพื้นและตัดสินใจว่ามันคุ้มค่า โดยเน้นการคัดเลือกพันธุ์ เชื่อกันว่าในช่วงหลายปีของการผสมพันธุ์แบบเลือกสรร นกพิราบที่กลิ้งไปมาในระยะทางไกลอาจได้รับยีนมา
parlor roller เป็นนกพิราบที่ดูธรรมดาซึ่งมีน้ำหนักระหว่าง 7 - 10 ออนซ์และมีหลายสี ตั้งแต่สีขาวบริสุทธิ์ไปจนถึงขนสีรุ้งแบบดั้งเดิมของนกพิราบทั่วไป สิ่งที่ทำให้นกพิราบนี้แตกต่างจากนกพิราบสายพันธุ์อื่นคือ ไม่สามารถบินได้ และมีแนวโน้มที่จะตีลังกากลับหลังบนพื้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งที่น่าสนใจส่งเสริมมัน
การตีลังกากลับหลัง เป็นสิ่งที่นกพิราบเหล่านี้เก่งและเติบโตมา โดยจะกลิ้งไปบนพื้นเหมือนลูกโบว์ลิ่งตอนเริ่มต้น จากนั้นนกจะกลิ้งต่อไปได้ไกลถึงสองสามร้อยฟุต บันทึกปัจจุบันสำหรับการม้วนตัวที่ยาวที่สุดในปัจจุบันอยู่ที่ 662 ฟุต 3 นิ้ว (201.85 เมตร) แม้ว่าการแข่งขันทั่วไปจะเห็นว่านกที่ชนะจะกลิ้งไปมาในระยะประมาณ 50-80 ฟุต (~ 15 ถึง 25 เมตร) เท่านั้น
แม้จะเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่คนรักสัตว์ แต่หลายคนมองว่าการเพาะพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่โหดร้ายเพื่อส่งเสริมสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นความทุพพลภาพ แต่นกพิราบเหล่านี้ก็เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักเล่นนก และด้วยความสามารถของมันจึงทำให้นักเล่นนกพิราบชนิดนี้จัดให้มันอยู่ในประเภท Flying / Sporting หรือเป็นนกพิราบที่ถูกนำมาแข่งขันบินเป็นกีฬา โดยใช้วิธีการกลิ้งแทนการบิน ผู้ที่เล่นนกพิราบชนิดนี้จะสนใจเพียงแค่ความสามารถในการกลิ้งของพวกมันเท่านั้น ส่วนเรื่องรูปลักษณ์สวยงามถือเป็นเรื่องรอง
นกพิราบ Parlour นั้นรู้จักกันในหลายชื่อได้แก่ Parlor Tumbler, Parlor Roller, Ground Tumbler Pigeon, Bodenpurzler, Culbutant au Sol ซึ่งพบรายงานว่ามีต้นกำเนิดมาจากสกอตแลนด์ในฐานะสายพันธุ์ดั้งเดิม แต่มาแพร่หลายในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษพร้อมกันตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1850 ในพันธุ์ที่พัฒนาแล้ว โดยถูกนำจากอินเดียไปยังบริเตนใหญ่ และจากสกอตแลนด์ไปยังสหรัฐอเมริกา (นกพิราบอินเดีย Parlor Tumbler จะเรียกว่า " Lotan "
ได้มาจากการผสมกับ Parlour Roller สายพันธุ์อื่น)