ในช่วงทศวรรษ 1980 กระแสปืนพก “เก้าลูกดก” กำลังมาแรง กองทัพสหรัฐปลดระวางปืนพก M1911 ในปี 1985 เปลี่ยนไปใช้ M9 คือเบเร็ตต้า 92 ส่งผลให้มีปืนทหารเก่าจำนวนมาก ขายให้หน่วยงานภาครัฐในราคาถูก ปืน M1911 ที่ใช้วัสดุเหล็กล้วน สามารถซ่อมคืนสภาพใช้งานต่อได้ดี จึงเกิดอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนและแต่งปืนอมตะกระบอกนี้อย่างกว้างขวาง มีการกำหนดสเปกใหม่ เที่ยงตรงกว่าเดิมเพื่อใช้กับเครื่องจักร CNC ช่วยเสริมด้านคุณภาพในราคาที่ไม่สูงเกินไป
ระหว่างของใหม่ ใช้กระสุน หน้าตัดเล็กคือ 9 มม. แต่จุ 15 นัด กับของเก่ากระสุนหน้าตัดใหญ่ .45 คือ 11 มม. ที่จุ 8 นัด เป็นทางเลือกที่ผู้ใช้ปืนต้องตัดสินใจให้เหมาะกับงาน ในขณะเดียวกันก็มีนวัตกรรมสำหรับปืน 1911 โดยเฉพาะ คือ “ช่วงล่างสองแถว” ขยายส่วนโพรงด้ามให้รับซองกระสุนกว้าง จุกระสุน .45 ได้ถึง 13–14 นัด โดยยี่ห้อที่ขายดีที่สุดคือ STI ที่ใช้รางเหล็กประกอบกับด้ามโพลิเมอร์เสริมใยแก้ว ช่วยให้ด้ามไม่หนา และน้ำหนักตัวปืนเท่า ๆ ปืน 1911 เดิม โดย STI จดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าว่า “2011” เสนอขายทั้งเฉพาะโครงปืนและปืนสำเร็จทั้งกระบอก
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ ผลิตโดย ไบรลีย์ (Briley FMG) ในชุด Signature Series ใช้โครงและสไลด์ซื้อจาก STI มาใส่ลำกล้องของตัวเอง พร้อมกับนวัตกรรมที่เน้นความแม่นยำ คือ “บูชลูกกลิ้ง” (Spherical bushing) สิทธิบัตรของไบรลีย์ ขายเป็นปืนสำหรับลงแข่งรณยุทธ์ในรุ่นลิมิเต็ด (Limited class) ใช้กระสุนขนาด .40 S&W อยู่ตรงกลางระหว่าง .45 กับ 9 มม. ที่บริษัทเชื่อว่า “ลงตัว” พอดี คือแรงใกล้เคียงกับ .45 แต่จุกระสุนมากกว่า และรีคอยล์น้อยกว่า แทบไม่ต่างจาก 9 มม. ระดับ +P
หลักการของบูชลูกกลิ้ง คือใช้แหวนที่แต่งผิวในฟิตพอดีกับลำกล้อง, ผิวด้านนอกของแหวนลบมุมเหมือนเป็นส่วนของทรงกลม ใส่เข้าในบูชครอบลำกล้องที่มีร่องรับด้านใน ส่วนด้านนอกบูชแต่งให้ล็อกแน่นกับปลายลำเลื่อน เมื่อประกอบลำกล้องเข้าที่แล้วจะแน่นสนิท โดยยังสามารถกระดกขัดกลอน/ปลดกลอนได้ไม่มีแรงบิด นอกจากทำใช้เองแล้ว ไบรลีย์ยังขายบูชลูกกลิ้งนี้ให้ช่างแต่งปืนระดับสูง เช่น ศูนย์เพิ่มสมรรถนะ PC ของสมิธฯ ก็ใช้บูชนี้กับปืน SW1911 รุ่นแต่งพิเศษ
ไบรลีย์กระบอกนี้ ใช้ด้ามของ SVI สีเขียวหยก ลายเส้นหินอ่อนขาว/ดำ ติดส้นด้ามสเตนเลสส์ของ STI, รางปืนยาวเลื่อนน้ำหนักสมดุลไปด้านหน้า, ลำเลื่อนปาดมุมเป็นทรงหลังคา และปาดเนื้อโลหะสองข้างบริเวณที่ไม่แกะลายกันลื่นเพื่อลดน้ำหนัก ช่วยให้ปืนทำงานรวดเร็วและลดรีคอยล์, หน้าไก STI แบบโค้ง, นกสับห่วงวงรีโปร่ง, คันนิรภัยซ้ายขวา, หลังอ่อนหางยาวของไบรลีย์เอง และจุดเด่นอีกจุดคือการติดตั้งศูนย์หลังแบบ “ฝังจม” เตี้ยที่สุดเท่าที่จะทำได้สำหรับปืนระบบนี้
โดยรวมสำหรับ ไบรลีย์ ซิกเนเจอร์ รุ่นพิเศษนี้ จุดขายคืองานประณีตเรียบร้อย วัสดุและชิ้นส่วนคุณภาพสูง ใช้แข่งขันระบบต่อสู้ได้ดี ความแม่นยำระดับเดียวกับปืนล่าถ้วยรางวัลเป้านิ่ง ในขณะเดียวกันก็เป็นปืนต่อสู้ชั้นฉกรรจ์ กระสุนขนาด .40 จุ 15 +1 นัด อุ่นใจทั้งในด้านความแรงและความจุ สามารถใช้เป็นปืนพกซองนอกได้ โดยเลือกซองให้เหมาะกับความกว้างของครอบส้นด้าม.
https://www.dailynews.co.th/article/774478/
..................................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 802 40 บูชลูกกลิ้ง Briley Signature 2011
ระหว่างของใหม่ ใช้กระสุน หน้าตัดเล็กคือ 9 มม. แต่จุ 15 นัด กับของเก่ากระสุนหน้าตัดใหญ่ .45 คือ 11 มม. ที่จุ 8 นัด เป็นทางเลือกที่ผู้ใช้ปืนต้องตัดสินใจให้เหมาะกับงาน ในขณะเดียวกันก็มีนวัตกรรมสำหรับปืน 1911 โดยเฉพาะ คือ “ช่วงล่างสองแถว” ขยายส่วนโพรงด้ามให้รับซองกระสุนกว้าง จุกระสุน .45 ได้ถึง 13–14 นัด โดยยี่ห้อที่ขายดีที่สุดคือ STI ที่ใช้รางเหล็กประกอบกับด้ามโพลิเมอร์เสริมใยแก้ว ช่วยให้ด้ามไม่หนา และน้ำหนักตัวปืนเท่า ๆ ปืน 1911 เดิม โดย STI จดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าว่า “2011” เสนอขายทั้งเฉพาะโครงปืนและปืนสำเร็จทั้งกระบอก
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ ผลิตโดย ไบรลีย์ (Briley FMG) ในชุด Signature Series ใช้โครงและสไลด์ซื้อจาก STI มาใส่ลำกล้องของตัวเอง พร้อมกับนวัตกรรมที่เน้นความแม่นยำ คือ “บูชลูกกลิ้ง” (Spherical bushing) สิทธิบัตรของไบรลีย์ ขายเป็นปืนสำหรับลงแข่งรณยุทธ์ในรุ่นลิมิเต็ด (Limited class) ใช้กระสุนขนาด .40 S&W อยู่ตรงกลางระหว่าง .45 กับ 9 มม. ที่บริษัทเชื่อว่า “ลงตัว” พอดี คือแรงใกล้เคียงกับ .45 แต่จุกระสุนมากกว่า และรีคอยล์น้อยกว่า แทบไม่ต่างจาก 9 มม. ระดับ +P
หลักการของบูชลูกกลิ้ง คือใช้แหวนที่แต่งผิวในฟิตพอดีกับลำกล้อง, ผิวด้านนอกของแหวนลบมุมเหมือนเป็นส่วนของทรงกลม ใส่เข้าในบูชครอบลำกล้องที่มีร่องรับด้านใน ส่วนด้านนอกบูชแต่งให้ล็อกแน่นกับปลายลำเลื่อน เมื่อประกอบลำกล้องเข้าที่แล้วจะแน่นสนิท โดยยังสามารถกระดกขัดกลอน/ปลดกลอนได้ไม่มีแรงบิด นอกจากทำใช้เองแล้ว ไบรลีย์ยังขายบูชลูกกลิ้งนี้ให้ช่างแต่งปืนระดับสูง เช่น ศูนย์เพิ่มสมรรถนะ PC ของสมิธฯ ก็ใช้บูชนี้กับปืน SW1911 รุ่นแต่งพิเศษ
ไบรลีย์กระบอกนี้ ใช้ด้ามของ SVI สีเขียวหยก ลายเส้นหินอ่อนขาว/ดำ ติดส้นด้ามสเตนเลสส์ของ STI, รางปืนยาวเลื่อนน้ำหนักสมดุลไปด้านหน้า, ลำเลื่อนปาดมุมเป็นทรงหลังคา และปาดเนื้อโลหะสองข้างบริเวณที่ไม่แกะลายกันลื่นเพื่อลดน้ำหนัก ช่วยให้ปืนทำงานรวดเร็วและลดรีคอยล์, หน้าไก STI แบบโค้ง, นกสับห่วงวงรีโปร่ง, คันนิรภัยซ้ายขวา, หลังอ่อนหางยาวของไบรลีย์เอง และจุดเด่นอีกจุดคือการติดตั้งศูนย์หลังแบบ “ฝังจม” เตี้ยที่สุดเท่าที่จะทำได้สำหรับปืนระบบนี้
โดยรวมสำหรับ ไบรลีย์ ซิกเนเจอร์ รุ่นพิเศษนี้ จุดขายคืองานประณีตเรียบร้อย วัสดุและชิ้นส่วนคุณภาพสูง ใช้แข่งขันระบบต่อสู้ได้ดี ความแม่นยำระดับเดียวกับปืนล่าถ้วยรางวัลเป้านิ่ง ในขณะเดียวกันก็เป็นปืนต่อสู้ชั้นฉกรรจ์ กระสุนขนาด .40 จุ 15 +1 นัด อุ่นใจทั้งในด้านความแรงและความจุ สามารถใช้เป็นปืนพกซองนอกได้ โดยเลือกซองให้เหมาะกับความกว้างของครอบส้นด้าม.
https://www.dailynews.co.th/article/774478/
..................................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช