สัญญาอมตะ ตอนที่ 6

กระทู้คำถาม
คราวแรกเซธหวังแค่ให้สายเลือดของท่านผู้นั้นหันเหความสนใจแล้วทะลวงลึกลงใต้ดินด้วยวิหคแห่งพิณแต่ดาบทำได้ดีเกินคาด หรือไม่ก็เพราะธาตุดินของที่นี่แรงกล้าจนการควบคุมดินมากได้ผลมากขึ้นหลายเท่า ชั้นหินหนาถูกเจาะเป็นรูได้อย่างอัศจรรย์! ผู้เป็นอมตะกับนางมังกรครึ่งมนุษย์ใช้ความเร็วเกาะหินใหญ่ก้อนหนึ่งเอาไว้ระหว่างการร่วงหล่น ส่วนสายเลือดของท่านผู้นั้นค่อย ๆ ร่อนลงข้างล่างอย่างสง่างาม!
 
            ไม่กี่วินาทีทั้งหมดก็ลงไปอยู่ในแหล่งซ่องสุมของผู้ก่อการร้าย ฝุ่นคลีตลบอบอวลรอบพื้นที่แคบ ๆ จนมองไม่เห็นรายละเอียดใด ๆ ผู้คนข้างล่างต่างไปกองรวมกันมุมห้องเพื่อหลบก้อนหินจากด้านบน
 
            “น่าจะใช้เหล็กกล้าบุผนังให้ครบทุกด้านนะ!” เสียงบ่นอย่างรำคาญบอกให้เซธรู้ว่ามีเวลาไม่มากเพื่อค้นหาผลึกวิเศษ มีเพียงคนโง่ที่หันดาบสู้ในเวลานี้ “ก้าวออกมาแล้วคุยกันก่อน คุณมาที่นี่เพื่ออะไร และใครเป็นคนสั่งการคุณกันแน่!”
 
            มีคนเคยพูดว่าโทสะเป็นเครื่องยืนยันว่าผู้นั้นทำอะไรได้บ้าง ความกราดเกรี้ยวจากสายเลือดของท่านผู้นั้นแสดงให้เห็นทันที กลิ่นดอกไม้ป่าอ่อน ๆ กระจายออกมาดั่งไฟแห่งโทสะ ก้อนหินน้อยใหญ่ที่ทำลายข้าวของเบื้องล่างถูกขยี้จนแหลกเป็นผุยผงแล้วส่งขึ้นไปด้านบนเหมือนถูกพายุใหญ่พัดกระหน่ำ! 
 
            เซธรีบลากลักซูเรียหนีออกประตูข้าง ๆ ซึ่งใกล้เคียงกับทางที่แมลงบนข้อมือชี้ไป อีกฝ่ายอันตรายกว่ามังกรโบราณหลายสิบเท่าแถมเป็นพวกไม่ยอมฟังคนอื่นพูดเสียด้วย ในห้องนั้นยังมีพรรคพวกอยู่อีกหลายคนประจำการพร้อมรุมจับพวกเขาได้ทุกเมื่อ ทางเดินถูกบุผนังด้วยโลหะแกร่งทำให้เสียเวลาหาทางเดินที่ถูกต้องตามการชี้นำ
 
            “เดี๋ยวจัดการสองคนนั้นเองรบกวนส่งสัญญาณปิดทางออกให้ด้วย พวกคุณช่วยบอกให้ทุกคนซ่อนตัวและตรวจดูว่ามีอะไรเสียหายบ้างก็แล้วกัน” 
 
            ผู้เป็นอมตะยอมรับว่าสัตว์คลั่งนั้นอันตราย แต่จะอันตรายกว่าหากสัตว์นั้นระงับอารมณ์เปลี่ยนมาใช้สมองแทน นั่นหมายถึงการเอาชนะตนเองจนสามารถข้ามพ้นความยากลำบากตรงหน้าอย่างมีสติไม่ว่าอุปสรรคจะหนักหนาเพียงใด การสั่งการดังกล่าวทำให้เซธร้อนรนขึ้นเป็นเท่าตัวเพราะการควบคุมโทสะเพื่อเป้าหมายนั่นเหมือนท่านผู้นั้นไม่มีผิด เขาสาปส่งเรื่องบัดซบตรงหน้าที่ลูกหลานเหมือนบรรพบุรุษอย่างกับแกะ! 
 
            เซธสบถคำหยาบอีกครั้งเมื่อสังเกตว่าเส้นทางที่เหล่าแมลงชี้ไปมันเอียงลงข้างล่างเล็กน้อย นั่นหมายถึงการถอยห่างทางหนีเสี่ยงถูกจับตัว ลักซูเรียเรียกสติเขาอีกครั้งว่าวิญญาณป่าที่มาด้วยสามารถพาหนีได้ด้วยมนตร์เคลื่อนย้าย พวกเขาจึงรีบหาบันไดลงชั้นล่างก่อนฝีเท้าของผู้ล่าจะตามมาทัน
 
            ชั้นล่างลงไปมีสองฝั่ง ด้านหนึ่งเป็นเหมือนห้องคุมตัวนักโทษซึ่งพวกเขาช่วยกันจัดการยามในทันที อีกด้านปิดป้ายว่าห้องทดลองซึ่งเหล่าแมลงชี้ตรงไปทางนั้น เสียงต่อสู้ทำให้ผู้ถูกคุมขังในห้องร้องขอความช่วยเหลือพวกเขาจึงแยกกันไปสองด้าน เซธตามหาผลึกในห้องทดลอง ส่วนลักซูเรียไปช่วยคนในอีกห้องหนึ่ง 
 
            ในห้องทดลองสีขาวสว่างด้วยแสงจากผลึกเวทมนตร์หาเป้าหมายได้ไม่ยาก เส้นกลุ่มแมลงชี้ไปมุมห้องหนึ่ง เซธรีบก้าวไปดูจึงพบว่าผลึกแก้วสองอันวางอยู่บนแท่นที่เชื่อมต่อเข้ากับเครื่องมือบางอย่าง ผู้เป็นอมตะเบ้หน้าเพราะถูกไฟฟ้าดูดขณะดึงพวกมันออกจากที่วาง เขารีบไปรวมตัวกับลักซูเรียข้างนอกแต่มันสายไปแล้ว 
 
            นางมังกรครึ่งมนุษย์ในสภาพมือเปลี่ยนเป็นกรงเล็บทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดท่า หากนางยังพยายามกันคนข้างหลังจากสายเลือดของท่านผู้นั้นที่ยืนตระหง่านด้วยความสนุกเหลือล้น!
 
            “เหมือนคำบอกเล่าเกี่ยวกับมังกรครึ่งมนุษย์ไม่มีผิด คุณเป็นใครกันแน่เบลล่า” 
 
            เซธจำต้องวางผลึกแก้วเตรียมตัวสู้ทั้งที่มองไม่เห็นทางชนะ ก่อนพิณเทพจะปรากฏสถานการณ์พลันพลิกกลับ กำแพงเหล็กข้างลักซูเรียงอกเส้นใยนับร้อยพันออกมาลากตัวผู้หลงระเริงในชัยชนะไปติดตรึงอยู่บนผนังเสียงดังครืน! ไม่เพียงแค่นั้น เหล็กบนกำแพงยังขยายตัวรัดพันร่างนั้นเหมือนรังไหมขนาดใหญ่ที่ส่งเสียงอึกทึก ผู้เป็นอมตะจำกลิ่นของเวทมนตร์ได้อย่างแม่นยำ มันคือเวทมนตร์ของท่านผู้นั้น!
 
            “หนีสิ!” เสียงคำรามของท่านผู้นั้นดังก้องทางเดินแคบ ๆ เซธรีบคว้าผลึกแก้วแล้วกระโจนไปหาลักซูเรีย เขาสาบานได้ว่าเห็นรังไหมเหล็กเริ่มปริแตกก่อนมนตร์เคลื่อนย้ายของซาเรียทำงานเพียงนิดเดียว...
 
 
            ผู้เป็นอมตะกับนางมังกรครึ่งมนุษย์รอดกลับมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด นักโทษหนุ่มได้รับการช่วยเหลือจากพนักงานของรัฐสภาทันที เซธส่งมอบผลึกแก้วให้กับท่านผู้นั้นที่ทำเป็นนั่งรอในห้องรับแขกชั้นล่างสุด ลักซูเรียบ่นอุบระหว่างรอท่านผู้นั้นสั่งการให้ทำลายผลึกทั้งสองอัน
 
            “เราน่าจะร่วมกันสู้หมอนั่นตั้งแต่อยู่บนดินแล้ว แค้นนักที่เปลี่ยนร่างเป็นมังกรไม่ได้ไม่อย่างนั้นคงเห็นดีกันแล้ว ตรงนั้นแคบเกินไป!” ลักซูเรียระเบิดอารมณ์ออกมาจากเก้าอี้มุมห้องที่ไกลจากเก้าอี้นั่งของท่านผู้นั้นที่สุด
 
            “แบบนี้ดีแล้วลักซูเรีย ข้าดูอยู่ตลอด เจ้านั่นต้องการสร้างกองทัพผู้ใช้เวทมนตร์จริง ๆ หากพวกเจ้าแสดงให้เห็นว่ามีพลังมากกว่านี้อาจถูกรวบตัวไปใช้งานก่อนภารกิจลุล่วง” ท่านผู้นั้นนั่งเก้าอี้ด้วยท่าทีผ่อนคลายกว่าที่ควรเป็น พอได้ยินเซธพูดเกี่ยวกับการพังพันธนาการของสายเลือดตัวเองก็ตอบอย่างเรียบเฉย “ถ้าเอาจริงหมอนั่นก็ตายสิ แล้วก็เป็นฝีมือซาเรียต่างหาก...ข้าติดหนี้เสาค้ำจุนแต่ไม่อยากให้พวกเจ้าโดนจับตัวจึงต้องทำแบบนี้ ดังนั้นช่วยรู้บุญคุณกันหน่อย”
 
            ท่านผู้นั้นแผ่รังสีบางอย่างทำให้เซธเปลี่ยนไปพูดเรื่องลักซูเรีย นางมังกรครึ่งมนุษย์เล่าคร่าว ๆ ว่าตนทำอะไรบ้างตอนอยู่กับเสาค้ำจุน
 
            “ฉันถูกตรวจร่างกายตามมาตรฐานการแพทย์สมัยใหม่ทุกอย่าง ตั้งแต่ชั่งน้ำหนักส่วนสูง เจาะเลือด เอ็กซ์เรย์ดูโครงสร้างร่างกาย เข้าเครื่องตรวจภายในโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า พอจะตรวจสอบเรื่องเวทมนตร์พวกเขาก็อยากให้มาตรวจสอบกับคุณนักรบเทพที่แสนน่ากลัวตรงนั้น พวกเขาบอกว่าสิ่งน่ากลัวราวอสุรกายนั่นเชี่ยวชาญเรื่องเวทมนตร์ธาตุที่สุด ไม่อย่างนั้นก็ต้องให้เสาค้ำจุนซึ่งยุ่งมากเป็นคนทำ”
 
            เซธอยากเชื่อว่าท่านผู้นั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังไปคุยกับเสาค้ำจุน ราวท่านผู้นั้นจดจ่อกับภารกิจหลักของเขาจนไม่ได้ผ่อนคลายเลยสักนาที พอมีเวลาหยุดพักจึงโผล่หางคล้ายภาพในอดีตหลุดออกมาบ้าง นั่นรวมถึงการพ่นมุกหยาบคายหน้าตาเฉยด้วย
 
            “ช่วงนี้โชคดีจริง ๆ มีเรื่องให้กลับไปเจอพรรคพวกที่ย้ายไปมิติอื่น แล้วตอนนี้ยังมีเหยื่อส่งให้ถึงมือ” ท่านผู้นั้นหัวเราะอย่างชั่วร้ายราวกับอยากละจากคราบผู้เข้มงวดลงบ้าง
 
            “ท่านนักรบเทพที่เป็นมังกรครึ่งมนุษย์บอกฉันด้วย หากคุณตั้งใจรังแกฉันด้วยเรื่องใด ๆ เขาจะเอาเรื่องของคุณไปโพทะนา” 
 
            เหมือนคำพูดของลักซูเรียได้ผลเพราะท่านผู้นั้นนั่งเงียบอย่างครุ่นคิด ก่อนจะทักขึ้นจนเซธรู้ว่าทางนี้ก็ไม่มีความเกรงกลัวอีกฝ่ายเลย
 
            “มังกรครึ่งมนุษย์หรือ หมอนั่นบอกหรือเปล่าว่าเรื่องอะไร” ท่านผู้นั้นเคาะที่เท้าแขนด้วยความสุขที่ได้รำลึกความหลัง “ข้ากับเจ้านั่นเป็นเพื่อนสนิทกันมานานมาก ข้าคือคนที่สองส่วนหมอนั่นคือคนที่ห้า ตอนยังไม่สำเหนียกเรื่องหน้าที่พวกเราต่างคึกคะนองจนก่อเรื่องผิดพลาดชนิดเล่าให้ใครฟังไม่ได้กองสูงเท่าภูเขา พวกเสาค้ำจุนรู้เรื่องเลวทรามต่ำช้าพวกนั้นทุกเรื่องและบังคับให้พวกเราสะสางทุกอย่างให้เรียบร้อยสมกับชื่อนักรบเทพ จนเข้าต่อสู้กับเทพปิศาจพวกเราจึงทำตัวเป็นผู้เป็นคนขึ้นบ้าง ดังนั้นข้าไม่รู้หรอกว่าหมอนั่นหมายถึงเรื่องไหน” 
 
            ท่านผู้นั้นระเบิดหัวเราะด้วยความชอบใจที่ได้พูดถึงวีรกรรมสมัยก่อนของตน ลักซูเรียเริ่มไม่มั่นใจเรื่องคำขู่ที่ได้รับมาอีกต่อหนึ่ง
 
            “เขาบอกแค่ว่าเป็นเรื่องคู่นอนที่คุณไม่อยากเปิดเผย” ลักซูเรียขุดความสงสัยของเซธให้กลับมาอีกครั้ง แทนที่จะโกรธหรือชะงักงันท่านผู้นั้นกลับมองนางอย่างเอ็นดู
 
            “จงระวังข้อมูลทุกอย่างที่ได้ยินจากปากเจ้านั่น เราทั้งคู่โด่งดังเรื่องการบิดเบือนคำพูดเพื่อให้คนเข้าใจไปในทางที่เราต้องการ ข้าทำเพราะหวังสิ่งล้ำค่าส่วนหมอนั่นทำเพื่อความสนุกของตัวเองล้วน ๆ หมอนั่นเป็นมังกรครึ่งมนุษย์ที่ไม่เข้าใจเรื่องอารมณ์ความรู้สึกเลย เขาสนุกกับการปั่นหัวคนอื่นเพื่อจะได้รู้ว่าสิ่งมีชีวิตมีอารมณ์แบบไหนบ้าง ข้าคืออันดับหนึ่งเรื่องเวทมนตร์ธาตุส่วนเจ้านั่นคืออันดับหนึ่งเรื่องเวทมนตร์สายความทรงจำ เราต่างรู้ไส้รู้พุงกันหมดทุกอย่าง”
 
            ท่านผู้นั้นเตือนลักซูเรียเกี่ยวกับนักรบเทพตนดังกล่าวแล้วก็พยายามนึกให้ออกว่าอีกฝ่ายต้องการยกเรื่องอะไรมาใช้ขู่
 
(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่