สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
1. ระวังสหกรณ์ออมทรัพย์ค่ะ และระวังสามีกู้ไม่บอกคุณ เช่น ปลอมลายเซ็น ( มีคนโดนกันเยอะ ) สหกรณ์ไม่ดีตรงเค้ามีสิทธิ์หักเงินเดือนได้เยอะมาก ระวังสามีจนกรอบไม่มีเงินกินข้าว แล้วต้องไปกู้จากแหล่งอื่น เช่น นอกระบบ แต่ถึงกู้ในระบบก็ไม่สมควรจะกู้อีกแล้ว
อย่าคิดว่า หนี้สามี เป็นหนี้ส่วนตัวของสามี ถ้าเค้ากู้เพิ่มระหว่างจดทะเบียนสมรส และกู้มากินใช้ จะถือเป็นหนี้ร่วมของคุณด้วยค่ะ ไปศึกษากฎหมายดีๆนะคะ
2. ลูกไม่มีหน้าที่ใช้หนี้แทนพ่อแม่ คุณควรเรียนรู้กฎหมายตรงนี้ แม่อาจตายภายในไม่กี่ปี ( ไม่ได้คิดเลวนะคะ แต่เรื่องนี้ต้องคิด ) สามีคุณจะรอด ถ้าไม่กู้หนี้แม่เป็นชื่อสามีเสียเอง แล้วผ่อนแทนแม่ ถ้าแม่จะกู้ ให้แม่กู้ของเค้าเอง แล้วถ้าสงสารจะให้เงินกินข้าว ค่อยให้เป็นเงินสด
แต่ถ้าเป็นหนี้มาตลอดชีวิตจน 50-60 เปลี่ยนยากค่ะ คนพวกนี้คิด % อัตราดอกเบี้ยไม่เป็นหรือไม่เคยคิดด้วยซ้ำ หมุนเงินเรื่อยไป ไม่รู้ว่าทบต้นทบดอกไปแล้วเท่าไร ถ้าอยากช่วย อย่าช่วยด้วยเงิน ช่วยทำไฟล์ Excel ว่าแม่เค้าจะชำระหนี้ยังไง จะดีกว่า ( คุณและสามีรับราชการ เรียนหนังสือมา คงทำเป็นใช่ไหม ? )
3. ระวังติดกับดักเงินกู้ค่ะ ข้าราชการมีปัญหานี้กันเยอะมาก ถ้าจดทะเบียนสมรสกัน คุณอาจโดนไปด้วย บ้าน รถ เงิน ที่มีร่วมกัน ยิ่งเจ้าหนี้เป็นสหกรณ์ มีกฎหมายพิเศษที่แข็งแกร่ง แต่ถ้าไม่จดทะเบียนสมรส ก็ไม่เป็นหนี้ร่วมกัน ลองคิดดีๆนะคะ
สรุป : ถ้าเป็นเรานะ เป็นแฟนต่อค่ะ แต่ไม่จดทะเบียนสมรส คุมกำเนิดไปก่อน บางทีแม่เค้าอาจจะไม่อยู่ในอีกกี่ปีข้างหน้า ดังนั้น หนี้สินของแม่ก็จะหลุดพ้น ( แต่อาจไม่ได้มรดก มรดกแม่เอาใช้หนี้แม่ ) ขอแค่อย่ากู้แทนแม่ ในชื่อคุณหรือสามี อย่ามีชื่อผ่อนแทนแม่เค้าค่ะ
แล้วคุณต้องมีเงินส่วนตัวในชื่อคุณเอง ผู้หญิงทุกคนอยากมีชีวิตที่ดี ถ้าสามีพายากจนคงไม่ไหว มันเป็น common sense ที่ผู้หญิงฉลาดหน่อยต้องคิดทุกคนอยู่แล้ว ถ้าสามีไม่ฉลาด จงเป็นผู้นำสามีค่ะ
อย่าคิดว่า หนี้สามี เป็นหนี้ส่วนตัวของสามี ถ้าเค้ากู้เพิ่มระหว่างจดทะเบียนสมรส และกู้มากินใช้ จะถือเป็นหนี้ร่วมของคุณด้วยค่ะ ไปศึกษากฎหมายดีๆนะคะ
2. ลูกไม่มีหน้าที่ใช้หนี้แทนพ่อแม่ คุณควรเรียนรู้กฎหมายตรงนี้ แม่อาจตายภายในไม่กี่ปี ( ไม่ได้คิดเลวนะคะ แต่เรื่องนี้ต้องคิด ) สามีคุณจะรอด ถ้าไม่กู้หนี้แม่เป็นชื่อสามีเสียเอง แล้วผ่อนแทนแม่ ถ้าแม่จะกู้ ให้แม่กู้ของเค้าเอง แล้วถ้าสงสารจะให้เงินกินข้าว ค่อยให้เป็นเงินสด
แต่ถ้าเป็นหนี้มาตลอดชีวิตจน 50-60 เปลี่ยนยากค่ะ คนพวกนี้คิด % อัตราดอกเบี้ยไม่เป็นหรือไม่เคยคิดด้วยซ้ำ หมุนเงินเรื่อยไป ไม่รู้ว่าทบต้นทบดอกไปแล้วเท่าไร ถ้าอยากช่วย อย่าช่วยด้วยเงิน ช่วยทำไฟล์ Excel ว่าแม่เค้าจะชำระหนี้ยังไง จะดีกว่า ( คุณและสามีรับราชการ เรียนหนังสือมา คงทำเป็นใช่ไหม ? )
3. ระวังติดกับดักเงินกู้ค่ะ ข้าราชการมีปัญหานี้กันเยอะมาก ถ้าจดทะเบียนสมรสกัน คุณอาจโดนไปด้วย บ้าน รถ เงิน ที่มีร่วมกัน ยิ่งเจ้าหนี้เป็นสหกรณ์ มีกฎหมายพิเศษที่แข็งแกร่ง แต่ถ้าไม่จดทะเบียนสมรส ก็ไม่เป็นหนี้ร่วมกัน ลองคิดดีๆนะคะ
สรุป : ถ้าเป็นเรานะ เป็นแฟนต่อค่ะ แต่ไม่จดทะเบียนสมรส คุมกำเนิดไปก่อน บางทีแม่เค้าอาจจะไม่อยู่ในอีกกี่ปีข้างหน้า ดังนั้น หนี้สินของแม่ก็จะหลุดพ้น ( แต่อาจไม่ได้มรดก มรดกแม่เอาใช้หนี้แม่ ) ขอแค่อย่ากู้แทนแม่ ในชื่อคุณหรือสามี อย่ามีชื่อผ่อนแทนแม่เค้าค่ะ
แล้วคุณต้องมีเงินส่วนตัวในชื่อคุณเอง ผู้หญิงทุกคนอยากมีชีวิตที่ดี ถ้าสามีพายากจนคงไม่ไหว มันเป็น common sense ที่ผู้หญิงฉลาดหน่อยต้องคิดทุกคนอยู่แล้ว ถ้าสามีไม่ฉลาด จงเป็นผู้นำสามีค่ะ
ความคิดเห็นที่ 5
ต้องถามใจคุณก่อนค่ะ ยังรักเขาไหมคะ
1) ถ้าไม่รักแล้ว เลิกเลยค่ะ win-win
2) ถ้ารัก เรียกมาคุยกันว่าฉันเครียด ฉันเสียใจ ฉันไม่มีความสุขกับเรื่องนี้ จะกู้จะใช้คืนอะไรก็ตามแต่คุยกันให้รู้เรื่องมีประเด็น มีแนวทางแก้ไขและมีข้อสรุปที่ชัดเจน เรื่องเงินเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องสำคัญค่ะ
3) วางแผนการเงินบ้านคุณใหม่ทั้งหมดค่ะ อย่างน้อยออกคนละครึ่งก็ยังดี พ่อแม่เราไม่ได้เลี้ยงเรามาให้มาแต่งงานแล้วต้องมานั่งใช้หนี้ให้คนอื่นค่ะ
ใจคุณ ตัวคุณ คุณรู้ดีที่สุดว่าจะต้องเดินไปทางไหนต่อ
1) ถ้าไม่รักแล้ว เลิกเลยค่ะ win-win
2) ถ้ารัก เรียกมาคุยกันว่าฉันเครียด ฉันเสียใจ ฉันไม่มีความสุขกับเรื่องนี้ จะกู้จะใช้คืนอะไรก็ตามแต่คุยกันให้รู้เรื่องมีประเด็น มีแนวทางแก้ไขและมีข้อสรุปที่ชัดเจน เรื่องเงินเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องสำคัญค่ะ
3) วางแผนการเงินบ้านคุณใหม่ทั้งหมดค่ะ อย่างน้อยออกคนละครึ่งก็ยังดี พ่อแม่เราไม่ได้เลี้ยงเรามาให้มาแต่งงานแล้วต้องมานั่งใช้หนี้ให้คนอื่นค่ะ
ใจคุณ ตัวคุณ คุณรู้ดีที่สุดว่าจะต้องเดินไปทางไหนต่อ
แสดงความคิดเห็น
แม่สามีมายืมเงินเก็บไปเกือบหมด สามีคิดแต่จะเป็นหนี้ จะไปต่อหรือพอแค่นี้ จะทำอย่างไรดี
สามีเรามีหนี้สินจำนวนหนึ่งซึ่งต้องผ่อนทุกเดือน ไม่ใช่หนี้ร่วมกัน เงินเดือนเหลือบ้างบางส่วน ไว้เก็บไว้จ่ายส่วนตัวของเค้า
ตั้งแต่แต่งงาน เรารู้สึกว่า เราเป็นคนรับค่าใช้จ่าย ทั้งหมด ทั้งค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าใช้จ่ายจุกจิกทั้งหมด
แม้กระทั่งเวลาไปกินที่ร้านอาหาร เราก็เป็นคนจ่ายเอง ก่อนหน้านี้วางแผนเก็บเงินไว้ว่าจะซื้อรถ เก็บมาได้ก้อนหนึ่ง แต่แม่สามีก็มายืมไปลงทุนขายของเมื่อเดือน เมษายนไปหนึ่งหมื่น และเมื่อเดือนสิงหาที่ผ่านมายืมไปเอาทองที่จำนำไว้ไป สองหมื่น มาวันนี้แม่สามี จะมาให้หาเงินให้อีก แกเอาโฉนดที่ดินของบ้านไปจำนองธนาคารยอดทั้งหมดประมาณ เกือบสี่แสนทางธนาคารทวงมา แกก็ให้แฟนเราหาให้อีก ตอนนี้ลำพังเงินเก็บที่มีอยู่ไม่พอที่จะจ่ายหนี้ก้อนนั้น แฟนเลยมาปรึกษาว่าจะกู้เงินธนาคารอีก เรารู้สึกไม่โอเคเลยจริงๆ ถ้ากู้อีกเงินเดือนเค้าก็โดนหักไปเยอะ แถมเป็นหนี้ระยะยาว ตอนนี้เรายังไม่ได้สร้างอะไรเป็นของเราเลย ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรสักอย่างเลย ทั้งบ้านทั้งรถ แล้วเราคิดยาวๆว่าถ้ามีลูกจะเอาเงินไหนมาเลี้ยงเค้า
ให้เรารับผิดชอบค่าใ้ช้จ่ายนั้นคนเดียวเหรอ
รักกินไม่ได้ รักอย่างเดียวคงไม่พอที่จะสร้างครอบครัวใช่ไหม
เรารู้สึกอึดอัดมากๆ ไม่อยากปรึกษาที่บ้านเรากลัวพ่อแม่ไม่สบายใจ
มองไม่เห็นอนาคตเลยว่าจะอยู่กันยังไง ไม่เห็นความก้าวหน้าเลย
ชีวิตนี้ช่างยากเหลือเกิน😭