▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ประเทศเกาหลีใต้
ศาลาคนโสด
ประสบการณ์ความรัก
เตือนภัย
เพื่อนต่างชาติ
เพื่อนต่างแดนกับของขวัญสุดพิเศษ
จากหัวข้อกระทู้ ทุกคนคงเดาได้แล้วเนื้อเรื่องจะเป็นประมาณไหน
เราอยากจะเล่าเหตุการณ์จริงที่เราเจอด้วยตัวเองให้เพื่อนๆ ฟัง
ประสบการณ์ 10 วันที่สุดยอดมากค่ะ
*ยังไงหากเล่าตรงไหนไม่เข้าใจ หรืองง ต้องขออภัยล่วงหน้าเลยนะคะ*
เรื่องอาจจะยาวหน่อย ลองอ่านกันดูนะคะ
ตรงส่วนที่มีสาระเล็กน้อยอยู่ที่คอมเม้นท์ค่ะ ข้ามเนื้อเรื่องได้นะคะ
เหตุการณ์เริ่ม วันที่ 15 สิงหาคม 2564
ไอจีได้แจ้งเตือนผู้ติดตามคนใหม่เข้า ซึ่งนานๆ ทีจะมีเพราะส่วนตัวเราไม่ใช่คนลงรูปบ่อยๆ
ตัวละครที่ 1 หนุ่มเบ้าหน้าเกาหลี
เราเป็นคนเฟรนลี่กับทุกเพศ ทุกวัยค่ะ คุยได้หมด ไม่ได้มีปัญหาเรื่องภาษามากนักแต่ก็ไม่ได้เก่งถึงขั้นพูดคล่อง ตัวช่วยคือโปรแกรมแปลภาษา ส่วนตัวคิดว่าได้คุยกับต่างชาติบ้างก็ถือเป็นการฝึกที่ดี
เราจึงกดฟอลไว้เผื่อได้รูปไปใช้งานในนิยายแชท ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นก็มีข้อความเข้าในไอจี เป็นหนุ่มเกาหลีคนนั้น ตั้งแต่แรกเราคิดว่าอาจจะเป็นบัญชีหลุมเพราะยอดที่นางคนนี้ติดตามคนอื่นๆ คือเยอะเว่อร์มากๆ จำได้ว่าตอนที่เราติดตามกลับ คนติดตามนางแค่ 8 คนแต่จำนวนคนที่นางติดตามคือ 1000+ ไปแล้ว เหมือนเป็นการหว่านติดตามไปเรื่อยๆ
ทางเขาแนะนำตัวค่ะ ว่าตนเป็นคนเกาหลี แต่ตอนนี้เขาทำงานอยู่ที่ “ดับบิล ไอร์แลนด์” เขาแสดงความห่วงใยเรื่องการระบาดของโควิดของประเทศเรา และถามถึงความสัมพันธ์ ซึ่งเราได้บอกเขาแล้วว่า เรามีแฟน แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนค่ะ ว่าคุณจะไม่ได้มีความสำคัญมากไปกว่าเพื่อนต่างแดนแสนไกล
หนุ่มเกาหลีคนนี้ก็ได้ขอแอดเพื่อนใน WhatsApp เพราะนางไม่ได้ออนไลน์ในไอจีบ่อยนัก ใช้งาน WhatsApp มากกว่า ซึ่งปกติเราไม่ได้ใช้เลยค่ะ แอพแชทตัวนี้ ซึ่งสามารถปิดบัญชีได้แบบไม่ต้องเสียดายข้อมูลอะไรเลย เราเลยตั้งสินใจว่าให้ไปก็ได้
"WhatsApp" เป็นแอพแชทที่ใช้เบอร์ในเพิ่มเพื่อน ถึงแม้นางจะเป็นคนขอเบอร์ไป แต่เราก็ไปดูวิธีการเพิ่มเพื่อนชาวต่างชาติไว้ด้วยว่าทำยังไง ปกติประเทศไทยจะมีรหัสเป็น +66 อย่างที่หลายคนทราบค่ะ ทางไอร์แลนด์จะใช้ +353
ส่วนใหญ่บทสนาทนาต่อจากนั้นในทุกวันคือ สวัสดีตอนเช้า ทานอาหารเย็น และก่อนนอน เป็นสามช่วงเวลาที่คุยกันและไม่มีอะไรพิเศษมากนัก เราจะตอบแค่ที่เขาถามเสมอ แต่นางจะพิมพ์เยอะ และส่งข้อความบอกความเป็นอยู่และสิ่งที่กำลังทำให้เรารู้ตลอดเวลา และทุกเช้าของที่นู่น (ประมาณช่วง บ่ายของไทย) จะมีการพรรณนาบางอย่างเสมอ
หลังจากนั้นนางก็ชมว่าสวยอย่างนั้น อย่างนี้ และนางก็ชอบพูดว่าเราน่าจะมาอยู่นี่นะ อยากให้มาอยู่ด้วยจัง สักวันฉันอยากไปหาเธอที่นั่น ซึ่งแปลกมากค่ะ ทั้งที่รู้นางรู้ว่ามีแฟน และไม่มีวันไปหานางแน่นอน เราก็ตอบกลับไปตามมารยาทค่ะว่า ดีเนอะ คงมีสักวันแหละ อะไรประมาณนั้น
แต่เขาก็ยังคงถามไถ่เหมือนเพื่อนกันปกติด้วย มีพี่น้องไหม อยู่ยังไง ทำงานอะไร
และแล้ววันที่เราคิดไว้ก็มาถึงค่ะ ณ เวลานั้นคือเราโฟกัส Overwatch กับเพื่อนอยู่กำลังพยายามไม่ให้แรงค์ตกไปมากกว่านี้ 5555 เลยปล่อยให้นางเขียนอะไรก็เขียนไป ค่อยตอบทีหลัง เราไม่เชื่อหรอกค่ะ รู้จักไม่นานแถมไม่ได้คุยอะไรมากมายด้วย จะชอบได้ไง!!
ยังบอกด้วยค่ะว่า หวังว่าแฟนคุณจะไม่อิจฉาที่เขาได้คุยกับเรา ช่างกล้า 5555
แถมยังส่งวีดีโอมายืนยันว่าตัวเองอยู่ที่ห้างด้วย นางบอกว่าซื้อเสื้อผ้าพร้อมเครื่องประดับให้ค่ะ แถมใส่เงินมาให้ด้วยค่ะ ว้าววว
ซึ่งคิดว่าคงไม่น่าแพงอยู่แล้วใครจะได้ซื้อแพงๆ ให้คนที่รู้จัดกันแค่สัปดาห์เดียว ไม่น่ามีใครส่งเงินผ่านทางขนส่งกันแล้วนะคะ โลกถึงยุคที่สามารถส่งเงินให้กันได้ด้วยสมาร์ทโฟน เพียงแค่มีเงิน แอพ และอินเตอร์เน็ต
นางบอกเราด้วยว่าจะต้องเสียค่าธรรมเมียนเมื่อของไปถึงที่นั่น เราตอบโอเคไปโดยไม่ได้ถามอะไร นางบอกว่าเมื่อของไปถึง เงินนั้นให้เรานำไปแลกธนาคารแล้วจะได้เป็นเงินของประเทศถึงจะนำไปใช้จ่ายได้ ซึ่งเรื่องนี้เรารู้อยู่แล้ว แถมนางยังบอกว่าได้เล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟังด้วยและแม่ก็สนับสนุน ประหลาดใจสุดๆ
นางตื่นเต้นที่จะส่งของให้เรามากๆ พูดถึงของที่เซอร์ไพรอยู่แทบตลอดเวลา ซึ่งเราไม่อินเท่าไหร่ อยากได้อะไรก็ซื้อได้เองทั้งนั้น เลยไม่ได้หวังว่าจะได้ของฟรีเท่าไหร่ อยากจะส่งอะไรก็ส่งมาเถอะ และแล้ววันที่ขนส่งติดต่อมาก็มาถึง คือ วันต่อมาจากที่นางส่งนั่นเอง ของข้ามน้ำข้ามทะเลมาอย่างไกล มาถึงในคืนเดียว สุดยอดมากๆ
ตัวละครที่ 2 พนักงานส่งของ จากมาเลเซีย
ที่อยู่ของเราคือประเทศไทย แต่ของไปลงที่มาเลเซีย ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามอาจจะไม่มีขนส่งไหนมาส่งที่ไทยได้เลยใช้ประเทศข้างเคียง เหมือนเดิมค่ะ เราเช็คเบอร์โทรศัพท์ว่าใช่ประเทศที่เจ้าตัวกล่าวมาไหมคือ ถูกต้องค่ะ เป็นเบอร์จากมาเลเซีย
เขาส่งข้อความแจ้งถึงพัสดุของเราและที่ติดอยู่ที่กรมศุลของเขา และเราต้องเสียเงินเป็นจำนวน 25,000 บาท
เงินจำนวนนี้มากกว่าเงินเดือนที่เราได้อีกค่ะ ไม่มีทางที่เราจะยอมจ่าย พอเราไม่ตอบพนักงานขนส่ง หนุ่มเบ้าหน้าเกาหลีก็ทักมาทันที ทั้ง ๆ ที่ ที่นั่นเป็นเวลา ตี 3 ทั้งคู่พยายามให้เรารีบจ่ายเงิน ของจะได้มาถึงเราในวันนี้ ซึ่งไม่มีทางค่ะ ของข้ามประเทศจะมาถึงเราภายในวันเดียว และค่าธรรมเนียมในราคานี้ ไม่มีแน่นอนค่ะ
เราจึงบอกนางคนเกาหลีว่าค่าธรรมเนียมที่ฉันต้องจ่ายมันมากกว่าเงินเดือนของฉันอีกนะ มันโบ๊ะตรงนี้แหละค่ะ
นางบอกว่าเราจะได้เงินคืนแน่นอน เพราะนางใส่เงินมาให้ด้วยทันที่เราจ่ายค่าธรรมเนียม เขาใส่เงินมาให้ 30,000 ยูโร
หลังจากที่เราบอกว่าประชุมก็เงียบไปนานระหว่างนั้นเราได้ถามพี่ที่ทำงาน ที่ทำเกี่ยวการขนส่งของข้ามประเทศ
ถามว่า พวกค่าธรรมเนียมของนำเข้าเนี่ยมันยังไง ต้องจ่ายแต่ละครั้งเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับอะไร
(ติดตามต่อในคอมเม้นท์ได้เลยค่ะ ต่อไปจะเป็นสาระเล็กๆ น้อยๆ)