ขอสอบถามผู้รู้หน่อยค่ะ

สวัสดีค่ะ เราขอคำแนะนำหน่อยค่ะ พอดีเมื่อปีที่แล้ว พี่ชายเราจะไปออกรถ เราอายุ 20 ซึ่งไม่ค่อยมีความรู้เรื่องกฏหมายหรือเอกสารสักเท่าไหร่ พี่ชายเราขอให้ไปเป็นคนค้ำ แต่พอไปถึงอายุงานพี่เราไม่ได้ ทางเต้นก็บอกว่า จะคนค้ำหรือเจ้าของรถก็เหมือนกัน ใครก็ได้ เราก็คิดว่าไม่เป็นไร มันก็พูดว่าจะได้มีรถพาปู่พาลูกเราไปหาหมอเวลาไม่สบาย เราก็เลยใจอ่อนเพราะเราไม่อยากให้ปู่กับลูกนั่งมอไซร์ตากแดด พอได้รถมาเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลัง ตอ. อี นอ เลยค่ะ ไม่มีใครจับรถมันได้ ปู่ก็ยังขับมอไซร์ไป โรงบาลเองตัวเราเองไม่เคยอยากได้เพราะรู้รายจ่ายตัวเองเพราะเราต้องรับผิดชอบปู่กับย่า มีลูกน้อยต้องเลี้ยง ระหว่างนี้เราคิดไว้แล้วว่าวันข้างหน้าต้องยังไงต่อ พยายามทำเครดิตตัวเอง ธุรกรรมต่างๆ เราจ่ายตรงตลอด จนมาเรื่องรถ เจ้าของรถจ่ายช้าชนงวดบ้าง แล้วยังออกจากงานหลังจากได้รถมาไม่กี่เดือน จะมีปัญหาแทบทุกเดือนเรื่องค่างวด พอมามีปัญหากัน เราตัดสินใจเอารถไปคืนตั้งแต่งวดชนงวดแรก ทางธนาคารบอกให้เราเอารถมาเก็บไว้ก่อนแล้วจะประสานงานมา เราก็รอจนชนงวดที่ 2 ก็ยังไม่มีใครตอดต่อมา จนตอนนี้ จะชนงวดที่ 4 ไฟแน้นจะมาเอารถ. เราก็ขอคืนรถ ซึ่งเราจะทำยังไงดีคะ ไอ่เจ้าของรถไม่รู้เดือดรู้ร้อนอะไรเลย เรามีลูกเล็กต้องเลี้ยงแล้วตอนนี้เราอายุแค่ 21 พึ่งคิดที่จะผ่อนบ้าน มีวิธีไหนที่จะทำให้เครดิตไม่เสียบ้างไหมคะ วันข้างหน้าไม่มีใครคอยซับพอตเราแน่นอน ที่ผ่านมาเราหาเองมาตลอด เคลียดมากค่ะ จะมาพังเพราะคนอื่นแบบนี้เราไม่โอเคเลยค่ะ 
1.เราอยากรู้ว่า เอารถไปคืนแล้วทำไมถึงไม่รับรถคืน จะให้เราผิดสัญญาคือไม่จ่ายค่างวด แล้วมายึดเพื่อเรียกส่วนต่าง (แบบนี้ควรทำยังไงคะ เพราะเราเอารถไปคืนแล้วแต่เขาไม่รับรถไว้)
2.ถ้าศาลฟ้อง เราไปขึ้นศาล เราสามารถบอกกับศาลได้ไหมว่ารถไม่เคยอยู่กับเรา (มีรูป มีพยาน ว่ารถใครเป็นคนใช้)
3.แล้วเราควรแก้ไขยังไงเรื่องเครดิต ทุกวันนี้คนในครอบครัวก็ไปทางพี่ชายหมด มีแต่ปู่อาแล้วก็ลุงที่เป็นห่วงเรากลัวเราจะคิดมาก เพราะเราจะซีเรียสมากเรื่องเครดิต แต่ไว้ใจผิดคน หวังให้ปู่ได้พึ่งยามป่วย
4.ถ้าเราพูดความจริงให้ศาลฟัง ศาลจะเห็นใจเราไหม เราไม่ได้เป็นคนอยากได้รถ