ทุกวันนี้เราต่างก็เห็นข่าวสงครามที่คุกรุ่นไปในหลายท้องที่ ทั้งแถบตะวันออกกลาง ทั้งอัฟริกา ทั้งบริเวณรัสเซีย
และมักมีกรณีที่เกี่ยวกับโลกอิสลามอีกหลายกรณีที่มักถูกยกขึ้นมาเป็นข่าว
เนื้อหาสาระนี้จะขอกล่าวถึง "จิฮัด/ญิฮัด" ที่มักถูกตั้งนิยามว่า "สงครามศักดิ์สิทธิ์"
หากพูดถึงสงครามศักดิ์สิทธิ์ คงหนีไม่พ้นเรื่องกรณี "สงครามครูเสด" ที่ฝ่ายคริสเตียนและฝ่ายอิสลาม ได้เคยทำสงครามหั่มหั่นกันมาเป็นร้อยปี
โดยทั้งฝ่ายทางคริสเตียนและฝ่ายอิสลาม ได้เรียกสงครามดังกล่าวว่า "สงครามศักดิ์สิทธิ์" ที่ทางอิสลามมักใช้คำว่า "จิฮัด/ญิฮัด"
ในความเป็นจริง "จิฮัด/ญิฮัด" ที่ถูกระบุเนื้อหาสาระไว้นั้น ได้มีความหมายว่าอะไร???
จากการค้นหาข้อมูลนั้น ทางฝ่ายผู้นิยมใช้ความรุนแรง มักจะให้นิยามว่า เป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ ที่มีฝ่ายตรงข้าม คือ คนนอกศาสนา
หากทว่า ... จิฮัด/ญิฮัด นั้นได้มีความหมายในทางคำสอน ที่ระบุถึง
"การต่อสู้กับจิตใจตนเอง ในส่วนกิเลศ ความอยาก(ที่เป็นมิจฉาฑิฐิ) ความต้องการที่เป็นลักษณะใฝ่ต่ำ"
หรือให้ชัดๆ ก็คือ " การหักห้ามใจตนเอง(จากกิเลศใฝ่ต่ำ) "
หากทว่าก็ได้มีคนบางกลุ่ม ที่ได้นำคำว่า "จิฮัด/ญิฮัด" มาใช้ในเรื่องทางโลกที่มักหมายถีง "สงครามและการรบราฆ่าฟันกัน "
แต่นิยามความหมายดังกล่าวกลับได้รับความนิยมชมชอบ และเป็นแรงจูงใจให้กับผู้คนกลุ่มหนึ่งที่แสวงหาสนามรบในสงครามได้นำไปอ้างใช้เพื่อให้ดูดี
"ฟิซซาบีลิลลา" ที่มีนิยามว่า "การต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์" แท้จริงแล้วคือหลักปฏิบัติตนของนักรบ(ซึ่งไม่ใช่พวกบ้าสงคราม)
อันมีนิยามการระบุถึงหลักการ ที่ต้องนำไปใช้โดยเคร่งครัด
เช่น - การปกบ้านป้องเมืองจากการรุกราน (ที่พยายามบุกรุกเข้ามายึดครอง #โดนปล้น)
- การต่อสู้เพื่อปกป้องศาสนา โดยเฉพาะจากการพยายามเคลมศาสนา (ที่ผู้รุกรานพยายามเข้ามายึดครองและเปลี่ยนแปลงศาสนา)
- การรักษาความถูกต้องของศาสนกิจให้ดำรงอยู่ โดยไม่ให้ถูกบิดเบือน (จากการที่ผู้รุกรานพยายามเปลี่ยนแปลงคำสอนเพื่อครอบงำผู้คน)
- รักษาความยุติธรรมให้การปกป้องความบริสุทธิ์ของศาสนา
และหากเกี่ยวกับภัยสงคราม
- จะต้องไม่ทำตัวเหมือนพวกโจร
- ต้องให้ความปลอดภัยแก่ฝ่ายตรงข้ามที่ยอมจำนน ต้องให้ความปลอดภัยแก่ชาวบ้านของฝ่ายตรงข้าม และต้องไม่แตะต้องทรัพย์สินผู้อื่น
- ต้อง "ยุติธรรม" ไม่เป็นฝ่ายบุกรุกคุกคามผู้อื่น หากแต่ปกบ้านป้องเมืองของฝ่ายตน จากการถูกรุกราน(เท่านั้น)
บางกรณี(ในปัจจุบัน) มักมีผู้คนกลุ่มใหญ่ ที่มักใช้คำว่า "ฟีซซาบีลิลลา" มาแทนที่ "ตักฟีรี่"
ที่ซึ่งกลุ่มดังกล่าว มักอ้างว่าการกระทำของพวกตนที่มีพฤติกรรม "ตักฟีรี่" (คุกคามบูลลี่โจมคี) แก่ ผู้เห็นต่าง/ต่างศาสนิก นั้นคือหลัก "ฟีซซาบีลิลลา"
ถึงแม้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพฤติกรรมดังกล่าวมันคือ "ตักฟีรี่" (คุกคามบูลลี่โจมคี) แก่ ผู้เห็นต่าง/ต่างศาสนิก แต่พวกเขาก็มักอ้างว่า "ฟีซซาบีลิลลา"
ณ จุดดังกล่าว อันเป็นพฤติกรรมการกระทำ ที่มักพบเห็นพบเจอได้บ่อยในสังคม แต่มันกลับได้รับการยอมรับจากคนกลุ่มใหญ่จำนวนหนึ่ง(มาก)
และมันอาจจะเป็นค่านิยม ของคนยุคปัจจุบัน ที่มักมองพฤติกรรมดังกล่าวนั้นว่าน่าชื่นชม และมักมีกองเชียร์จำนวนหนึ่ง(มาก) คอยสนับสนุนส่งเสริม ยกย่อง
แน่นอนว่า หากสังคมยังคงดำเนินต่อไปในวิถีทางดังกล่าว อิสลามก็คงหนีไม่พ้น "จุดเสื่อมถอย" และภาพลักษณ์ของอิสลามก็จะถูกมองในแง่ลบอยู่ต่อไป
อะไรคือ จิฮัด/ญิฮัด
และมักมีกรณีที่เกี่ยวกับโลกอิสลามอีกหลายกรณีที่มักถูกยกขึ้นมาเป็นข่าว
เนื้อหาสาระนี้จะขอกล่าวถึง "จิฮัด/ญิฮัด" ที่มักถูกตั้งนิยามว่า "สงครามศักดิ์สิทธิ์"
หากพูดถึงสงครามศักดิ์สิทธิ์ คงหนีไม่พ้นเรื่องกรณี "สงครามครูเสด" ที่ฝ่ายคริสเตียนและฝ่ายอิสลาม ได้เคยทำสงครามหั่มหั่นกันมาเป็นร้อยปี
โดยทั้งฝ่ายทางคริสเตียนและฝ่ายอิสลาม ได้เรียกสงครามดังกล่าวว่า "สงครามศักดิ์สิทธิ์" ที่ทางอิสลามมักใช้คำว่า "จิฮัด/ญิฮัด"
ในความเป็นจริง "จิฮัด/ญิฮัด" ที่ถูกระบุเนื้อหาสาระไว้นั้น ได้มีความหมายว่าอะไร???
จากการค้นหาข้อมูลนั้น ทางฝ่ายผู้นิยมใช้ความรุนแรง มักจะให้นิยามว่า เป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ ที่มีฝ่ายตรงข้าม คือ คนนอกศาสนา
หากทว่า ... จิฮัด/ญิฮัด นั้นได้มีความหมายในทางคำสอน ที่ระบุถึง
"การต่อสู้กับจิตใจตนเอง ในส่วนกิเลศ ความอยาก(ที่เป็นมิจฉาฑิฐิ) ความต้องการที่เป็นลักษณะใฝ่ต่ำ"
หรือให้ชัดๆ ก็คือ " การหักห้ามใจตนเอง(จากกิเลศใฝ่ต่ำ) "
หากทว่าก็ได้มีคนบางกลุ่ม ที่ได้นำคำว่า "จิฮัด/ญิฮัด" มาใช้ในเรื่องทางโลกที่มักหมายถีง "สงครามและการรบราฆ่าฟันกัน "
แต่นิยามความหมายดังกล่าวกลับได้รับความนิยมชมชอบ และเป็นแรงจูงใจให้กับผู้คนกลุ่มหนึ่งที่แสวงหาสนามรบในสงครามได้นำไปอ้างใช้เพื่อให้ดูดี
"ฟิซซาบีลิลลา" ที่มีนิยามว่า "การต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์" แท้จริงแล้วคือหลักปฏิบัติตนของนักรบ(ซึ่งไม่ใช่พวกบ้าสงคราม)
อันมีนิยามการระบุถึงหลักการ ที่ต้องนำไปใช้โดยเคร่งครัด
เช่น - การปกบ้านป้องเมืองจากการรุกราน (ที่พยายามบุกรุกเข้ามายึดครอง #โดนปล้น)
- การต่อสู้เพื่อปกป้องศาสนา โดยเฉพาะจากการพยายามเคลมศาสนา (ที่ผู้รุกรานพยายามเข้ามายึดครองและเปลี่ยนแปลงศาสนา)
- การรักษาความถูกต้องของศาสนกิจให้ดำรงอยู่ โดยไม่ให้ถูกบิดเบือน (จากการที่ผู้รุกรานพยายามเปลี่ยนแปลงคำสอนเพื่อครอบงำผู้คน)
- รักษาความยุติธรรมให้การปกป้องความบริสุทธิ์ของศาสนา
และหากเกี่ยวกับภัยสงคราม
- จะต้องไม่ทำตัวเหมือนพวกโจร
- ต้องให้ความปลอดภัยแก่ฝ่ายตรงข้ามที่ยอมจำนน ต้องให้ความปลอดภัยแก่ชาวบ้านของฝ่ายตรงข้าม และต้องไม่แตะต้องทรัพย์สินผู้อื่น
- ต้อง "ยุติธรรม" ไม่เป็นฝ่ายบุกรุกคุกคามผู้อื่น หากแต่ปกบ้านป้องเมืองของฝ่ายตน จากการถูกรุกราน(เท่านั้น)
บางกรณี(ในปัจจุบัน) มักมีผู้คนกลุ่มใหญ่ ที่มักใช้คำว่า "ฟีซซาบีลิลลา" มาแทนที่ "ตักฟีรี่"
ที่ซึ่งกลุ่มดังกล่าว มักอ้างว่าการกระทำของพวกตนที่มีพฤติกรรม "ตักฟีรี่" (คุกคามบูลลี่โจมคี) แก่ ผู้เห็นต่าง/ต่างศาสนิก นั้นคือหลัก "ฟีซซาบีลิลลา"
ถึงแม้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพฤติกรรมดังกล่าวมันคือ "ตักฟีรี่" (คุกคามบูลลี่โจมคี) แก่ ผู้เห็นต่าง/ต่างศาสนิก แต่พวกเขาก็มักอ้างว่า "ฟีซซาบีลิลลา"
ณ จุดดังกล่าว อันเป็นพฤติกรรมการกระทำ ที่มักพบเห็นพบเจอได้บ่อยในสังคม แต่มันกลับได้รับการยอมรับจากคนกลุ่มใหญ่จำนวนหนึ่ง(มาก)
และมันอาจจะเป็นค่านิยม ของคนยุคปัจจุบัน ที่มักมองพฤติกรรมดังกล่าวนั้นว่าน่าชื่นชม และมักมีกองเชียร์จำนวนหนึ่ง(มาก) คอยสนับสนุนส่งเสริม ยกย่อง
แน่นอนว่า หากสังคมยังคงดำเนินต่อไปในวิถีทางดังกล่าว อิสลามก็คงหนีไม่พ้น "จุดเสื่อมถอย" และภาพลักษณ์ของอิสลามก็จะถูกมองในแง่ลบอยู่ต่อไป