แชร์ประสบการณ์ ติดหนี้บูโร ขึ้นศาล สามารถกู้เเละทำบัตรเครดิตได้

ก่อนอื่นขอเล่าก่อนว่าเริ่มมีบัตรเครดิตจากการยื่นสมัครบัตรไป 1 ที่ เเต่เชลล์ส่งเรื่องต่อทำบัตรให้เกือบทุกธนาคารแล้วก็ผ่านหมดทุกที่ ตอนยื่นสมัครครั้งเเรกเงินเดือน 17000 เมื่อประมาณ พศ.2557
*ยาวหน่อยนะคะ*
เริ่มต้นเป็นหนี้ (ตอนนั้นเริ่มลงทุนทำอาชีพเสริมแต่ล้มไม่เป็นท่า + ซ่อมแซมบ้านให้แม่ รูดไปเยอะมากมารู้ตัวอีกที ชะตากรรมการใช้หนี้ก็เริ่มขึ้น)

บัตรเครดิตกสิกร 22,000 ผ่อนตลอดจ่ายขั้นต่ำ มีจ่ายช้าบ้างไม่เกิน 3 เดือน 
บัตรกดเงินสด  20,000  จ่ายขั้นต่ำ มีล่าช้าบ้าง 
บัตรKTC  2 ใบ ใบละ 45000  รวม 90,000 จ่ายขั้นต่ำมาเรื่อยๆจนไม่ไหว 
บัตร กรุงศรี 2 ใบ รวมแล้ว 35,000  จ่ายขั้นต่ำมาเรื่อยๆจนไม่ไหว 
สินเชื่อ CIMB  60,000 จ่ายขั้นต่ำมาเรื่อยๆจนไม่ไหว 

รวมหนี้  เงินต้น 227,0000 บาท 

หลังจากทนจ่ายมาเรื่อยๆจนไม่ไหวเริ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง เลยตัดสินใจ หยุดจ่ายและหาข้อมูลในการปลดหนี้ เพราะถ้าทนจ่ายไปคงจ่ายได้ดอกปิดหนี้ไม่ได้สักที  เริ่มหยุดจ่ายบัตรทั้งหมด เหลือไว้เเต่กสิกร ที่ยังจ่าย เพราะเป็นบัตรที่เงินเดือนเข้าในตอนนั้น และเก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน 

พอเริ่มหยุดจ่ายช่วงแรกจิตตกมากเจ้าหน้าที่โทรมาทวงหนี้วันละ10สายตลอด พยายามรับทุกสายที่โทรมาไม่งั้นจะโทรเข้าที่ทำงาน  เจ้าหน้าที่จะเริ่มโทรหาช่วงเวลาที่เราหยุดจ่าย 2-3 เดือนขึ้นไป  เจ้าที่โทรเยอะสุดและพูดจาร้ายแรงสุด คือ  CIMB
ช่วงที่หยุดจ่ายก็มาดูว่าดอกเบี้ยที่ไหนโหดสุดจะปิดที่นั่นก่อน เลยไปเจอวิธีการแฮคัต จึงเริ่มต้นแฮคัตที่แรกด้วย CIMB 
หยุดจ่ายเกิน 2 ปี โดนหมายศาลยอดหนี้ที่แจ้งล่าสุด 80,000กว่า จากเงินต้นที่เหลือตอนนั้น 40,000 ต่อรองขอส่วนลด และขอแบ่งจ่ายเป็น 3 งวด ลดหนี้จาก 80,000 ให้เหลือ 38,000 บาท    ตกลงจ่ายและปิดเรียบร้อยตามกำหนด 

ต่อมาระหว่างที่หยุดจ่ายและกำลังเก็บเงินปิด CIMB  ก็ได้รับหมายศาล 4ฉบับ จาก กรุงศรี 2 กรุงไทย 2  พอได้รับหมายศาลลองโทรไปติดต่อเจ้าหน้าที่ แต่เค้ายืนยันว่าต้องจ่ายปิดจบเท่านั้น และไม่มีส่วนลด จึงยอมไปศาล (ซึ่งไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เป็นการนัดกันไปไกล่เกลี่ยมากกว่าซึ่งมีคนไปเยอะมากในเเต่ละรอบและเรียกคุยพร้อมกัน เเล้วให้เซ็นเอกสารรับทราบหนี้แล้วก็ให้ผ่อนตามปกติแต่มีการกำหนดระยะเวลาไว้ว่าต้องผ่อนภายในกี่งวด งวดละเท่าไหร่  )

หลังจากไปศาลแล้ว เราก็ไม่สามารถผ่อนได้ตามที่เซ็นเอกสารเนื่องจากยอดรวมกันต่อเดือนมันสูงเกินไป ก็จ่ายบ้างหยุดบ้างวนกันไปเเต่ละ ธ. 

ผ่านมาอีก 2 ปี เริ่มเก็บเงินได้ จึงโทรขอส่วนลดปิดอีกครั้ง 
กรุงไทย ยอดขอปิด แสนกว่า ให้ส่วนลดน้อยมาก ยอดที่ต้องปิด 90000  รวม 2 บัตร เราเลือกปิดทีละใบ  ขอเเบ่งจ่าย 2 งวด /บัตร
กรุงศรี  เจ้านี้ลดจาก35,000 เหลือ 26,000   ผ่อนจ่าย 2 งวด 
ปิดหนี้ที่ขึ้นศาลจบ มิย. 2561   ระหว่างนั้นจะซื้อบ้านเเต่กู้บ้านสักที่ ทำบัตรก็ไม่ได้ ทำสินเชื่ออะไรได้เลย ซึ่งทำใจยอมรับไว้ตั้งเเต่แรกเเล้ว

ได้เเต่รอที่เค้าบอกกันว่า 3 ปีถึงล้างบูโรได้ 
จากนั้นก็เริ่มโป๊ะบัตร กสิกร ที่กดหมุนๆไปมา  จนปิดหมด เมื่อเดือน กค 62 หนี้เป็น 0 

พอครบ 1 ปี หลังจากปิดบูโรไปเมื่อ มิย.61 - สค. 62  ลองกดสมัครสินเชื่อผ่าน App เนื่องจากอยากซื้อบ้าน เลยจะลองเช็คเครดิตดู
****ผลปรากฎว่า *****
กสิกรอนุมัตสินเชื่อพร้อมใช้ 80,000 บาท
SCB อนุมัติบัตรเครดิต วงเงิน 90,000 บาท
SCB อนุมัติบัตรกดเงิน 200,000 บาท 
และ SCB  มียื่นเสนอสินเชื่อส่วนบุคคลให้อีก 165,000 บาท 
(ส่วนนึงที่คิดว่าสมัครผ่านนะคะ เนื่องจากมีงานประจำ และมีเงินเก็บบางส่วน + กับ ไม่มีหนี้ในระบบเลย )

ก่อนหน้า กค.62 ยื่นสมัครบัตรไปหลายที่ ไม่มีที่ไหนผ่าน ขนาด ธ.กรุงเทพ ที่เงินเดือนเข้ายังไม่ผ่าน  SCB ก็ลองกดสมัครมาตลอด มีข้อความไม่ผ่านเกณฑ์พิจารณาส่งกลับมาตลอด  เดือน สค.62 เลยสมัครเเบบไม่หวังอะไร ผลก็เป็นแบบที่แจ้งเลยค่ะ

เป็นหนี้ต้องใช้   ตอนนี้รู้ซึ้งถึงการใช้เงินเป็นอย่างมาก หลังจากตกอับชีวิตลำบากอยู่หลายปี 

ต่อไปก็เริ่มต้นสร้างเนื้อสร้างตัวอีกครั้ง ขอให้ทุกคนที่เป็นหนี้หมดหนี้ไวๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่