ความคิดแบบนี้พฤติกรรมแบบนี้เรียกว่าเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่าหรือเป็นอย่างอื่น?

สวัสดีค่ะนี่เป็นกระทู้แรกของเรา​ ผิดพลาดยังไงเราขออภัยไว้ตรงนี้นะคะ🙇🏻‍♀️🙏🏻
เริ่มเลยนะคะอาจจะยาวหน่อย​ ใครอ่านจบก็ขอขอบคุณมากๆเลยนะคะ​😁

เคยได้ยินคำพูดเหล่านี้ไหม... 
คำพูดที่ว่า​ "การจากไปมักน่าจดจำกว่าการมีอยู่" "ต้องตายก่อนใช่ไหมถึงจะมีคนเห็นค่าถึงจะมีคนคิดถึง"
ตั้งแต่เด็กจนโตเวลาเราเจอเรื่องแย่ๆเข้ามาเราต้องก้าวข้ามผ่านมันด้วยตัวเองตลอด​ จนลึกๆรู้สึกเหนื่อย​ แบบทำไมชีวิตเราเจอแต่อะไรก็ไม่รู้มันเหนื่อยมากที่ต้องผ่านมันไปคนเดียวต้องแบกรับความรู้สึกแย่ๆคนเดียวตลอด
เรามีความคิดอยากตายตั้งแต่เด็กๆ​ แต่ความคิดนี้มันจะผุดขึ้นมาแค่ตอนที่เราเจอเรื่องแย่ๆ​แต่มันก็ผุดขึ้นมาทุกครั้ง​ที่เจอเรื่องกระทบจิตใจ 
ที่จำได้มันเริ่มมีความคิดแบบนี้มาตั้งแต่อายุ13ที่จำได้เพราะช่วงนั้นกำลังเรียนอยู่ชั้นม.1​ เริ่มแรกเลยเราเกเรเราดื้อเองเราหนีออกจากบ้านหายไป3วัน​ พอกลับถึงบ้านญาติผู้ใหญ่เขาก็ถามเขาก็เตือนเราด้วยความหวังดีแหละเพราะเราก็เด็กมากจริงๆ​ แต่เราไม่ฟังใครเลยจนลุงของเราทนเราไม่ไหวมาคุยเองเขาคงคิดว่าเขาคงคุยกับเราได้เพราะลุงเขาเป็นผู้ชายเราคงจะกลัวเขาฟังเขาบ้าง​ แต่เราดันไม่กลัวไม่ฟังใครจริงๆเราไปพูดว่าพวกไม่ใช่พ่อไม่ใช่แม่กู​จะมายุ่งเรื่องของกูทำไม​ ไม่ต้องมายิ้มเราพูดแบบนี้จริงๆแค่ม.1แต่แสบมาก​ เราพูดไม่เข้าหูลุงเขาแหละสุดท้ายจบที่การใช้กำลังเราจำได้ขึ้นใจและโกรธแค้นมาจนถึงทุกวันนี้และเราไม่มีวันลืมความรู้สึกนั้นแน่นอน​ ยืนเถียงกันจ้องตาแข็งใส่กันสักพักเขาตบเราตบไปกี่ทีจำไม่ได้แล้วแต่แรงมาก​ จนหูเราอื้อไปเลยตอนนั้นมึนยืนอึ้งไปพักนึง มันไม่มีคำว่าเจ็บเลยหน้ามันชาไปหมดมีแต่ความโกรธ​ พอสติกลับมาเราก็ผลักลุงออกแต่ลุงไม่ยอมเหมือนกันเขาผลักเราจนล้ม​แรงผู้ชายที่เป็นลุงอ่ะเนอะแรงเยอะแค่ไหนคิดดูสิ พอเราล้มเขาก็ตบต่อ​ ตบไม่พอบีบคอเราด้วยเราทั้งร้องไห้ตะโกนเรียกคนให้มาช่วยแต่ไม่มีใครสนใจเราเลย​ สักพักนึงยายเดินมาดูว่าเราเป็นอะไร​ แต่ยายช่วยอะไรเราไม่ได้​ เราหันไปมองยายส่งสายตาประมาณว่าช่วยหนูหน่อย​ แต่ยายยืนนิ่งมากสายตายายนิ่งมาก​แต่ก็มีแววตาเป็นห่วงเราอยู่บ้าง เราคิดในใจแล้วแหละว่ายายคงช่วยเราไม่ได้​ แล้วยายก็เดินจากไป​ เราไม่เคยโกรธยายที่ตอนนั้นยายไม่ช่วยเราเราเข้าใจเพราะเราดื้อเอง​ แต่ที่เราไม่เข้าใจคือญาติคนอื่นเขาก็อยู่แต่ไม่มีใครมาช่วยรู้ว่าจะดัดนิสัยเราแต่คำว่าพอแล้วไม่มีใครพูดออกมาเลย​ พอยายเดินออกไปเขาก็ยังบีบคอเราอยู่​ จนเราเริ่มนิ่งเพราะหายใจไม่ออก​ เขาถึงปล่อยเรา​ แล้วพูดอะไรต่อไม่รู้เราจับใจความไม่ได้จำไม่ได้ตอนนั้นช้อคอยู่แล้วลุงเขาก็เดินหนีไป​ ที่น่าเจ็บใจคือพอเราจะออกจากบ้าน​ เราเจอป้าที่เป็นเมียของลุงยืนรอดูสภาพเรา​ แล้วทำหน้าตาเหมือนสมน้ำหน้าเราอยู่​ เราเจ็บใจมากที่ทำอะไรไม่ได้​เลย​ หลังจากนั้นเราก็ไม่พูดเรื่องนี้ไม่บอกเรื่องนี้กับใครเลยแม้แต่แม่แม้แต่เพื่อนที่เราสนิท​ จนญาติเราเองเนี่ยแหละเอาไปพูดเอาไปบอกคนอื่นต่อจนคนอื่นรู้และแม่กับเพื่อนเรามารู้ทีหลังมาถามเราทีหลัง​ ใครอ่านมาถึงตอนนี้คงสงสัยว่าตอนที่เราโดนทำร้ายแล้วพ่อกับแม่เราหล่ะไม่มีใครอยู่หรอ​ พ่อเราเสียตอน7ขวบ​ส่วนแม่ไปทำงานที่กทม.ตั้งแต่เรา​เรียนเตรียมอนุบาล4หรือ5ขวบไม่แน่ใจ​ แล้วก็ย้ายมาทำที่พัทยา​ตั้งแต่เด็กเราอยู่แต่กับยาย​ที่ต่างจังหวัด เวลามีปัญหามีเรื่องเราเลยไม่มีที่ปรึกษาไม่รู้จะคุยกับใคร​ หลังจากเรื่องนี้ผ่านไปสักพักพอแม่เรารู้ว่าเราถูกลุงทำร้ายร่างกายแม่ก็พาเราย้ายร.ร.มาเรียนที่พัทยาเราย้ายมาตอนกลางเทอม​ เราเป็นเด็กขาดความอบอุ่นก็ว่าได้​ ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นพอเราย้ายมาที่ใหม่เราก็กลายเป็นเด็กเงียบๆไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจากับใครเหมือนเด็กจากเด็กดื้อกลายเป็นเด็กเรียบร้อย​ เด็กเก็บกด เราใช้เวลาปรับตัวนานมากประมาณ4ปีเราถึงกลับมาร่าเริงอีกครั้​ง​
เราไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกันยังไงรึเปล่าที่ทำให้หลังจากเหตุการณ์นี้เราเริ่มมีความคิดอยากตาย​ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้นเรารู้สึกว่าเหมือนเราตัวคนเดียวเพราะแม่เราก็ไม่ได้ถามไม่พูดเรื่องนี้เลย​เราก็ได้แต่คิดว่าแม่คงดัดนิสัยเราให้เราจำแหละมั้งเราก็ไม่ได้อะไรเพราะไม่อยากพูดถึงเหมือนกัน
ปัจจุบันบางทีเราก็ทำร้ายตัวเอง​ บางทีก็เขียนระบายปัญหาทุกอย่างลงในสมุดบันทึก​ ลงในโน๊ต​ ตัดพ้อเรื่องชีวิต​ ตอนนี้อายุ22แล้ว​ เราก็ยังมีความคิดนี้อยู่เรื่อยๆ​ บางครั้งมันรู้สึกแย่มากจนเราไม่อยากอยู่แล้วจริงๆ​ เวลาเรามีปัญหามีเรื่องแย่ๆเข้ามาเราไม่เคยพูดไม่เคยบอกกับใครเลย​ เราจะโพสระบายเป็นข้อความมากกว่า​ และเราไม่เคยบอกคนในครอบครัวหรือเพื่อนเลยเพราะเราไม่อยากให้เขาต้องมาคิดมากต้องมาเป็นห่วงเรา​ แต่ล่าสุดปี64นี่แหละจำไม่ได้ว่าเดือนไหนแต่กลางๆปีเนี่ยแหละ​ เรารู้สึกแย่กับชีวิตตัวเองจริงๆไม่ไหวจริงๆเราเลยโทรไปคุยกับครอบครัวถามกับคนที่เรารักว่าถ้าวันนึงไม่มีเราเขาจะอยู่กันได้ไหม​ เราเล่าเหตุผลทุกอย่างปัญหาทุกอย่างที่เจอมาตลอดให้เขาฟัง​ เราพูดไปตรงๆเลยว่าอยากตาย​ แต่แม่คอยดึงสติ
เมื่อก่อนเราไม่เข้าใจว่า"คนเป็นโรคซึมเศร้า" อาการที่แท้จริงมันเป็นยังไง​ เมื่อก่อนเรากลับมองว่าคนที่บอกว่าตัวเองเป็นโรคนี้​ ที่เขาทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจรึป่าว​ มันคือข้ออ้างต่างๆนาๆรึป่าว​ ตอนนั้นเราไม่เข้าใจโรคนี้จริงๆ​ ทั้งที่ตัวเราเองก็มีพฤติกรรมแบบนั้น​อยู่เหมือนกัน​ คงเป็นเพราะช่วงนั้นเราไม่ได้โฟกัสตัวเองขนาดนั้นรึป่าวถึงคิดว่าคนเป็นโรคนี้เรียกร้องความสนใจ
แต่ปัจจุบันนี้เราได้ศึกษาได้หาข้อมูลโรคนี้มาบ้างแล้ว​ เราเข้าใจคนที่เป็นโรคนี้แล้ว
แต่ที่เรามาโพสแบบนี้เพราะเราอยากมั่นใจ​ ว่าเราเป็นหรือไม่เป็นโรคนี้กันแน่​ เราไม่อยากเอาโรคนี้มาอ้างหรือมาบอกคนอื่นว่าเราเป็นโรคนี้ทั้งที่ตัวเราเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเราเป็นจริงๆหรือเปล่า​ เพราะโรคนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก​ๆ เราอยากมั่นใจจริงๆเราอยากได้คำแนะนำจากทุกคน​ อีกอย่างเราก็อยากไปพบจิตแพทย์นะจะได้รู้ไปเลยว่าเราผิดปกติรึเปล่าแล้วต้องจัดการกับความคิดความรู้สึกนี้ยังไง​ แต่เราไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี

ปล.ภายนอกเราเป็นคนร่าเริง​ อารมณ์ดี​มากเหมือนในชีวิตไม่มีเรื่องให้เครียด​ ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรเรายิ้มสู้ตลอด​คนที่รู้จักเราจะรู้ดี​ *แต่ข้างในใจเรามันมีแต่เรื่องลบๆเรื่องแย่ๆเต็มไปหมด​ ​เหตุผลของเรามีข้อเดียวที่เราไม่ชอบแสดงอาการออกมาให้คนอื่นรับรู้มากนัก​ และเป็นเหตุผลที่ฟังแล้วเหมือนการหลอกตัวเองว่าแต่ละวันมีความสุขดี​ คือเราคอยบอกกับตัวเองเสมอว่า​ ภายในใจเรามันจะทุกข์จะแย่แค่ไหนก็ตามเราต้องเก็บมันเอาไว้ให้ลึกที่สุด​ ห้ามเผยออกมาเพราะบางทีถ้าเราเผยออกมาให้คนอื่นรู้​ มันจะไม่ได้ส่งผลแค่กับเรา​มันจะส่งผลถึงเพื่อนร่วมงาน ส่งผลถึงเรื่องงานของเราด้วยและวันนั้นเราจะไม่มีความสุขเลย​ แต่การที่เราเลือกจะยิ้มสู้ทุกสถานการณ์ย่อมดีกว่า​ อย่างน้อยก็ได้หัวเราะได้คุยเรื่องดีๆได้พักสมองไปช่วงนึง​ อย่างน้อยมันก็เป็นการหลอกตัวเองที่เราและคนรอบข้างมีความสุขมีเสียงหัวเราะนี่คือเหตุผลที่เรากลายเป็นคนที่คนอื่นมองว่าร่าเริงยิ้มหัวเราะได้ทั้งวันทั้งที่เมื่อคืนร้องไห้มาหรือยิ้มได้ทั้งวันทั้งที่จริงๆพวกเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าภายใจในเราแย่แค่ไหน​ พอเวลาเราอยู่คนเดียวความอ่อนแอทุกอย่างมันก็ถูกปลดปล่อยออกมาอยู่เรื่อย

ปล.ทุกครั้งที่เราเจอเรื่องแย่ๆเราคิดอยากจะตายจริงๆ​และอยากตายทุกครั้ง​ แต่มันติดที่ใจเรายังไม่แข็งพอที่จะไปถึงขั้นฆ่าตัวตายได้​ เราเป็นห่วงแม่กับน้องสาว​ แต่เราก็พูดบอกคนที่เรารักนะว่าถ้าวันนึงเราใจแข็งพอ​ ต้องอยู่กันให้ได้นะและไม่ต้องโทษตัวเอง​ เพราะสิ่งนี้เราเป็นคนเลือกมันเอง

ช่วยยืนยันเราอีกทีหน่อยนะคะว่าที่เราเป็นแบบนี้เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าหรือโรคอะไรทางจิตรึเปล่า
หรือใครมีจิตแพทย์แนะนำบ้าง​ **พัทยา**🙏🏻🙏🏻🙏🏻
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่