Facebook เก็บภาษีเพิ่ม 7% จากการยิงแอด

สรุปครบทุกประเด็น
Facebook เก็บ VAT 7% กระทบใคร
และคนทำธุรกิจต้องทำอะไรบ้างต่อจากนื้
---
1 ลำดับแรก ทำความเข้าใจแบบนี้ก่อน
เรามาถึงจุดนี้ได้ เนื่องจากมีกฎหมายภาษีใหม่
ชื่อว่า ภาษี e-service ซึ่งจะบังคับใช้ 1 กันยายน 2564

เล่าแบบสรุปว่า กฎหมายตัวนี้กำหนดให้ธุรกิจต่างประเทศ
ที่ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย
มีหน้าที่ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ด้วย

2 แน่นอนว่า Facebook เป็นหนึ่งในเจ้าที่เข้าข่าย
ด้งนั้นต่อจากนี้ Facebook ก็ต้องจ่าย VAT ให้กับประเทศไทย

และสิ่งที่ Facebook ทำได้ คือ
การผลักภาระภาษี 7% ให้กับลูกค้าที่ซื้อค่าโฆษณา

เช่น จากเดิมค่าโฆษณา 100 บาท
ลูกค้าก็ต้องจ่ายเพิ่มเป็น 107 บาท (มี VAT 7 บาท)

3 ในมุมของลูกค้า จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ประเด็นแรก คือ ค่าใช้จ่ายของธุรกิจ

โดยปกติแล้วค่าโฆษณาสามารถเป็นรายจ่ายธุรกิจได้
ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา (ที่หักค่าใช้จ่ายจริง)
หรือนิติบุคคล (บริษัทหรือห้างหุ้นส่วน)

ดังนั้น 100 บาทที่เป็นค่าโฆษณา
สามารถเป็นค่าใช้จ่ายได้อย่างแน่นอน
แต่ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 บาทล่ะ ???

4 ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 บาทที่ว่าคือประเด็นสำคัญ
ที่จะต้องตั้งคำถามกันต่อว่า ธุรกิจเราจด VAT ไหม

ถ้าหากจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
VAT 7 บาทที่จ่ายไป จะไปใช้เป็นภาษีซื้อได้
หรือสามารถนำมาหักออกจากภาษีขายได้นั่นเอง

โดยสิ่งที่เจ้าของธุรกิจที่จด VAT ต้องทำ คือ

1. แจ้งเลขประจำตัวผู้เสียภาษีกับทาง Facebook ฃ
ว่าเป็นผู้ประกอบการจด VAT (ลองสอบถาม Support ได้)

2. นำส่งภาษีโดยยื่นแบบ ภ.พ. 36 ให้กับกรมสรรพากร
ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป (มีขยายเวลากรณีผ่านเน็ต)

ถ้าทำแบบนี้จะไม่ถูก Facebook บวก VAT เพิ่ม 7%
ยังจะจ่ายแต่ค่าโฆษณาเท่าเดิม ไม่เพิ่ม VAT

แต่ธุรกิจต้องไปนำส่งกรมสรรพากรด้วยตัวเอง
แล้วจึงจะเอาภาษีซื้อมาใช้ได้ตามปกติ

สำหรับคนที่จด VAT และเคยยื่นแบบ ภ.พ. 36 อยู่แล้ว
พูดง่าย ๆ ว่า แจ้งข้อมูล Facebook เรื่องภาษี
แล้วทำเหมือนเดิมที่เคยทำได้เลยครับ

5

สำหรับธุรกิจที่ไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
VAT 7 บาทที่จ่ายไปจะใช้เป็นภาษีซื้อ
เพื่อหักจากภาษีขายหรือขอคืนไม่ได้
แปลว่ามันจะเป็นรายจ่าย (ต้นทุน) ของธุรกิจ

ประเด็นที่เจ้าของธุรกิจที่ต้องคิดมันอยู่ตรงนี้ครับ
นั่นคือ รายจ่าย 100 บาทตอนแรก
จะเพิ่มขึ้นกลายเป็น 107 บาทหลังจากรวม VAT

โดยรายจ่ายนี้ยังใช้เป็นรายจ่ายของธุรกิจได้เหมือนเดิม
แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ กำไรจะลดลงไป

เพราะต้องเสียเงินส่วนนี้เพิ่มเข้ามาจากที่ไม่เคยเสีย
จึงเท่ากับว่า คนที่ไม่จด VAT จะต้องมีต้นทุนเพิ่ม

สิ่งที่ต้อง ตอบให้ชัดก็คือ
ผลกระทบจากตรงนี้ เรายังมีกำไรอยู่ไหม?

ถ้ากำไรลดลง หรือ กลายเป็นขาดทุน
จากต้นทุนของ VAT 7% ค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้นมา
จะกลายเป็นอีกปัญหาที่ธุรกิจต้องแก้ไขครับ

---

อย่างไรก็ดี
หลังจากนี้ สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจเพิ่ม
สำหรับคนทำธุรกิจที่ไม่เคยจดทะเบียน VAT
อาจจะต้องพิจารณาเรื่องนี้ในอนาคตแล้วครับว่า

เราควรจะต้องจด VAT ดีไหม
หรือเราจะจัดการธุรกิจอย่างไรดี ?
ตรงนี้ถือเป็นอีกเรื่องที่ต้องคิดให้ดีครับ
ขอขอบคุณ
#TAXBugnoms #ภาษี #Facebook #ธุรกิจ
#การเงิน #ค่าโฆษณา #ยิงแอด

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่