สวัสดีค่ะพี่ๆแฟนผี น้องตั้งใจนำบทความแปลนี้มาให้อ่านกันเล่นๆ เป็นเรื่องราวของเฮีย "คาวานี่" ของเรา
เรื่องน่ารักดี เขียนจดหมายถึงตัวเอง😅
**ปล. หนูตั้งทู้ใหม่นะคะเนื่องจากทู้ที่แล้วหนูเขียนชื่อผิดที่หัวกระทู้🤣🤣🤣
ขออภัยในความผิดพลาดค่ะ🙏😢
Cr.แปลจากพี่นิรนามท่านนึง(พี่เค้าขอไม่ประสงค์ออกนาม😁)🙏
ถึงเอดิสันวัยเก้าขวบที่รัก...
ผมเขียนถึงเด็กคนนึงที่คนทั่วทั้งละแวกบ้านเรียกว่า เปลาโด..
เจ้าเหม่ง..
เมื่อตอนที่เธอยังแบเบาะ เธอไม่ค่อยมีผมหรอกนะมันขึ้นช้ามากเลย แย่ที่สุดและเธอก็ทำอะไรกับมันไม่ได้ เพราะอย่างนี้ล่ะเธอถึงเป็นเจ้าเหม่งของครอบครัวมาตลอด
ผมดีใจนะที่จะได้บอกกับเธอว่าในอีก20ปีข้างหน้าฟุตบอลจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอในหลายๆเรื่อง บ้างก็เป็นเรื่องที่ดี บ้างก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก ฟุตบอลจะทำให้ฉายาเจ้าเหม่งของเธอหายไป จะมีผู้ชายคนนึงที่ชื่อ"กาเบรียล บาติสตูต้า" ตอนนี้เธอยังไม่รู้จักเค้าหรอกนะเพราะว่ารายการทีวีเดียวที่เธอยอมนั่งดูคือทอมแอนด์เจอรี่ นานโด้พี่ชายของเธอจะเป็นคนแรกที่ได้แรงบันดาลใจจากบาติสตูต้า พี่เค้าจะเริ่มไม่ไปร้านตัดผม เริ่มที่จะใช้ครีมนวดผมของแม่ จากนั้นไม่นานพี่เค้าก็จะดูคล้ายกับบาติโกลผู้สง่างามยามที่เขาวิ่งในสนามฟุตบอล ผมยาวมัดรวบไว้ด้วยเชือกผูกรองเท้า นั่นมันเจ๋งที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมาเลย
ในที่สุดเธอก็รวบรวมความกล้าเพื่อที่จะบอกแม่ว่า “จะไม่ตัดผมอีกแล้ว”
เธอจะใช้ชีวิตของเธอข้างนอกบ้าน มีลูกฟุตบอลอยู่ที่เท้า ตามวิถีทางของอเมริกาใต้ เธอไม่รู้หรอกว่ามันมีอะไรที่ต่างไปจากนี้ แล้วในบ้านมีอะไรอยู่ล่ะ? ไม่มีอะไรน่าสนุกเลย ไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่มีเพลย์สเตชั่น ไม่มีทีวีจอใหญ่ เธอไม่มีแม้กระทั่งน้ำร้อนจะอาบ ในฤดูหนาวก็ไม่มีเครื่องทำความร้อน ระบบทำความร้อนของเธอก็คือผ้านวม4ผืน เวลาจะอาบน้ำเธอต้องเอากาน้ำไปต้มบนเตาแก๊ส สัดส่วนระหว่างน้ำร้อนกับน้ำเย็นจะต้องถูกต้องในยามที่เธอยืนอยู่ในถังอาบน้ำ เธอต้องเรียนรู้ที่จะเป็นนักเคมี
เรื่องนี้ถือว่าหรูมากสำหรับเธอแล้วนะ จำบ้านหลังแรกได้ไหม? หลังที่ไม่มีแม้กระทั่งห้องน้ำ? ทุกครั้งที่เธอจะทำธุระ เธอต้องเดินไปที่เพิงเล็กนอกบ้าน
ผมบอกความลับอะไรสักอย่างให้เธอได้ไหม? ตอนที่ผมนึกถึงความหลังเหล่านี้ ผมไม่ได้รู้สึกแย่สักนิด ด้วยเหตุผลบางอย่างความทรงจำเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น มอบความกล้าให้กับผม มันเป็นความทรงจำที่สวยงาม
ไม่ต้องไปสนหรอกนะว่ามีอะไรข้างในบ้าน
จงใช้ชีวิตของเธอข้างนอกบ้านภายใต้ดวงตะวันนะ เจ้าเหม่ง...
จะว่าไปแล้วโปสเตอร์ฟุตบอลบนฝาผนังห้องของเธอมีความหมายอะไรด้วยเรอะ? ทุกๆ2ถึง3ปี ไม่ว่าจะด้วยหน้าที่การงานที่เปลี่ยนไปรึครอบครัวของเธอจ่ายค่าเช่าไม่ไหว เธอก็ต้องย้ายไปที่ใหม่ แต่รู้ไหมว่ามันดีตรงไหน? ทุกๆที่ที่เธอย้ายไปไม่ว่าจะเป็นที่ไหน มันจะมีสนามดินอยู่ข้างนอก มีลูกฟุตบอลอยู่เสมอ ไม่มีผู้ให้เช่าคนไหนในโลกที่จะพรากสิ่งนี้ไปจากเธอได้..
สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเธอตอนนี้ ถ้าความทรงจำของผมไม่ผิดเพี้ยนคงจะเป็นประตูไอศครีม
ประตูไอศครีมเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก ผมอยากเล่าให้ใครสักคนที่ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ฟังเรื่องนี้ มันเป็นความคิดอัจฉริยะของผู้จัดลีคเยาวชนที่ซัลโต้ และเปี่ยมไปด้วยแรงจูงใจ คุณจะทำอย่างไรให้กลุ่มเด็กอายุ6ขวบมีแรงจูงใจกับเกมการแข่งขันโดยไม่สนว่าผลการแข่งขันตอนนั้นเป็นยังไง?
คุณก็ตั้งกฏว่าเด็กคนที่ยิงประตูสุดท้ายในการแข่งขันนั้นจะได้รับไอศครีม
ผลการแข่งขันอาจจ่ะเป็น 8- 1 ก็ไม่มีความหมาย มันก็แค่การแข่งกับเวลาว่าใครจะเป็นคนยิงประตูสุดท้ายได้ ความรู้สึกตอนได้ยินเสียงนกหวีดสุดท้ายจากโค้ชในยามที่เธอทำประตูไอศครีมได้มันสุดยอด เปี่ยมสุข เธอจะได้รสช็อคโกแลตไหมนะ? รึเธอจะได้อันที่เป็นรูปมิกกี้เมาส์? วันนั้นทั้งวันเธอจะรู้สึกราวกับเป็นพระราชา
แน่นอนว่าเธอไม่ใช่เด็กที่มาจากเมืองหลวง พวกเด็กๆจากมอนเตวิโอ ใช้ชีวิตที่ต่างออกไป เป็นโลกที่เธอยังไม่รับรู้ของการมีอยู่ โลกที่ใส่รองเท้าอดิดาส มีรถขับ และหญ้าสีเขียว ในซัลโต มันจะต่างออกไป ด้วยเหตุผลบางประการ เด็กในซัลโตทุกคนชอบที่จะเล่นฟุตบอลเท้าเปล่า ตอนเริ่มต้นเกมพวกเขาใส่รองเท้า พอเริ่มครึ่งหลัง รองเท้าทุกคู่กองกันอยู่และทุกคนก็วิ่งเท้าเปล่า ถ้าผมลองหลับตาตอนนี้ ผมก็ยังจำความรู้สึกของดินที่ฝ่าเท้า หัวใจเต้นระรัวในตอนที่พยายามจะยิงประตูไอศครีม
เธอจะโอบอุ้มความรู้สึกพวกนี้ไว้กับตัวเธอจนชั่วชีวิต เพราะว่าเธอมาจากอเมริกาใต้ จากอุรุกวัย จากซัลโต้ เธอใช้ชีวิตกับฟุตบอลในวิถีที่ต่างออกไป เป็นทั้งพรและคำสาปของชาวอุรุกวัยที่เราจะปล่อยวางมิได้ มันคือประวัติศาสตร์ของฟุตบอลของพวกเรา มันคือเรื่องราวของประเทศ ยามที่ชาวอุรุกวัยใส่สวมใส่เสื้อทีมชาติ พวกเราจะรู้สึกภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของเรา..
พวกจะสู้และลุยไปข้างหน้าอยู่เสมอ และเธอก็จะสู้
ความฝันของเธอคืออะไรล่ะ เจ้าเหม่ง?
ผมก็จำไม่ได้กระจ่างชัดนักหรอกนะ เวลาทำให้ทุกอย่างลางเลือน
เป็นความฝันของเธอรึเปล่าที่จะเล่นให้มอนเตวิโอเหมือนกับพี่นานโด้ เธอจะทำสำเร็จนะและความรู้สึกตอนนั้นไม่ต่างอะไรกับได้เล่นแชมป์เปี้ยนลีค
เธอฝันที่จะได้ไปเล่นในยุโรปรึเปล่า? เธอจะทำได้ และสร้างรายได้มากพอที่จะเปลี่ยนชีวิตครอบครัวของเธอ
เธอฝันรึเปล่า? ว่าอยากเล่นให้กับทีมชาติ เธอจะได้เล่นให้กับทีมชาติและจะได้รับประสบการ์ณที่ทำให้ให้เธอร้องไห้ด้วยความปิติและความโทมนัส
เธอฝันรึเปล่าว่าจะได้ลงเล่นฟุตบอลโลก? (ผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับเธอหรอก ผมบอกได้แค่ว่า ปี 2010 จะเป็นปีที่บ้าคลั่ง el loco
เธอฝันใช่ไหมว่าจะทำเงินให้ได้เยอะๆ ได้ขับรถสวยๆได้นอนในโรงแรมหรู? เจ้าเหม่ง เธอจะได้ทุกอย่างที่ต้องการนะ
สิ่งที่เธอมีตอนนี้ ตอนอายุ 9 ขวบ มีอะไรบางอย่างที่ผมในวัย31ปีคิดถึงอย่างสุดใจ
เธอไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เธอไม่เงินสักเหรียญในกระเป๋า โธ่เอ๋ย เธอยังไม่มีแม้กระทั่วทรงผมเท่ๆ
แต่เธอมีบางสิ่ง บางสิ่งที่ประเมินค่ามิได้
เธอมีอิสระ..
ยามเยาว์วัย เธอได้ใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยงและเต็มไปด้วยแรงขับ แต่มันทำเช่นนั้นไม่ได้ยามเมื่อเราเติบใหญ่ เราพยายามที่จะโอบอุ้มความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้แต่ในที่สุดมันก็จะหลุดลอยไป เนื่องจากมีเรื่องมากมายให้ต้องรับผิดชอบ หลากหลายความกดดันถาโถม และต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างในมากขึ้น
ตอนอายุ31 เธอรู้ไหมว่าชีวิตส่วนใหญ่ของเธอเป็นยังไง?
เธอจะขึ้นรถบัสจากโรงแรมไปสนามซ้อม และจากสนามซ้อมเธอก็จะต้องขึ้นรถบัสไปสนามบิน จากสนามบินก็จะต้องขึ้นรถบัสอีกคันเพื่อไปสนามแข่ง
ในมุมนึงเธอได้ใช้ชีวิตตามที่ฝันไว้ แต่อีกมุมนึงเธอก็เป็นเสมือนนักโทษถูกจองจำอยู่ในความฝันนั้น เธอออกไปข้างนอกเพื่อที่สัมผัสดวงตะวันก็ไม่ได้ เธอจะถอดรองเท้าออกเพื่อสัมผัสกับพื้นดินก็ทำไม่ได้ มันเลี่ยงไม่ได้เลยที่ทุกสิ่งจะทำให้การใช้ชีวิตของเธอซับซ้อนยิ่งขึ้น
ตอนเมื่อเธอยังเด็ก เธอมีจินตภาพว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จที่สุดคือผู้ที่ได้ครอบครองมากที่สุด
ยามเมื่อเติบใหญ่ เธอจะตระหนักได้ว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแท้จริงแล้วคือคนที่รู้จักใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด..
ตอนที่เธอได้เล่นฟุตบอลอาชีพเต็มตัว เธอจะได้รับทุกอย่างที่เธอเคยฝันไว้ และเธอจะรู้สึกปลาบปลื้มกับมัน แต่ผมจะบอกเธอด้วยความสัตย์จริงนะเจ้าเหม่ง ยังมีอีกสถานที่นึงที่เธอจะได้รับความอิสระอย่างแท้จริง มันจะกินเวลาไม่เกิน 90 นาทีถ้าเธอโชคดีนะ..
ยามที่เธอสวมใส่รองเท้าฟุตบอล มันไม่สำคัญเลยว่าเธอจะเล่นที่สนามดินในซัลโต หรือบนหญ้าเขียวขจีที่เนเปิ้ล หรือต่อหน้าคนนับล้านในฟุตบอลโลก ผมอยากจะให้เธอจำคำพูดของพ่อไว้
พ่อมักจะพูดยังไงก่อนเธอลงเล่นเสมอๆ?
ผมรู้ว่าเธอรู้ว่าคือคำพูดอะไร
ท่านมักจะพูดว่า “ในยามที่เธอก้าวข้ามเส้นนั้นเข้าไปอยู่ในสนาม มันจะมีแต่ฟุตบอลเท่านั้น ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นข้างนอกเส้นสีขาวนั้นไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้ สิ่งต่างๆภายนอกล้วนไม่มีตัวตน”
ถ้าเธอฟังคำพูดของพ่อ และเชื่อมั่นกับมันประทับตราตรึงไปถึงจิตวิญญาณ บางครั้งไม่ว่าความกดดันมันจะหนักหน่วงแค่ไหน ถึงแม้ว่าเธอจะเล่นต่อหน้าคนนับล้าน ....เธอจะก้าวลงสนามและรู้สึกราวกับว่าเธอไม่ได้ใส่รองเท้า
เธอจะรู้สึกถูกดินภายใต้เท้าเท้าเปลือยเปล่า
เธอจะรู้สึกราวกับว่าหัวใจเธอเต้นจนแทบจะหลุดออกมานอกอก เธอจะวิ่งไล่ตามบอลราวกับว่ากำลังตามล่าถ้วยรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
เหมือนกับตอนที่เธอเล่นเพื่อไอศครีม
ด้วยความจริงใจอย่างที่สุด
เอดิ... 💕💕
ที่มา...
https://www.theplayerstribune.com/articles/edinson-cavani-uruguay-carta-a-mi-mismo-de-pequeno
https://www.theplayerstribune.com/articles/edinson-cavani-uruguay-letter-to-my-younger-self
......
มาแปปเดียวก็เป็นที่รักของแฟนๆแมนยู 💕💕
แฟนๆแต่งเพลงเชียร์ให้ เฮียก็โพสขอบคุณลงไอจี
นี่คือเพลงที่แฟนๆแต่งให้นะคะ
คลิปที่แฟนๆร้องเพลงให้
https://www.facebook.com/430585360316352/posts/6003903299651169/
เป็นหัวหน้าครอบครัวที่อบอุ่น💕💕
ไม่รักยังไงไหววว ❤️🌹
คิดถึงเฮีย รอเฮียคัมแบ็คเร็วๆ
+ + [GGMU]... จดหมายจาก Edi ถึง Edi ในวัย9ขวบ❤️❤️.. + +
เรื่องน่ารักดี เขียนจดหมายถึงตัวเอง😅
**ปล. หนูตั้งทู้ใหม่นะคะเนื่องจากทู้ที่แล้วหนูเขียนชื่อผิดที่หัวกระทู้🤣🤣🤣
ขออภัยในความผิดพลาดค่ะ🙏😢
Cr.แปลจากพี่นิรนามท่านนึง(พี่เค้าขอไม่ประสงค์ออกนาม😁)🙏
ถึงเอดิสันวัยเก้าขวบที่รัก...
ผมเขียนถึงเด็กคนนึงที่คนทั่วทั้งละแวกบ้านเรียกว่า เปลาโด..
เจ้าเหม่ง..
เมื่อตอนที่เธอยังแบเบาะ เธอไม่ค่อยมีผมหรอกนะมันขึ้นช้ามากเลย แย่ที่สุดและเธอก็ทำอะไรกับมันไม่ได้ เพราะอย่างนี้ล่ะเธอถึงเป็นเจ้าเหม่งของครอบครัวมาตลอด
ผมดีใจนะที่จะได้บอกกับเธอว่าในอีก20ปีข้างหน้าฟุตบอลจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอในหลายๆเรื่อง บ้างก็เป็นเรื่องที่ดี บ้างก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก ฟุตบอลจะทำให้ฉายาเจ้าเหม่งของเธอหายไป จะมีผู้ชายคนนึงที่ชื่อ"กาเบรียล บาติสตูต้า" ตอนนี้เธอยังไม่รู้จักเค้าหรอกนะเพราะว่ารายการทีวีเดียวที่เธอยอมนั่งดูคือทอมแอนด์เจอรี่ นานโด้พี่ชายของเธอจะเป็นคนแรกที่ได้แรงบันดาลใจจากบาติสตูต้า พี่เค้าจะเริ่มไม่ไปร้านตัดผม เริ่มที่จะใช้ครีมนวดผมของแม่ จากนั้นไม่นานพี่เค้าก็จะดูคล้ายกับบาติโกลผู้สง่างามยามที่เขาวิ่งในสนามฟุตบอล ผมยาวมัดรวบไว้ด้วยเชือกผูกรองเท้า นั่นมันเจ๋งที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมาเลย
ในที่สุดเธอก็รวบรวมความกล้าเพื่อที่จะบอกแม่ว่า “จะไม่ตัดผมอีกแล้ว”
เธอจะใช้ชีวิตของเธอข้างนอกบ้าน มีลูกฟุตบอลอยู่ที่เท้า ตามวิถีทางของอเมริกาใต้ เธอไม่รู้หรอกว่ามันมีอะไรที่ต่างไปจากนี้ แล้วในบ้านมีอะไรอยู่ล่ะ? ไม่มีอะไรน่าสนุกเลย ไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่มีเพลย์สเตชั่น ไม่มีทีวีจอใหญ่ เธอไม่มีแม้กระทั่งน้ำร้อนจะอาบ ในฤดูหนาวก็ไม่มีเครื่องทำความร้อน ระบบทำความร้อนของเธอก็คือผ้านวม4ผืน เวลาจะอาบน้ำเธอต้องเอากาน้ำไปต้มบนเตาแก๊ส สัดส่วนระหว่างน้ำร้อนกับน้ำเย็นจะต้องถูกต้องในยามที่เธอยืนอยู่ในถังอาบน้ำ เธอต้องเรียนรู้ที่จะเป็นนักเคมี
เรื่องนี้ถือว่าหรูมากสำหรับเธอแล้วนะ จำบ้านหลังแรกได้ไหม? หลังที่ไม่มีแม้กระทั่งห้องน้ำ? ทุกครั้งที่เธอจะทำธุระ เธอต้องเดินไปที่เพิงเล็กนอกบ้าน
ผมบอกความลับอะไรสักอย่างให้เธอได้ไหม? ตอนที่ผมนึกถึงความหลังเหล่านี้ ผมไม่ได้รู้สึกแย่สักนิด ด้วยเหตุผลบางอย่างความทรงจำเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น มอบความกล้าให้กับผม มันเป็นความทรงจำที่สวยงาม
ไม่ต้องไปสนหรอกนะว่ามีอะไรข้างในบ้าน
จงใช้ชีวิตของเธอข้างนอกบ้านภายใต้ดวงตะวันนะ เจ้าเหม่ง...
จะว่าไปแล้วโปสเตอร์ฟุตบอลบนฝาผนังห้องของเธอมีความหมายอะไรด้วยเรอะ? ทุกๆ2ถึง3ปี ไม่ว่าจะด้วยหน้าที่การงานที่เปลี่ยนไปรึครอบครัวของเธอจ่ายค่าเช่าไม่ไหว เธอก็ต้องย้ายไปที่ใหม่ แต่รู้ไหมว่ามันดีตรงไหน? ทุกๆที่ที่เธอย้ายไปไม่ว่าจะเป็นที่ไหน มันจะมีสนามดินอยู่ข้างนอก มีลูกฟุตบอลอยู่เสมอ ไม่มีผู้ให้เช่าคนไหนในโลกที่จะพรากสิ่งนี้ไปจากเธอได้..
สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเธอตอนนี้ ถ้าความทรงจำของผมไม่ผิดเพี้ยนคงจะเป็นประตูไอศครีม
ประตูไอศครีมเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก ผมอยากเล่าให้ใครสักคนที่ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ฟังเรื่องนี้ มันเป็นความคิดอัจฉริยะของผู้จัดลีคเยาวชนที่ซัลโต้ และเปี่ยมไปด้วยแรงจูงใจ คุณจะทำอย่างไรให้กลุ่มเด็กอายุ6ขวบมีแรงจูงใจกับเกมการแข่งขันโดยไม่สนว่าผลการแข่งขันตอนนั้นเป็นยังไง?
คุณก็ตั้งกฏว่าเด็กคนที่ยิงประตูสุดท้ายในการแข่งขันนั้นจะได้รับไอศครีม
ผลการแข่งขันอาจจ่ะเป็น 8- 1 ก็ไม่มีความหมาย มันก็แค่การแข่งกับเวลาว่าใครจะเป็นคนยิงประตูสุดท้ายได้ ความรู้สึกตอนได้ยินเสียงนกหวีดสุดท้ายจากโค้ชในยามที่เธอทำประตูไอศครีมได้มันสุดยอด เปี่ยมสุข เธอจะได้รสช็อคโกแลตไหมนะ? รึเธอจะได้อันที่เป็นรูปมิกกี้เมาส์? วันนั้นทั้งวันเธอจะรู้สึกราวกับเป็นพระราชา
แน่นอนว่าเธอไม่ใช่เด็กที่มาจากเมืองหลวง พวกเด็กๆจากมอนเตวิโอ ใช้ชีวิตที่ต่างออกไป เป็นโลกที่เธอยังไม่รับรู้ของการมีอยู่ โลกที่ใส่รองเท้าอดิดาส มีรถขับ และหญ้าสีเขียว ในซัลโต มันจะต่างออกไป ด้วยเหตุผลบางประการ เด็กในซัลโตทุกคนชอบที่จะเล่นฟุตบอลเท้าเปล่า ตอนเริ่มต้นเกมพวกเขาใส่รองเท้า พอเริ่มครึ่งหลัง รองเท้าทุกคู่กองกันอยู่และทุกคนก็วิ่งเท้าเปล่า ถ้าผมลองหลับตาตอนนี้ ผมก็ยังจำความรู้สึกของดินที่ฝ่าเท้า หัวใจเต้นระรัวในตอนที่พยายามจะยิงประตูไอศครีม
เธอจะโอบอุ้มความรู้สึกพวกนี้ไว้กับตัวเธอจนชั่วชีวิต เพราะว่าเธอมาจากอเมริกาใต้ จากอุรุกวัย จากซัลโต้ เธอใช้ชีวิตกับฟุตบอลในวิถีที่ต่างออกไป เป็นทั้งพรและคำสาปของชาวอุรุกวัยที่เราจะปล่อยวางมิได้ มันคือประวัติศาสตร์ของฟุตบอลของพวกเรา มันคือเรื่องราวของประเทศ ยามที่ชาวอุรุกวัยใส่สวมใส่เสื้อทีมชาติ พวกเราจะรู้สึกภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของเรา..
พวกจะสู้และลุยไปข้างหน้าอยู่เสมอ และเธอก็จะสู้
ความฝันของเธอคืออะไรล่ะ เจ้าเหม่ง?
ผมก็จำไม่ได้กระจ่างชัดนักหรอกนะ เวลาทำให้ทุกอย่างลางเลือน
เป็นความฝันของเธอรึเปล่าที่จะเล่นให้มอนเตวิโอเหมือนกับพี่นานโด้ เธอจะทำสำเร็จนะและความรู้สึกตอนนั้นไม่ต่างอะไรกับได้เล่นแชมป์เปี้ยนลีค
เธอฝันที่จะได้ไปเล่นในยุโรปรึเปล่า? เธอจะทำได้ และสร้างรายได้มากพอที่จะเปลี่ยนชีวิตครอบครัวของเธอ
เธอฝันรึเปล่า? ว่าอยากเล่นให้กับทีมชาติ เธอจะได้เล่นให้กับทีมชาติและจะได้รับประสบการ์ณที่ทำให้ให้เธอร้องไห้ด้วยความปิติและความโทมนัส
เธอฝันรึเปล่าว่าจะได้ลงเล่นฟุตบอลโลก? (ผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับเธอหรอก ผมบอกได้แค่ว่า ปี 2010 จะเป็นปีที่บ้าคลั่ง el loco
เธอฝันใช่ไหมว่าจะทำเงินให้ได้เยอะๆ ได้ขับรถสวยๆได้นอนในโรงแรมหรู? เจ้าเหม่ง เธอจะได้ทุกอย่างที่ต้องการนะ
สิ่งที่เธอมีตอนนี้ ตอนอายุ 9 ขวบ มีอะไรบางอย่างที่ผมในวัย31ปีคิดถึงอย่างสุดใจ
เธอไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เธอไม่เงินสักเหรียญในกระเป๋า โธ่เอ๋ย เธอยังไม่มีแม้กระทั่วทรงผมเท่ๆ
แต่เธอมีบางสิ่ง บางสิ่งที่ประเมินค่ามิได้
เธอมีอิสระ..
ยามเยาว์วัย เธอได้ใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยงและเต็มไปด้วยแรงขับ แต่มันทำเช่นนั้นไม่ได้ยามเมื่อเราเติบใหญ่ เราพยายามที่จะโอบอุ้มความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้แต่ในที่สุดมันก็จะหลุดลอยไป เนื่องจากมีเรื่องมากมายให้ต้องรับผิดชอบ หลากหลายความกดดันถาโถม และต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างในมากขึ้น
ตอนอายุ31 เธอรู้ไหมว่าชีวิตส่วนใหญ่ของเธอเป็นยังไง?
เธอจะขึ้นรถบัสจากโรงแรมไปสนามซ้อม และจากสนามซ้อมเธอก็จะต้องขึ้นรถบัสไปสนามบิน จากสนามบินก็จะต้องขึ้นรถบัสอีกคันเพื่อไปสนามแข่ง
ในมุมนึงเธอได้ใช้ชีวิตตามที่ฝันไว้ แต่อีกมุมนึงเธอก็เป็นเสมือนนักโทษถูกจองจำอยู่ในความฝันนั้น เธอออกไปข้างนอกเพื่อที่สัมผัสดวงตะวันก็ไม่ได้ เธอจะถอดรองเท้าออกเพื่อสัมผัสกับพื้นดินก็ทำไม่ได้ มันเลี่ยงไม่ได้เลยที่ทุกสิ่งจะทำให้การใช้ชีวิตของเธอซับซ้อนยิ่งขึ้น
ตอนเมื่อเธอยังเด็ก เธอมีจินตภาพว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จที่สุดคือผู้ที่ได้ครอบครองมากที่สุด
ยามเมื่อเติบใหญ่ เธอจะตระหนักได้ว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแท้จริงแล้วคือคนที่รู้จักใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด..
ตอนที่เธอได้เล่นฟุตบอลอาชีพเต็มตัว เธอจะได้รับทุกอย่างที่เธอเคยฝันไว้ และเธอจะรู้สึกปลาบปลื้มกับมัน แต่ผมจะบอกเธอด้วยความสัตย์จริงนะเจ้าเหม่ง ยังมีอีกสถานที่นึงที่เธอจะได้รับความอิสระอย่างแท้จริง มันจะกินเวลาไม่เกิน 90 นาทีถ้าเธอโชคดีนะ..
ยามที่เธอสวมใส่รองเท้าฟุตบอล มันไม่สำคัญเลยว่าเธอจะเล่นที่สนามดินในซัลโต หรือบนหญ้าเขียวขจีที่เนเปิ้ล หรือต่อหน้าคนนับล้านในฟุตบอลโลก ผมอยากจะให้เธอจำคำพูดของพ่อไว้
พ่อมักจะพูดยังไงก่อนเธอลงเล่นเสมอๆ?
ผมรู้ว่าเธอรู้ว่าคือคำพูดอะไร
ท่านมักจะพูดว่า “ในยามที่เธอก้าวข้ามเส้นนั้นเข้าไปอยู่ในสนาม มันจะมีแต่ฟุตบอลเท่านั้น ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นข้างนอกเส้นสีขาวนั้นไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้ สิ่งต่างๆภายนอกล้วนไม่มีตัวตน”
ถ้าเธอฟังคำพูดของพ่อ และเชื่อมั่นกับมันประทับตราตรึงไปถึงจิตวิญญาณ บางครั้งไม่ว่าความกดดันมันจะหนักหน่วงแค่ไหน ถึงแม้ว่าเธอจะเล่นต่อหน้าคนนับล้าน ....เธอจะก้าวลงสนามและรู้สึกราวกับว่าเธอไม่ได้ใส่รองเท้า
เธอจะรู้สึกถูกดินภายใต้เท้าเท้าเปลือยเปล่า
เธอจะรู้สึกราวกับว่าหัวใจเธอเต้นจนแทบจะหลุดออกมานอกอก เธอจะวิ่งไล่ตามบอลราวกับว่ากำลังตามล่าถ้วยรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
เหมือนกับตอนที่เธอเล่นเพื่อไอศครีม
ด้วยความจริงใจอย่างที่สุด
เอดิ... 💕💕
ที่มา...
https://www.theplayerstribune.com/articles/edinson-cavani-uruguay-carta-a-mi-mismo-de-pequeno
https://www.theplayerstribune.com/articles/edinson-cavani-uruguay-letter-to-my-younger-self
......
มาแปปเดียวก็เป็นที่รักของแฟนๆแมนยู 💕💕
แฟนๆแต่งเพลงเชียร์ให้ เฮียก็โพสขอบคุณลงไอจี
นี่คือเพลงที่แฟนๆแต่งให้นะคะ
คลิปที่แฟนๆร้องเพลงให้
https://www.facebook.com/430585360316352/posts/6003903299651169/
เป็นหัวหน้าครอบครัวที่อบอุ่น💕💕
ไม่รักยังไงไหววว ❤️🌹
คิดถึงเฮีย รอเฮียคัมแบ็คเร็วๆ