ทนไม่ไหวจนต้องขอรีวิว You are my glory เกียรติยศของกันและกัน

You Are My Glory ชื่อไทยว่า ดุจดวงดาวเกียรติยศ
ซีรี่ส์แนวโรแมนติก/คอมเมดี้ (ถ้าชอบแนวดราม่าบทซับซ้อนพลิกปมไปมา ให้ข้ามไปเลยค่ะ มีประมาณ 1 ช้อนชา)
นำแสดงโดย หยางหยางและตี๋ลี่เร่อปา

เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของเพื่อนเก่าสมัยมัธยมปลาย ที่ตอนวัยเรียนนางเอกได้สารภาพรักกับพระเอก (เด็กเทพของชั้น) แต่โดนปฏิเสธด้วยประโยค "อยากได้คนที่พยายามไปด้วยกัน" เวลาผ่านไปสิบปี นางเอกกลายเป็นซุปตาร์ระดับท็อปของวงการ แต่ดันรับงานพรีเซนเตอร์เกมแล้วโดนลงคลิปแฉว่าเล่นห่วย เลยต้องรีบหาวิธีมาฝึกฝีมือเพื่อไปแข่งแมตซ์บันเทิงในอีเว้นท์เดือนหน้า เลยเอาแอคหลุมที่สร้างไว้ตอนม.ปลายมาฝึกเล่นเกม ป๊ะมาเจอพระเอกที่ลาพักร้อนและอยู่ในระยะหักเหของชีวิตพอดี (เพื่อทบทวนตัวเองว่าระหว่างการทำอาชีพที่ใฝ่ฝันหรือกลับมาเริ่มต้นใหม่ในวัย 30 ทำงานที่สร้างเงินและมีเวลามาดูแลพ่อแม่ดี) จากความบังเอิญในครั้งนี้ นางเอกของเราก็เขียนบทต่อให้พระเอกมาเจอ และก่อเป็นเรื่องราวต่อมา



ดูจบตั้งแต่วันจันทร์ จ่ายฟาสสองอาทิตย์ 120 บาท วนเก็บรายละเอียดอีก 1 อาทิตย์
อยากชักชวนให้คนที่เทเรื่องนี้ไปแต่แรก คนที่ยังไม่ดู และคนที่ข้ามตอนไปดูตอนยี่สิบกว่าๆ เลย
กลับมาเปิดใจดูเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนแรกอีกสักครั้ง และส่วนตัวก็อยากเก็บไว้เป็นบันทึกความประทับใจของตัวเองด้วย
(สำหรับคนที่ไม่ใชแนวดูแล้วไม่คลิกไม่อินอันนี้เข้าใจค่ะ เป็นเรื่องธรรมดา ปล่อยข้ามไปนะคะ)

ขอรีวิวเป็นสิ่งที่ชอบในเรื่องนี้ตามลำดับความชอบเลย

1. คู่พระนาง ฉายาเบ้าหน้าฟ้าประทาน


นักแสดงระดับแถวหน้าของจีนมาเจอกันครั้งแรก สารภาพว่าตอนแรกคิดว่าเคมีกับการแสดงก็คงงั้นๆ (ขอโทษ ฟค ด้วยค่ะ ตบปากตัวเองแล้ว)
เคยดูผลงานของฝ่ายชายมาสามเรื่อง ความรู้สึกส่วนตัวเราว่าเล่นแข็งไป ดูเก๊กไปนิด (ขอโทษ ฟค ด้วย คราวนี้ตบหน้าตัวเองแล้วค่ะ)
ส่วนเร่อปาตามดูเกือบทุกเรื่อง ชีเล่นดราม่าได้ แต่เรื่องนี้ก็คาดไว้ว่าคงมาแนวใสๆ แบบปกติ อ่านนิยายจบนานแล้วก็เดาไว้ประมาณนี้ 
ปรากฏว่าผิดคาดมากถึงมากที่สุด หยางหยางมาแบบจัดเต็มทั้งงานสายตา ท่าทาง และน้ำเสียง ดูโตจากเรื่องอื่นๆ มาก (จะไปเก็บให้หมด)
ผู้ชายเบ้าหน้าแบบนี้ แสดงแววตาแต่ละทีแบบโอยยยยยยยยยยยยยยย 
แล้วเร่อปาคือนอกจากเสียงสองแล้วมีเสียงสามเสียงสี่ อ้อนยังไงให้พอดี อ่อยยังไงให้เค้ารู้แต่ไม่ปฏิเสธ แบ๊วยังไงให้ไม่น่ารำคาญ
เล่นยังไงให้ดูไม่แอ๊บไม่พยายาม มาดูนางเรื่องนี้เลยค่ะ



นางเอกในเรื่อง เป็นตัวละครที่ชอบมากที่สุด อีคิวสูงมากดีเว่อร์ มีความขี้อ้อน ขี้เล่น แต่มีเหตุผล เป็นดาวนำทางให้พระเอกได้ดีมาก



ทั้งสองคนเล่นได้เรียลมาก จนแทบไม่ใช่การแสดง แต่เป็นตัวเค้าเอง ไหลลื่นดีมาก ภาษากายดีมาก
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเก็บเรียบหมด ไม่รู้จะอวยทั้งคู่ยังไงให้สมกับที่รู้สึก ธรรมชาติมาก ไม่มากไม่น้อยเกินไป
เราตามหยางหยางเรื่องแรกคือเวยเวย เป็นเรื่องที่ชอบเพราะบท (พระเอกหล่อ) เราชอบซีรี่ส์ที่เดินเรื่องค่อยเป็นค่อยไป
แต่เวยเวยมันติดตรงนางเอกเล่นเลิฟซีนได้แข็งมาก และหุ่น (ผอมเว่อมากกกก) ก็ตรงกันข้ามกับในนิยายมันเลยไม่สุด
ต่างกับเรื่องนี้ นอกจากแคสตรงแล้ว ฉากเลิฟซีนพอพระเอกรุก นางเอกก็สู้กลับนะคะ ทันกันมาก เร่อปาเต็มที่มาก

ข้อเสียคือเบ้าหน้าของทั้งคู่ มันเพลินตาเพลินใจจนทำให้บางทีเผลอไม่อ่านซับ มัวแต่มอง
แล้วต้องย้อนวนมาดูใหม่ เก็บความสวยหล่ออีก บางตอนจากครึ่งชั่วโมง เสียเวลาชั่วโมงกว่า (เป็นข้อเสียนะคะเนี่ย)  
แล้วฉากเห็นหน้าคู่ มีสองตา ไม่รู้จะแบ่งไปมองใครก่อน ฉากแต่งงานฉากเดียวคือวนเป็นชั่วโมง



เคมีของทั้งคู่ก็แบบบรรยายไม่ถูก เห็นหลายเม้นจากหลายเพจบอกว่าเทเพราะผ่านไปสิบตอนไม่เห็นจูบกอดกันเลย
เราเลยรู้สึกว่าเค้าคงคนละรสนิยมกับเรา เพราะแค่เค้านั่งเก้าอี้ตัวเดียวกัน ไม่ต้องมีส่วนไหนสัมผัสกัน เราก็เคลิ้มแล้วค่ะ
เราชอบช่วงตอนแรกที่เค้าค่อยๆ ทำความรู้จักกันไม่แพ้ช่วงตอนหลังเลย เพลินตาเพลินใจไปหมด



2. บทละคร
เรื่องนี้สร้างมาจากนวนิยายของนักเขียนชื่อดัง "กู้ม่าน" ที่แม่ลงมาเขียนบทเองคุมงานเอง อยู่กองถ่ายทุกวัน
ตอนเขียนมีการเข้าไปศึกษาขอข้อมูลกับสถาบันอวกาศของจีนเพื่อความสมจริง และใครที่คิดว่าขายเกมเพราะ TC นี่ไม่ใช่นะจ๊ะ
ตอนเขียนเรื่องนี้กู้ม่านต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ทางเกมเพื่อเอามาตีพิมพ์ด้วย
แล้วพอคนเขียนนิยายมาเขียนบทเอง สิ่งที่ได้คือไม่มีการออกทะเลเลย แฟนนิยายปลาบปลื้มกันถ้วนหน้า



จากใจคอนิยาย ซีรี่ส์ที่ทำดีกว่านิยายหายากยิ่งกว่างมเข็มในทะเล และเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำออกมาดีกว่าในนิยาย
ใครที่อ่านนิยายและชอบ ขอบอกว่าให้รีบมาดูด่วนค่ะ เก็บครบเก้าสิบเปอเซ็นต์ แถมมีโบนัสนอกจากหนังสือที่เจ้าแม่กู้ม่านประทานให้อีก
ผู้กำกับหวังจือก็เป็นสายเน้นเก็บรายละเอียด เคยแสดงฝีมือในเรื่อง "ฉันไม่ชอบทั้งโลกฉันชอบแค่เธอคนเดียว"
ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องที่เราดูแล้วประทับใจมากเหมือนกัน ดูจากสองเรื่องนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่าจุดเด่นของผู้กำกับคนนี้
คือความละมุนลึกซึ้งในแต่ละฉาก และการเดินเรื่องที่ค่อยเป็นค่อยไป (อาจไม่ตรงใจกับรสนิยมของคนที่ชอบความหวือหวาและกระชับมากนัก)





เรื่อง You are my glory มีการค่อยๆ ไต่ระดับความสัมพันธ์ของพระ-นาง ไม่ใช่แนวพบหน้าแล้วรักกันเลย
(ช่วงนี้เราเบื่อแนวพระเอกพ่อบุญทุ่มเจอปุ๊บรักปั๊บตามเปย์) แต่พัฒนาจากเพื่อนเก่าที่ไม่เจอหน้ากันสิบปีไปเป็นคนแอบชอบ
เป็นเพื่อนไม่จริงที่แอบตกกันและกัน มาเป็นแฟนกัน และเป็นคู่สามีภรรยาที่ซัพพอร์ตซึ่งกันและกันมาหลายปีจนความฝันของอีกฝ่ายเป็นจริง
ไม่มีการงี่เง่างอนไปมา จังหวะนรกแตก ชอบอุบอิบเก็บกดอมไว้ในปาก
มันคือความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่ที่ต้องใช้ความอดทน เชื่อใจ และเสียสละในการรักษามันไว้ 



แนวนี้สมัยนี้มีไม่เยอะ เราชอบที่มีการเดินเรื่องหลังจากที่ตกลงปลงใจกันแล้ว แสดงให้เห็นว่าเค้าอยู่กันยังไง
รักษาความสัมพันธ์ที่มีข้อจำกัดมากมายกันยังไง เป็นรักแบบผู้ใหญ่วัยทำงาน
และถ้าดูมาตั้งแต่แรกโดยไม่ข้ามไปหาแต่ฉากฟินๆ จะยิ่งฟินยิ่งซึ้งกับความรักของคู่นี้มากยิ่งขึ้น 



ที่สำคัญอีกอย่างนึง จะเห็นว่าช่วงหลังซีรี่ส์จีนเน้นการสร้างแรงบันดาลใจให้คนสมัยใหม่ เสริมความภูมิใจให้คนรักชาติ
ซึ่งเค้า Base On มาตั้งแต่นิยายอยู่แล้ว แต่ของไทย ทุกวันนี้ละครมีแต่รีเมค และก็ทำแต่แนว... นิยายไทยส่วนใหญ่ก็แบบ....
(ไม่อยากลงลึก เอาเป็นว่ารู้กันนะคะ) 



ดูเรื่องนี้แล้วมันตื้นตันอ่ะ ภูมิใจในชาติเค้าเลย ยิ่งถ้าไม่กดข้ามช่วงลงดีเทลงานพระเอก ทุกคนจะต้องภูมิใจไปกับอวี๋ถูเหมือนเราเป็นจิงจิง
มันเป็น Soft Power ที่เค้าทำดีมากกกกกกกก ซีรี่ส์รักที่ปล่อยจรวดเลยนะ
ประทับใจประโยคนี้มาก "เงินเป็นพันล้าน และชีวิตนับสิบปีของคนนับหมื่นที่ทุ่มเทไป"



3. โปรดักชั่น

แม้ว่าจะเป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ แต่ทุนสร้างสูงมาก โปรดักชั่นดีมาก
ดูแล้วรู้เลยว่างานละเอียดดดดดมาก และทีมงานตั้งใจมากแค่ไหน ซีจีอลังการเกินไปมาก (อันนี้น่าจะเพื่อโปรโมทเกมด้วย)
ฉากทุกฉาก บ้านนางเอก บ้านพระเอก บ้านญาติๆ และเพื่อน ฉากกองถ่ายหนังของนางเอก มีการลงรายละเอียดแบบใส่ใจ
แต่ที่ชอบมากสุดคือซีนไซด์งานที่ทะเลทรายของพระเอกและฉากแต่งงาน



4. คอสตูม


ถ้าใครตามซีรี่ส์จีน จะพบว่ามีหลายเรื่องที่คอสตูมจะบ้งๆ ตลอด แต่เรื่องนี้ไม่เลยค่า มีการจัดมู้ดโทนของแต่ละตัวละครด้วย ของนางเอกนี่ชุดกับเครื่องประดับดีงามมาก แต่ที่เราชอบมากกลับเป็นชุดนอนคู่ มันน่าฮักแท้

5. เพลงประกอบ
ดีงามมาก จนต้องไปส่องประวัตินักร้อง ซาวด์ประกอบก็งาม จังหวะดีมาก แถมปลุกใจอีก (ทำไมต้องปลุกใจ ซีรี่ส์โรแมนติกนะเนี่ย)
เพลงประกอบซีนไซด์งานที่ทะเลทรายช่วงท้ายตอน 17 และซีนไคลแมกซ์ของเรื่องในตอนจบ
เป็นหนึ่งในหลายที่ประทับใจทั้งกับฉาก เพลง และอารมณ์
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

6. นักแสดงตัวประกอบและดารารับเชิญ
พระรองนางรองของเรื่องนี้เป็นแค่ดารารับเชิญนะคะ ไม่มีซีนใหญ่ๆ แต่เชิญระดับพระเอกนางเอกมาหมด เพื่อนนางเอก คู่ปรับนางเอก เพื่อนพระเอก เป็นดาราแถวหน้าทั้งนั้น อึ้งมากกับอู๋เชี่ยน TC จัดเต็มมากจริงๆ ไม่นับคอนเท้นโปรโมทล้านแปดที่ยังมีมาไม่จบ 


หลายๆ คนที่เทด้วยเหตุผล
-พระเอกจน 
คือตอนนี้ซีรี่ส์ร้อยละแปดสิบพระเอกรวยเว่อร์ เปย์นางเอกตลอดก็เยอะแล้ว หันมาเปิดใจกับมนุษย์เงินเดือนสักนิดก็ดีนะคะ 

-ไม่เข้าใจเรื่องเกมส์
เนื่องจากช่วงแรกประมาณ 13 ep มีการใช้เกมส์เป็นสื่อกลางในการสร้างความสัมพันธ์ของพระนาง หลายคนไม่เล่นเกมก็เลยอาจจะงงๆ เราก็ไม่เล่นเกมนี้ค่ะ แต่รู้สึกสนุกมาก แถมมีการทำภาพซีจีดีเว่อล้านแปดอีก ที่ยกให้เป็นที่สุดอีกซีนหนึ่งคือตอนแข่งขันกัน นึกว่าดูการแข่งจริงๆ เลยค่ะ ทำสนุกมากกกกกก ทั้งบรรยากาศ บทพูดที่เรียล ทีมนักพากย์เกมที่สมจริง (ขออนุญาตบอกว่าสนุกกว่าฉากแข่งเกมของซีรี่ส์แนวอีสปอร์ตอีกนะ)


ถ้าถามว่ามีจุดติมั้ย มีอยู่แล้ว แต่มันเล็กน้อยมาก (สำหรับเราที่ขัดใจนิดๆ คือเมคอัพนางเอกบางตอน) แต่จุดดีมันมากกว่าเยอะมากจนกลบได้หมด เป็นซีรี่ส์อีกเรื่องหนึ่งที่ตอนจบสมบูรณ์แบบมาก คนดูรู้สึกเต็มอิ่ม ปริ่มใจไปกับชีวิตของทั้งคู่ เหมือนรู้สึกร่วมเดินทางกับพวกเค้ามาตั้งแต่แรก จนพวกเค้าประสบความสำเร็จทั้งด้านความรัก ความฝัน และความหวัง (จินตนาการต่อเองว่า โปรเจคที่ตั้งไว้จบแล้วก็ปั้นลูกสาวต่อตามแพลนนะจ๊ะ) 

สรุปคือ ประทับใจมาก ขอขอบคุณนักแสดงทุกคน ผู้กำกับ คนเขียนบท และทีมงานเบื้องหลังที่ตั้งใจทำเรื่องนี้ออกมา
เป็นความสุขกับชีวิตในช่วงนี้มาก ยกขึ้นหิ้งในใจอีกเรื่อง 
ลองเปิดใจดูนะคะ ถือซะว่ามาดูหน้าพระนางเพลินๆ ฆ่าเวลาก่อนก็ได้ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่