เราจ้างแม่บ้านมาเพราะอยากให้มาทำงานบ้าน
สถานะเราคือมีลูกเล็กต้องเลี้ยงลูกเองและดูแลลูกไม่มีพี่เลี้ยง ส่วนแม่บ้านคนนี้คนที่ 3
2 คนแรกมาทำงานพร้อมกับจับได้ว่าขโมยของและชอบนินทา อู้งานจึงให้ออก
คนที่ 3 เป็นแม่บ้านที่มีนิสัยออกห้าวหน่อยๆ เรื่องนินทาว่าลับหลังหรือขี้ขโมยของไม่มีแน่นอนไว้ใจได้
เธอมาทำงานเป็นแม่บ้านให้ก็ 2 ปีได้แล้วค่ะ
แต่ปัญหาที่ทำให้เรารู้สึกเครียดแล้วเป็นภาระทางกายและใจคือ เธอชอบทำงานมีปัญหาเล็กๆน้อยๆบ่อย จนบางครั้งเราตามแก้ให้แทบไม่ไหว เช่น รีดผ้าไหม้ ล้างจานช้อนมีคราบข้าวคราบไข่ติดให้เห็นประจำ เราก็ต้องเอาออกมาล้างเอง รวมไปถึงขวดน้ำของลูกจะหยิมมาใช้ทีเราต้องเอามาล้างใหม่อยู่ทุกครั้ง เพราะเธอล้างฟองซัลไลไม่หมดโดนน้ำทีฟูฟ่องเป็นฟอง เอาให้เธอดูก็มองผ่านเหมือนคิดว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแล้วก็เป็นแบบเดิมหลายครั้ง ใช้สิ่งของใช้งานผิดประเภทเช่นใช้แปรงขัดพื้นมาขัดชักโครกอ่างอาบน้ำจนเป็นรอยขูดขีดร่องลึกเราบอกให้เปลี่ยนแต่ก็ยังแอบใช้อยู่ และชอบเถียง ใช้มือเปล่าขัดห้องน้ำ อ่างล้างหน้าเพราะคิดว่ามือสะอาดที่สุดทั้งที่แปรงมีครบทุกรูปแบบแต่ก็ไม่ใช้ เราเห็นก็บอกว่าใช้แปรงสิคะเข้าซอกซอยได้ดีกว่าก็เถียงว่าลงทุนใช้มือเลยเราก็ขี้เกียจพูดก็ปล่อยผ่านแล้วต้องมานั่งทำเองตอนมีเวลา ชอบทำข้าวของพังแม้กระทั่งที่แขวนกระดาษทิชชู่ในห้องน้ำก็บิดขนมันหลุดออกจากตัวเสียบ เอาน้ำยาเช็ดคราบกระจกไปเช็ดผิดประเภทกระเบื่องเป็นลายด่าง ไม้ถูอย่างดีสำหรับซื้อใช้ถูภายในบ้านเราซื้อมาให้ใช้เพราะเธอนะบุมาเองอยากได้ที่ไม่ต้องใช้มือบีบ เป็นถังยกขึ้นลงถูกเปลี่ยนน้ำได้สบายนานๆใช้ทีผ่านไป3 เดือนพัง จัดข้าวของไม่ค่อยเป็นระเบียบจนต้องมาจัดให้อยู่บ่อยๆ ไม่เคยเช็ดตู้แต่ใช้วิธีดูดฝุ่น เราแนะนำให้นำผ้าชุบน้ผสมน้ำยานิดหน่อย ซึ้งผ้าที่ซื้อให้ก็เป็นผ้าสำหรับเช็ดเครื่องของใช้อยู่แล้วมีมากกว่า 20 ผืนแต่ก็ไม่เอามาใช้เช็ด จะดูดแค่ฝุ่นบอกว่าเดียวเป็นขน เราก็ไม่อยากไปยุ่งจนบางครั้ง หลังพาลูกเข้านอนเสร็จเราต้องออกมาเช็ดเอง รวมไปถึงพื้นบ้าน บ้านมี 3 ชั้นเธอก็ใช้ไม้ถูพื้นอันเดียว ถูตั้งแต่ชั้น 3 ลงมาชั้น 1 โดยไม่เปลี่ยนน้ำล้างผ้าถูเลยสักครั้ง เราสาธิตวิธีให้เธอดู เธอก็น้อยใจร้องไห้บอกว่าจะขอลาออก แต่พื้นมันเหนียว แฟนเราก็ทักตลอดว่าเหยียบแล้วไม่สบายเท้า จากที่เธอร้องไห้เราก็ต้องขอโทษนางอีก โอ่ย…..!!! เราแค่ต้องการให้พื้นมันสะอาดเพราะลูกเรายังเล็ก ชอบนอนกลิ้งที่พื้นแต่ด้วยความรู้สึกสงสานแม่บ้านคนนี้ที่นางก็มีลูกเยอะ อีกทั้งยังไม่เคยขโมยข้าวของหรือเอาไปนินทาก็เลยยอมๆไป
แต่ช่วงหลายๆเดือนที่ผ่านมามันเริ่มรู้สึกอึดอัด เราเริ่มไม่ไหวที่ต้องคอยทำซ้ำจากที่แม่บ้านทำแล้วเพราะมันไม่เรียบร้อย ลูกก็กำลังซน แม่ยังต้องมาวุ่นทำงานบ้านต่อซ้ำอีก ทั้งซักผ้า ล้างจานใหม่ ถูพื้นตอนกลางคืน ล้างห้องน้ำเพราะกลิ่นน้ำยาฉุนมาก ถ้างมาทีนึงฟองเพียบ เราเริ่มอึดอัดที่จะบอกแฟนดีไหมเพราะแฟนเราไม่เคยทราบปัญหานี้ ก็เกรงว่าจะทำให้แฟนต้องมาว่าเราเรื่องมากอีกที่จะเปลี่ยนแม่บ้าน ยิ่งเป็นช่วงสถาณการณ์โควิดจะไว้ใจใครก็ยาก จริงๆถ้าพูดถึงความซื่อสัตย์นั้นแม่บ้านคนนี้ก็ผ่าน แต่ถ้าพูดถึงคุณภาพงาน เราหนักใจและเริ่มไม่ไหวแล้ว
จะทำเองลูกก็อยู่ในวัยซนไม่มีคนช่วยดู จะหาคนใหม่ก็กังวลเรื่องสถานการณ์โรคระบาดและมิจฉาชีพ จะไปต่อก็ต้องทนเครียด หรือจะหาทางพูดกับแม่บ้านคนนี้ ให้ปรับปรุง และใจเย็นค่อยๆทำ เราเองก็บอกเธอมาโดยตลอดแต่ก็เป็นเหมือนเดิม เหมือนเธอมีกระบวนการทางความคิดแปลกๆ
หรือเราเองที่ต้องการพื้นที่สะอาดไป
ตอนนี้เราคิดหนักที่จะหาวิธีพูดกับเธอใหม่ควรจ้างต่อ หรือพอแค่นี้
ทำไม่แม่บ้านช่วงแรกถึงตั้งใจทำงาน แต่พอผ่านไปสักช่วงหนึ่งเริ่มเถียงและทำความสะอาดไม่ดีเหมือนเดิม
สถานะเราคือมีลูกเล็กต้องเลี้ยงลูกเองและดูแลลูกไม่มีพี่เลี้ยง ส่วนแม่บ้านคนนี้คนที่ 3
2 คนแรกมาทำงานพร้อมกับจับได้ว่าขโมยของและชอบนินทา อู้งานจึงให้ออก
คนที่ 3 เป็นแม่บ้านที่มีนิสัยออกห้าวหน่อยๆ เรื่องนินทาว่าลับหลังหรือขี้ขโมยของไม่มีแน่นอนไว้ใจได้
เธอมาทำงานเป็นแม่บ้านให้ก็ 2 ปีได้แล้วค่ะ
แต่ปัญหาที่ทำให้เรารู้สึกเครียดแล้วเป็นภาระทางกายและใจคือ เธอชอบทำงานมีปัญหาเล็กๆน้อยๆบ่อย จนบางครั้งเราตามแก้ให้แทบไม่ไหว เช่น รีดผ้าไหม้ ล้างจานช้อนมีคราบข้าวคราบไข่ติดให้เห็นประจำ เราก็ต้องเอาออกมาล้างเอง รวมไปถึงขวดน้ำของลูกจะหยิมมาใช้ทีเราต้องเอามาล้างใหม่อยู่ทุกครั้ง เพราะเธอล้างฟองซัลไลไม่หมดโดนน้ำทีฟูฟ่องเป็นฟอง เอาให้เธอดูก็มองผ่านเหมือนคิดว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแล้วก็เป็นแบบเดิมหลายครั้ง ใช้สิ่งของใช้งานผิดประเภทเช่นใช้แปรงขัดพื้นมาขัดชักโครกอ่างอาบน้ำจนเป็นรอยขูดขีดร่องลึกเราบอกให้เปลี่ยนแต่ก็ยังแอบใช้อยู่ และชอบเถียง ใช้มือเปล่าขัดห้องน้ำ อ่างล้างหน้าเพราะคิดว่ามือสะอาดที่สุดทั้งที่แปรงมีครบทุกรูปแบบแต่ก็ไม่ใช้ เราเห็นก็บอกว่าใช้แปรงสิคะเข้าซอกซอยได้ดีกว่าก็เถียงว่าลงทุนใช้มือเลยเราก็ขี้เกียจพูดก็ปล่อยผ่านแล้วต้องมานั่งทำเองตอนมีเวลา ชอบทำข้าวของพังแม้กระทั่งที่แขวนกระดาษทิชชู่ในห้องน้ำก็บิดขนมันหลุดออกจากตัวเสียบ เอาน้ำยาเช็ดคราบกระจกไปเช็ดผิดประเภทกระเบื่องเป็นลายด่าง ไม้ถูอย่างดีสำหรับซื้อใช้ถูภายในบ้านเราซื้อมาให้ใช้เพราะเธอนะบุมาเองอยากได้ที่ไม่ต้องใช้มือบีบ เป็นถังยกขึ้นลงถูกเปลี่ยนน้ำได้สบายนานๆใช้ทีผ่านไป3 เดือนพัง จัดข้าวของไม่ค่อยเป็นระเบียบจนต้องมาจัดให้อยู่บ่อยๆ ไม่เคยเช็ดตู้แต่ใช้วิธีดูดฝุ่น เราแนะนำให้นำผ้าชุบน้ผสมน้ำยานิดหน่อย ซึ้งผ้าที่ซื้อให้ก็เป็นผ้าสำหรับเช็ดเครื่องของใช้อยู่แล้วมีมากกว่า 20 ผืนแต่ก็ไม่เอามาใช้เช็ด จะดูดแค่ฝุ่นบอกว่าเดียวเป็นขน เราก็ไม่อยากไปยุ่งจนบางครั้ง หลังพาลูกเข้านอนเสร็จเราต้องออกมาเช็ดเอง รวมไปถึงพื้นบ้าน บ้านมี 3 ชั้นเธอก็ใช้ไม้ถูพื้นอันเดียว ถูตั้งแต่ชั้น 3 ลงมาชั้น 1 โดยไม่เปลี่ยนน้ำล้างผ้าถูเลยสักครั้ง เราสาธิตวิธีให้เธอดู เธอก็น้อยใจร้องไห้บอกว่าจะขอลาออก แต่พื้นมันเหนียว แฟนเราก็ทักตลอดว่าเหยียบแล้วไม่สบายเท้า จากที่เธอร้องไห้เราก็ต้องขอโทษนางอีก โอ่ย…..!!! เราแค่ต้องการให้พื้นมันสะอาดเพราะลูกเรายังเล็ก ชอบนอนกลิ้งที่พื้นแต่ด้วยความรู้สึกสงสานแม่บ้านคนนี้ที่นางก็มีลูกเยอะ อีกทั้งยังไม่เคยขโมยข้าวของหรือเอาไปนินทาก็เลยยอมๆไป
แต่ช่วงหลายๆเดือนที่ผ่านมามันเริ่มรู้สึกอึดอัด เราเริ่มไม่ไหวที่ต้องคอยทำซ้ำจากที่แม่บ้านทำแล้วเพราะมันไม่เรียบร้อย ลูกก็กำลังซน แม่ยังต้องมาวุ่นทำงานบ้านต่อซ้ำอีก ทั้งซักผ้า ล้างจานใหม่ ถูพื้นตอนกลางคืน ล้างห้องน้ำเพราะกลิ่นน้ำยาฉุนมาก ถ้างมาทีนึงฟองเพียบ เราเริ่มอึดอัดที่จะบอกแฟนดีไหมเพราะแฟนเราไม่เคยทราบปัญหานี้ ก็เกรงว่าจะทำให้แฟนต้องมาว่าเราเรื่องมากอีกที่จะเปลี่ยนแม่บ้าน ยิ่งเป็นช่วงสถาณการณ์โควิดจะไว้ใจใครก็ยาก จริงๆถ้าพูดถึงความซื่อสัตย์นั้นแม่บ้านคนนี้ก็ผ่าน แต่ถ้าพูดถึงคุณภาพงาน เราหนักใจและเริ่มไม่ไหวแล้ว
จะทำเองลูกก็อยู่ในวัยซนไม่มีคนช่วยดู จะหาคนใหม่ก็กังวลเรื่องสถานการณ์โรคระบาดและมิจฉาชีพ จะไปต่อก็ต้องทนเครียด หรือจะหาทางพูดกับแม่บ้านคนนี้ ให้ปรับปรุง และใจเย็นค่อยๆทำ เราเองก็บอกเธอมาโดยตลอดแต่ก็เป็นเหมือนเดิม เหมือนเธอมีกระบวนการทางความคิดแปลกๆ
หรือเราเองที่ต้องการพื้นที่สะอาดไป
ตอนนี้เราคิดหนักที่จะหาวิธีพูดกับเธอใหม่ควรจ้างต่อ หรือพอแค่นี้