ข้อดี-ข้อเสียของ 6 วัสดุต่อเติมหลังคาหน้าบ้าน
1. หลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet Roof)
หลังคาสังกะสี หรือ หลังคาเหล็กรีดลอน เป็นหลังคาแบบทึบแสงที่ได้รับความนิยมสูง ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากหลังคาแบบสังกะสี ตัวหลังคาเป็นแผ่นเหล็กที่ถูกเคลือบด้วยโลหะผสมอลูมิเนียม นำมารีดและขึ้นรูปจนกลายมาเป็นหลังคาเมทัลชีท
ข้อดีของหลังคาเมทัลชีท คือ มีน้ำหนักค่อนข้างเบา ทำให้สามารถติดตั้งได้ง่าย และสามารถดัดโค้งให้เข้ากับรูปทรงตัวบ้านแบบต่าง ๆ ได้ง่าย มีหลายสีให้เลือกใช้ ทำให้ดูกลมกลืนเข้ากับหลังคาเดิมของบ้านได้ง่าย ทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี ไม่ค่อยเกิดปัญหาสนิม ทำให้ไม่ค่อยมีปัญหาน้ำรั่วซึมครับ
ข้อเสียของหลังคาเมทัลชีท คือ ตัววัสดุค่อนข้างบางจึงอาจเสียรูปทรงได้ง่าย เวลาฝนตกจะเกิดเสียงดังรบกวนคล้ายหลังคาสังกะสี และบริเวณใต้กันสาดจะเกิดการสะสมความร้อนได้ง่าย จึงต้องบุฉนวนกันความร้อนเพิ่มเติม หรือเลือกใช้หลังคาเมทัลชีทรุ่นที่มีฉนวนในตัวอยู่แล้วครับ
2. หลังคา UPVC และ APVC
เป็นหลังคาที่นำ PVC มาผลิตเป็นหลังคาแบบใหม่เป็นหลังคา UPVC ที่มีความแข็งแรงทนทานมากกว่า แต่หากเป็นหลังคา APVC จะเป็นการนำเอา UPVC มาเคลือบสาร Antioxidant ให้มีความทนทานมากขึ้น ป้องกันสีซีดจางเร็ว รวมถึงเคลือบสารป้องกันรังสี UV เพื่อให้สามารถทนต่อความร้อนได้ดีครับ
ข้อดีของหลังคา UPVC และ APVC คือ ตัวแผ่นหลังคาจะมี PVC ถึง 3 ชั้น โดยตรงกลางจะเป็นฉนวนกันความร้อนทำให้มีความทนทาน สามารถกันความร้อนได้และดูดซับเสียงฝนได้ดี รวมถึงมีทั้งแบบทึบและแบบโปร่งแสงให้เลือกใช้งาน
ข้อเสียของหลังคา UPVC และ APVC คือ มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหลังคาเมทัลชีท และด้วยความที่เป็นวัสดุ PVC จึงจำเป็นต้องให้ช่างที่มีความชำนาญมาติดตั้ง เพื่อรองรับการขยายตัว
3. หลังคาไฟเบอร์กลาส (Fiberglass Roof)
เป็นวัสดุที่ผลิตจากใยแก้วและโพลีเอสเตอร์ชนิดพิเศษ ทำให้แผ่นหลังคาค่อนข้างโปร่งใสและเห็นใยแก้วได้อย่างชัดเจน เหมาะกับบ้านที่มีหลากหลายรูปทรง หรือบ้านที่ต้องการให้มีแสงสว่างสาดส่อง ไม่ดูทึบจนเกินไป
ข้อดีของหลังคาไฟเบอร์กลาส คือ มีความแข็งแรงทานทาน หยืดหยุ่นได้ดี ทำให้สามารถดัดโค้งเป็นทรงต่าง ๆ ได้ง่าย ติดตั้งง่าย และมีอัตราการขยายตัวที่ค่อนข้างต่ำ
ข้อเสียของหลังคาไฟเบอร์กลาส คือ แผ่นหลังคามีความบางพอสมควร จึงดูดซับเสียงฝนได้น้อย ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนเวลาฝนตกค่อนข้างมาก และความบางของแผ่นนี่เองที่อาจทำให้เกิดการแตกหัก หรือเปิดได้ง่าย
4. หลังคาไวนิล (Poly Vinyl Chloride)
หลังคาไวนิล (Poly Vinyl Chloride) หรือ หลังคา PVC เป็นหลังคาที่ทำจากวัสดุพลาสติกประเภทหนึ่งที่มีคุณสมบัติค่อนข้างเบา ทนทาน สามารถป้องกันรังสี UV และความร้อนได้ดี สามารถยืดขยายตัวได้สูง นิยมนำมาต่อเติมหลังคาบ้านแบบโมเดิร์นที่เน้นความเรียบง่าย ไม่หวือหวา
ข้อดีของหลังคาไวนิล คือ มีน้ำหนักเบา สามารถกันความร้อนได้ดีโดยไม่ต้องบุฉนวนกันความร้อนเพิ่ม ติดตั้งได้ง่าย สามารถใช้สกรูได้แทบทุกรูปแบบ
ข้อเสียของหลังคาไวนิล คือ เมื่อผ่านการใช้งานไปนาน ๆ สีอาจหมองลงได้ ในส่วนการติดตั้งต้องมีระยะโครงสร้างที่ได้มาตรฐาน เพราะต้องเผื่อระยะการขยายตัวในอนาคต รวมถึงมีราคาค่อนข้างสูงครับ
5. หลังคาโพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate Roof)
เป็นหลังคาที่ค่อนข้างโปร่ง สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งแบบโปร่งแสง โปร่งใส และแบบทึบแสง โดยตัวหลังคาใช้วัสดุเหมือนกันกับหลังคาไวนิล แต่จะแตกต่างกันตรงที่หลังคาโพลีคาร์บอเนตจะมีความเหนียวและแข็ง สามารถยึดเกาะได้ดีกว่าหลังคาไวนิล ตัวหลังคามี 2 ประเภท คือ แบบลูกฟูก 2 ชั้น ที่มีช่องอากาศตรงกลาง ซึ่งได้รับความนิยมสูง และแบบตัน ซึ่งมีทั้งผิวใสและผิวเปลือกส้ม
ข้อดีของหลังคาโพลีคาร์บอเนต คือ สวยงาม น้ำหนักค่อนข้างเบา มีการเคลือบสาร UV เพื่อช่วยในการดูดซับแสง ทำให้มีประสิทธิภาพดีมากขึ้น โดยเฉพาะแบบลูกฟูกที่มีช่องระบายอากาศจะทำให้ไม่สะสมความร้อนจนเกินไปครับ
ข้อเสียของหลังคาโพลีคาร์บอเนต คือ ตัววัสดุค่อนข้างเสื่อมสภาพไว ทำให้อาจเกิดปัญหาหลังคารั่วได้ง่าย อีกทั้งหลังคาแบบลูกฟูกอาจเกิดไอน้ำขึ้นบริเวณช่องอากาศตรงกลาง ทำให้เกิดตะไคร่น้ำได้ง่าย ทำให้ดูขุ่นมัว ไม่สวยงาม
6. หลังคาอะคริลิก (Acrylic Roof)
เป็นหลังคามีผิวเรียบ มันเงา และโปร่งแสงคล้ายกระจก จึงเหมาะกับบ้านที่ต้องการต่อเติมหลังคาแบบที่ยังต้องการให้มีแสงส่องเข้ามา ไม่ทึบจนเกินไป ซึ่งค่อนข้างเหมาะกับบ้านหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์โมเดิร์น โมเดิร์นลอฟท์ รวมไปถึงบ้านสไตล์ร่วมสมัยด้วยครับ
ข้อดีของหลังคาอะคริลิก คือ สามารถป้องกันรังสี UV และรังสีอินฟราเรดได้ดี ทนทานต่อความร้อน แข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี แต่น้อยกว่าหลังคาโพลีคาร์บอเนต มีความใสเทียบเท่ากระจก สามารถเข้ากับหลังคาบ้านได้หลากหลายแบบ
ข้อเสียของหลังคาอะคริลิก คือ มีราคาค่อนข้างสูง ต้องติดตั้งจากอุปกรณ์เฉพาะเท่านั้น เป็นหลังคาที่มีความยืดหยุ่นน้อย สามารถขยายตัวได้มาก จึงต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดำเนินการติดตั้งให้เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง
http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง
https://bit.ly/3dQm4XE
ข้อดี-ข้อเสียของ 6 วัสดุต่อเติมหลังคาหน้าบ้าน
1. หลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet Roof)
หลังคาสังกะสี หรือ หลังคาเหล็กรีดลอน เป็นหลังคาแบบทึบแสงที่ได้รับความนิยมสูง ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากหลังคาแบบสังกะสี ตัวหลังคาเป็นแผ่นเหล็กที่ถูกเคลือบด้วยโลหะผสมอลูมิเนียม นำมารีดและขึ้นรูปจนกลายมาเป็นหลังคาเมทัลชีท
ข้อดีของหลังคาเมทัลชีท คือ มีน้ำหนักค่อนข้างเบา ทำให้สามารถติดตั้งได้ง่าย และสามารถดัดโค้งให้เข้ากับรูปทรงตัวบ้านแบบต่าง ๆ ได้ง่าย มีหลายสีให้เลือกใช้ ทำให้ดูกลมกลืนเข้ากับหลังคาเดิมของบ้านได้ง่าย ทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี ไม่ค่อยเกิดปัญหาสนิม ทำให้ไม่ค่อยมีปัญหาน้ำรั่วซึมครับ
ข้อเสียของหลังคาเมทัลชีท คือ ตัววัสดุค่อนข้างบางจึงอาจเสียรูปทรงได้ง่าย เวลาฝนตกจะเกิดเสียงดังรบกวนคล้ายหลังคาสังกะสี และบริเวณใต้กันสาดจะเกิดการสะสมความร้อนได้ง่าย จึงต้องบุฉนวนกันความร้อนเพิ่มเติม หรือเลือกใช้หลังคาเมทัลชีทรุ่นที่มีฉนวนในตัวอยู่แล้วครับ
2. หลังคา UPVC และ APVC
เป็นหลังคาที่นำ PVC มาผลิตเป็นหลังคาแบบใหม่เป็นหลังคา UPVC ที่มีความแข็งแรงทนทานมากกว่า แต่หากเป็นหลังคา APVC จะเป็นการนำเอา UPVC มาเคลือบสาร Antioxidant ให้มีความทนทานมากขึ้น ป้องกันสีซีดจางเร็ว รวมถึงเคลือบสารป้องกันรังสี UV เพื่อให้สามารถทนต่อความร้อนได้ดีครับ
ข้อดีของหลังคา UPVC และ APVC คือ ตัวแผ่นหลังคาจะมี PVC ถึง 3 ชั้น โดยตรงกลางจะเป็นฉนวนกันความร้อนทำให้มีความทนทาน สามารถกันความร้อนได้และดูดซับเสียงฝนได้ดี รวมถึงมีทั้งแบบทึบและแบบโปร่งแสงให้เลือกใช้งาน
ข้อเสียของหลังคา UPVC และ APVC คือ มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหลังคาเมทัลชีท และด้วยความที่เป็นวัสดุ PVC จึงจำเป็นต้องให้ช่างที่มีความชำนาญมาติดตั้ง เพื่อรองรับการขยายตัว
3. หลังคาไฟเบอร์กลาส (Fiberglass Roof)
เป็นวัสดุที่ผลิตจากใยแก้วและโพลีเอสเตอร์ชนิดพิเศษ ทำให้แผ่นหลังคาค่อนข้างโปร่งใสและเห็นใยแก้วได้อย่างชัดเจน เหมาะกับบ้านที่มีหลากหลายรูปทรง หรือบ้านที่ต้องการให้มีแสงสว่างสาดส่อง ไม่ดูทึบจนเกินไป
ข้อดีของหลังคาไฟเบอร์กลาส คือ มีความแข็งแรงทานทาน หยืดหยุ่นได้ดี ทำให้สามารถดัดโค้งเป็นทรงต่าง ๆ ได้ง่าย ติดตั้งง่าย และมีอัตราการขยายตัวที่ค่อนข้างต่ำ
ข้อเสียของหลังคาไฟเบอร์กลาส คือ แผ่นหลังคามีความบางพอสมควร จึงดูดซับเสียงฝนได้น้อย ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนเวลาฝนตกค่อนข้างมาก และความบางของแผ่นนี่เองที่อาจทำให้เกิดการแตกหัก หรือเปิดได้ง่าย
4. หลังคาไวนิล (Poly Vinyl Chloride)
หลังคาไวนิล (Poly Vinyl Chloride) หรือ หลังคา PVC เป็นหลังคาที่ทำจากวัสดุพลาสติกประเภทหนึ่งที่มีคุณสมบัติค่อนข้างเบา ทนทาน สามารถป้องกันรังสี UV และความร้อนได้ดี สามารถยืดขยายตัวได้สูง นิยมนำมาต่อเติมหลังคาบ้านแบบโมเดิร์นที่เน้นความเรียบง่าย ไม่หวือหวา
ข้อดีของหลังคาไวนิล คือ มีน้ำหนักเบา สามารถกันความร้อนได้ดีโดยไม่ต้องบุฉนวนกันความร้อนเพิ่ม ติดตั้งได้ง่าย สามารถใช้สกรูได้แทบทุกรูปแบบ
ข้อเสียของหลังคาไวนิล คือ เมื่อผ่านการใช้งานไปนาน ๆ สีอาจหมองลงได้ ในส่วนการติดตั้งต้องมีระยะโครงสร้างที่ได้มาตรฐาน เพราะต้องเผื่อระยะการขยายตัวในอนาคต รวมถึงมีราคาค่อนข้างสูงครับ
5. หลังคาโพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate Roof)
เป็นหลังคาที่ค่อนข้างโปร่ง สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งแบบโปร่งแสง โปร่งใส และแบบทึบแสง โดยตัวหลังคาใช้วัสดุเหมือนกันกับหลังคาไวนิล แต่จะแตกต่างกันตรงที่หลังคาโพลีคาร์บอเนตจะมีความเหนียวและแข็ง สามารถยึดเกาะได้ดีกว่าหลังคาไวนิล ตัวหลังคามี 2 ประเภท คือ แบบลูกฟูก 2 ชั้น ที่มีช่องอากาศตรงกลาง ซึ่งได้รับความนิยมสูง และแบบตัน ซึ่งมีทั้งผิวใสและผิวเปลือกส้ม
ข้อดีของหลังคาโพลีคาร์บอเนต คือ สวยงาม น้ำหนักค่อนข้างเบา มีการเคลือบสาร UV เพื่อช่วยในการดูดซับแสง ทำให้มีประสิทธิภาพดีมากขึ้น โดยเฉพาะแบบลูกฟูกที่มีช่องระบายอากาศจะทำให้ไม่สะสมความร้อนจนเกินไปครับ
ข้อเสียของหลังคาโพลีคาร์บอเนต คือ ตัววัสดุค่อนข้างเสื่อมสภาพไว ทำให้อาจเกิดปัญหาหลังคารั่วได้ง่าย อีกทั้งหลังคาแบบลูกฟูกอาจเกิดไอน้ำขึ้นบริเวณช่องอากาศตรงกลาง ทำให้เกิดตะไคร่น้ำได้ง่าย ทำให้ดูขุ่นมัว ไม่สวยงาม
6. หลังคาอะคริลิก (Acrylic Roof)
เป็นหลังคามีผิวเรียบ มันเงา และโปร่งแสงคล้ายกระจก จึงเหมาะกับบ้านที่ต้องการต่อเติมหลังคาแบบที่ยังต้องการให้มีแสงส่องเข้ามา ไม่ทึบจนเกินไป ซึ่งค่อนข้างเหมาะกับบ้านหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์โมเดิร์น โมเดิร์นลอฟท์ รวมไปถึงบ้านสไตล์ร่วมสมัยด้วยครับ
ข้อดีของหลังคาอะคริลิก คือ สามารถป้องกันรังสี UV และรังสีอินฟราเรดได้ดี ทนทานต่อความร้อน แข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี แต่น้อยกว่าหลังคาโพลีคาร์บอเนต มีความใสเทียบเท่ากระจก สามารถเข้ากับหลังคาบ้านได้หลากหลายแบบ
ข้อเสียของหลังคาอะคริลิก คือ มีราคาค่อนข้างสูง ต้องติดตั้งจากอุปกรณ์เฉพาะเท่านั้น เป็นหลังคาที่มีความยืดหยุ่นน้อย สามารถขยายตัวได้มาก จึงต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดำเนินการติดตั้งให้เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE