
ศบค.เปิดข้อมูล ฉีดวัคซีนไขว้ซิโนแวค-แอสตร้า ภูมิขึ้นเกือบ 4 เท่า
วันที่ 16 ส.ค.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ว่า แผนการให้วัคซีน ตอนนี้ใช้วัคซีนโควิดไปแล้ว 23,592,227 โดส ผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม 17,996,826 คน ครอบคลุมร้อยละ 25 ผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม 5,109,476 คน ครอบคลุมร้อยละ 7.1 ผู้ได้รับวัคซีนไขว้เข็ม 1 และ 2 ระหว่างซิโนแวคกับแอสตร้าฯ 974,563 คน และผู้ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วยแอสตร้า 195,520 คน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อตรวจสอบผลการฉีดไขว้เข็ม 1 และ 2 ระหว่างซิโนแวคกับซิโนแวค จำนวน 79 คน พบภูมิขึ้น 1,006 ส่วนกลุ่มต่อมาฉีดแอสตร้าฯ กับแอสตร้าฯ จำนวน 80 คน พบภูมิ 1,207 และกลุ่มฉีดซิโนแวคกับแอสตร้า จำนวน 77 คน พบกระตุ้นภูมิ 3,962 ซึ่งมากกว่ากลุ่มที่ฉีดด้วยซิโนแวคกับซิโนแวค และแอสตร้าฯ กับแอสตร้าฯ โดยมากกว่าเกือบ 4 เท่า
https://siamrath.co.th/n/271968

รัฐเคลียร์ปมสั่ง‘ซิโนแวค’เพิ่ม12ล้านโดส ยันสิ้นปีวัคซีนมาครบ 100 ล้านโดส
วันอังคาร ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 16.48 น.
รัฐบาลยันสิ้นปีนี้วัคซีนเข้ามาครบ 100 ล้านโดสแน่ แจงสั่ง “ซิโนแวค” เพิ่ม 12 ล้านโดส เพราะมีงานวิจัยการันตี ฉีดไขว้ทำให้ภูมิสูงถึง 4 เท่า สามารถป้องเดลต้าได้
17 สิงหาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มอบหมายนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามที่สื่อมวลชนถึงเหตุผลของรัฐบาลในการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่ม ทั้งที่ทราบอยู่แล้วว่าประสิทธิภาพไม่เพียงพอ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ศบค.สั่งซื้อซิโนแวคเพิ่ม 12 ล้านโดส เผย‘ฉีดไขว้’แอสตร้าฯภูมิขึ้นสูง 4 เท่า)
นายอนุชา กล่าวว่า มีเหตุผลด้านการวิจัยและการเก็บข้อมูลมารองรับ เนื่องจากตั้งแต่องค์การอนามัยโลกได้มีการอนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบบไขว้ชนิด ทางประเทศไทยจึงเริ่มมีการฉีดวัคซีนแบบไขว้และเก็บข้อมูลมาซึ่งข้อมูลที่ได้พบว่า ถ้าเป็นผู้ที่ฉีดซิโนแวคเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 จะมีภูมิต่ำกว่าการฉีดแอสตราเซเนกา 2 เข็ม และจากการเก็บข้อมูลพบว่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 1 ไขว้ด้วยแอสตราเซเนกา เข็มที่ 2 จะทำให้ภูมิขึ้นมาสูงกว่า การฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ถึง 4 เท่า และสามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลต้าได้ด้วย จึงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ประเทศไทยจะเริ่มฉีดวัคซีนในลักษณะนี้ ในผู้ที่ยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน ระหว่างรอวัคซีน mRNA ที่จะมาในช่วงปลายเดือน กันยายน หรือต้นตุลาคมนี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีรพ.เฉลิมพระเกียรติ ฉีดวัคซีนไฟเซอร์บูสเตอร์เข็ม 3 ให้ภรรยาผอ.รพ.และกรณีแพทย์จ.นครศรีธรรมราช นำญาติที่ไม่ใช่บุคลากรด่านหน้ามาฉีดวัคซีนไฟเซอร์ กรณีแบบนี้จะจัดการอย่างไร นายอนุชา กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการให้ทางจังหวัดสอบสวนตั้งคณะกรรมการขึ้นมา รวมถึงให้สาธารณสุขจังหวัดเข้ามาตรวจสอบ และต้องพิจารณาว่าหากตรวจสอบแล้วมีความผิดจริงก็ต้องดำเนินการลงโทษตามระเบียบวินัยต่อไป ย้ำว่ารัฐบาลไม่มีการให้นโยบายฉีดให้กับ VIP แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า แผนการจัดหาวัคซีนประเทศไทยจะได้ฉีดให้ประชากรให้คลอบคลุมทุกกลุ่มภายในสิ้นปีนี้แน่นอนหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ปัจจุบันการฉีดวัคซีน มีข้อมูลว่าฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 24 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 ประมาณ 18.3 ล้านโดส เข็มที่ 2 ประมาณ 5.2 ร้านโดส และบูสเตอร์เข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และด่านหน้าประมาณ 500,000 โดส โดยคาดการณ์ว่าภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ จะสามารถฉีดได้ถึง 30 ล้านโดส โดยภายในเดือนนี้มีการฉีดระหว่างช่วงวันที่ 6 สิงหาคมได้สูงถึง 600,000 โดสต่อวัน เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับวัคซีนที่จะเข้ามา ซึ่งสามารถเพิ่มศักยภาพในการฉีดได้
“ยืนยันว่าจะมีวัคซีนเข้ามาครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ เพราะฉะนั้นในช่วง 3 เดือนสุดท้ายตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม จะมีศักยภาพในการฉีดมากกว่า 15 ล้านโดส ต่อเดือน อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย” นายอนุชา กล่าว
https://www.naewna.com/local/595592

วัคซีนเข้าข้างลุงตู่ ลุงตู่อยากช่วยชีวิตประชาชน
เมื่อวัคซีนมารวมพลังกัน ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น เป็นมหัศจรรย์ทางวิชาการน่าทึ่งเลยค่ะ
ลุงตู่มีความดี มีเหตุให้เกิดปาฏิหาริย์ มีสิ่งที่ดีเกิดขึ้นช่วยลุงตู่ ทำงานอย่างกับเป็นซุปเปอร์ฮีโร่
ขอบคุณ คุณหมอ ยง ที่ได้วิจัยพบสิ่งนี้ ท่านคือผู้เชี่ยวชาญประสาทความรู้เรื่องวัคซีน
ลุงตู่ทำดีต้องได้รับกรรมดี นี่คือเรื่องเหนือความคาดหมายของกลุ่มโจมตีรัฐบาล
ล้มลุงเพราะเรื่องวัคซีนโควิดไม่ได้ ฝ่ายค้านจะล้มคว่ำเสียเอง โดนประชาชนยี้
เชียร์ลุงตู่ไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ...
🎀มาลาริน/วัคซีนเข้าข้างลุงตู่..ซิโนแวค รวมพลังแอสตร้าฯ กลายเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ประสิทธิภาพสูง ช่วยลุงตู่ได้ดีเยี่ยมเลยค่ะ
วันที่ 16 ส.ค.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ว่า แผนการให้วัคซีน ตอนนี้ใช้วัคซีนโควิดไปแล้ว 23,592,227 โดส ผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม 17,996,826 คน ครอบคลุมร้อยละ 25 ผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม 5,109,476 คน ครอบคลุมร้อยละ 7.1 ผู้ได้รับวัคซีนไขว้เข็ม 1 และ 2 ระหว่างซิโนแวคกับแอสตร้าฯ 974,563 คน และผู้ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วยแอสตร้า 195,520 คน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อตรวจสอบผลการฉีดไขว้เข็ม 1 และ 2 ระหว่างซิโนแวคกับซิโนแวค จำนวน 79 คน พบภูมิขึ้น 1,006 ส่วนกลุ่มต่อมาฉีดแอสตร้าฯ กับแอสตร้าฯ จำนวน 80 คน พบภูมิ 1,207 และกลุ่มฉีดซิโนแวคกับแอสตร้า จำนวน 77 คน พบกระตุ้นภูมิ 3,962 ซึ่งมากกว่ากลุ่มที่ฉีดด้วยซิโนแวคกับซิโนแวค และแอสตร้าฯ กับแอสตร้าฯ โดยมากกว่าเกือบ 4 เท่า
https://siamrath.co.th/n/271968
วันอังคาร ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 16.48 น.
รัฐบาลยันสิ้นปีนี้วัคซีนเข้ามาครบ 100 ล้านโดสแน่ แจงสั่ง “ซิโนแวค” เพิ่ม 12 ล้านโดส เพราะมีงานวิจัยการันตี ฉีดไขว้ทำให้ภูมิสูงถึง 4 เท่า สามารถป้องเดลต้าได้
17 สิงหาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มอบหมายนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามที่สื่อมวลชนถึงเหตุผลของรัฐบาลในการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่ม ทั้งที่ทราบอยู่แล้วว่าประสิทธิภาพไม่เพียงพอ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ศบค.สั่งซื้อซิโนแวคเพิ่ม 12 ล้านโดส เผย‘ฉีดไขว้’แอสตร้าฯภูมิขึ้นสูง 4 เท่า)
นายอนุชา กล่าวว่า มีเหตุผลด้านการวิจัยและการเก็บข้อมูลมารองรับ เนื่องจากตั้งแต่องค์การอนามัยโลกได้มีการอนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบบไขว้ชนิด ทางประเทศไทยจึงเริ่มมีการฉีดวัคซีนแบบไขว้และเก็บข้อมูลมาซึ่งข้อมูลที่ได้พบว่า ถ้าเป็นผู้ที่ฉีดซิโนแวคเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 จะมีภูมิต่ำกว่าการฉีดแอสตราเซเนกา 2 เข็ม และจากการเก็บข้อมูลพบว่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 1 ไขว้ด้วยแอสตราเซเนกา เข็มที่ 2 จะทำให้ภูมิขึ้นมาสูงกว่า การฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ถึง 4 เท่า และสามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลต้าได้ด้วย จึงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ประเทศไทยจะเริ่มฉีดวัคซีนในลักษณะนี้ ในผู้ที่ยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน ระหว่างรอวัคซีน mRNA ที่จะมาในช่วงปลายเดือน กันยายน หรือต้นตุลาคมนี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีรพ.เฉลิมพระเกียรติ ฉีดวัคซีนไฟเซอร์บูสเตอร์เข็ม 3 ให้ภรรยาผอ.รพ.และกรณีแพทย์จ.นครศรีธรรมราช นำญาติที่ไม่ใช่บุคลากรด่านหน้ามาฉีดวัคซีนไฟเซอร์ กรณีแบบนี้จะจัดการอย่างไร นายอนุชา กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการให้ทางจังหวัดสอบสวนตั้งคณะกรรมการขึ้นมา รวมถึงให้สาธารณสุขจังหวัดเข้ามาตรวจสอบ และต้องพิจารณาว่าหากตรวจสอบแล้วมีความผิดจริงก็ต้องดำเนินการลงโทษตามระเบียบวินัยต่อไป ย้ำว่ารัฐบาลไม่มีการให้นโยบายฉีดให้กับ VIP แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า แผนการจัดหาวัคซีนประเทศไทยจะได้ฉีดให้ประชากรให้คลอบคลุมทุกกลุ่มภายในสิ้นปีนี้แน่นอนหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ปัจจุบันการฉีดวัคซีน มีข้อมูลว่าฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 24 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 ประมาณ 18.3 ล้านโดส เข็มที่ 2 ประมาณ 5.2 ร้านโดส และบูสเตอร์เข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และด่านหน้าประมาณ 500,000 โดส โดยคาดการณ์ว่าภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ จะสามารถฉีดได้ถึง 30 ล้านโดส โดยภายในเดือนนี้มีการฉีดระหว่างช่วงวันที่ 6 สิงหาคมได้สูงถึง 600,000 โดสต่อวัน เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับวัคซีนที่จะเข้ามา ซึ่งสามารถเพิ่มศักยภาพในการฉีดได้
“ยืนยันว่าจะมีวัคซีนเข้ามาครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ เพราะฉะนั้นในช่วง 3 เดือนสุดท้ายตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม จะมีศักยภาพในการฉีดมากกว่า 15 ล้านโดส ต่อเดือน อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย” นายอนุชา กล่าว
https://www.naewna.com/local/595592
เมื่อวัคซีนมารวมพลังกัน ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น เป็นมหัศจรรย์ทางวิชาการน่าทึ่งเลยค่ะ
ลุงตู่มีความดี มีเหตุให้เกิดปาฏิหาริย์ มีสิ่งที่ดีเกิดขึ้นช่วยลุงตู่ ทำงานอย่างกับเป็นซุปเปอร์ฮีโร่
ขอบคุณ คุณหมอ ยง ที่ได้วิจัยพบสิ่งนี้ ท่านคือผู้เชี่ยวชาญประสาทความรู้เรื่องวัคซีน
ลุงตู่ทำดีต้องได้รับกรรมดี นี่คือเรื่องเหนือความคาดหมายของกลุ่มโจมตีรัฐบาล
ล้มลุงเพราะเรื่องวัคซีนโควิดไม่ได้ ฝ่ายค้านจะล้มคว่ำเสียเอง โดนประชาชนยี้
เชียร์ลุงตู่ไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ...