Saucony Endorphin speed2 Reverie
โทนสี ขาว ดำ ฟ้า ลวดลาย พริ้วๆ ซิ่งๆ
รองเท้ามี technology อะไรบ้าง
1. โฟม PWRRUNPB ช่วย cushioning เนื้อโฟมช่วย absorb แรงกระแทก และมีความเด้งในตัว ในขณะที่โฟมมีน้ำหนักไม่มากนัก (245g,10.5us)
เบามากกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน zoom fly3, tempo next% ก็ร่วมๆ 300g ที่เบอร์ 10.5usเท่ากัน (เปรียบเทียบกับรองเท้าที่ผมมีนะครับ)
speed2 หนักกว่าpro2 10gและหนักกว่า speed1 5g
รองเท้ามี Offset: 8mm (35.5mm/27.5mm)
2. มี nylon plate เต็มความยาวทำหน้าแบบ carbon plate ช่วยเพิ่มแรงดีด สปริง แรงส่งในจังหวะ strike แต่นุ่มนวลกว่ารุ่นpro ช่วยประหยัดแรงได้
ลองบิดรองเท้าแบบtwist และแบบงอครึ่ง ดูการสปริง รองเท้ามีแรงต้านๆ และสปริงพอๆกับzoomfly3 งอครึ่งได้สบาย
ต่างกับพวก super shoe ที่มีcarbonพวกนั้นงอได้ยากมาก
3. SPEEDROLL Technology ช่วยให้เราโน้มตัวไปข้างหน้าได้ง่าย เพื่อความได้เปรียบเชิงกล ง่ายมากเวลาวิ่งที่จะวิ่งให้เร็ว ใส่เดินจะเดินยากหน่อยนึง
4. Upper ปรับปรุง fitting ใหม่ให้มี FORMFIT โอบเท้าได้ดี แต่ยังคงความสบาย ผ้าEngineered mono-mesh ทำให้เบา ระบายอากาศได้ดี ผมสังเกตุว่ามันมีพื้นที่เหลือให้เท้าส่ายได้น้อยกว่า endorphin pro2 นิดนึง ที่เบอร์10.5 เบอร์เดียวกัน อันนี้ขอลอง ของเพื่อนมา
5. XT-900 outsole ช่วยให้พื้นทนทานมาก แต่ยังสร้าง traction ดี (รุ่น1มี feed back ว่าลื่น) แต่น่าจะเหมือนเดิม เพราะยางแบบเดียวกัน
6. Heel counter ปรับปรุงใหม่ให้มั่นคง แข็งแรงกว่าเดิม และมีการสะท้อนแสง พอมันแน่นหนากว่า มันเลยมีพื้นที่เหลือให้ปลายนิ้วเท้าเหลือ ก่อนจะชน น้อยลง น่าจะประมาณ เกือบ0.5 cm เลยทำให้รองเท้าคู่นี้สำหรับผม ออกแนวsnug fit นิ้วไม่ชน ผูกเชือกแบบ lace lockยิ่ง มั่นคง
วิ่งจริงเป็นไงบ้าง แค่เดินก็สัมผัสการrollได้แร่ะ โน้มตัวไปด้านหน้า รองเท้าช่วยเราเทตัวไปข้างหน้าง่ายๆ
ช่วง3kmแรก pace6 warm ทั้งคนทั้งรองเท้า ถือว่าเป็นช่วงนวดmidsoleล่ะกัน รู้สึกว่าไม่ได้นุ่มเท่าไหร่แต่ไม่ได้แข็งสะท้าน ผ่าน5km pace5.5 เริ่มรู้สึกถึงความนุ่มของพื้นมากขึ้น
kmที่ 6 ใช้ pace5.3 รองเท้าตอบสนองได้ดีครับ ด้วยความที่มาทางเบา ถึงจะไม่ได้เบาขนาด super shoes ทำให้เร่งง่าย เร่งได้ตามแรงเรา ควงขาสนุก
kmที่7 ใช้ pace 4.5 โหสนุกขึ้น ครับ เพราะเราstrike แรงขึ้น แรงกดที่รองเท้ามากขึ้น ทำให้สัมผ้สถึง energy return แต่มันไม่ได้ นุ่มเด้งแบบ nike next%อะไรขนาดนั้น ถือว่าเป็นรองเท้าที่กลางๆในด้านนุ่มเด้ง แต่ในด้าน ดี วิ่งมั่นคงมากครับ ใส่แล้วสบาย ถือว่าเป็นรองเท้าที่ stackสูง แต่วิ่งเลี้ยวแล้ว เท้ากับรองเท้า เป็นอันเดียวกันได้ดีมากๆ
8-10 km กลับมา easy pace 5ปลายๆ ถึง 6ต้นๆ ก็ยังสบายๆไปเรื่อยๆ
ลอง10km อีกรอบ คราวนี้เปลี่ยนเส้นทางวิ่งบ้าง รอบที่แล้ววิ่งเส้นกาญจนาล้วนๆ มีแต่คอนกรีต รอบนี้วิ่งออกกาญจนา ตัดเข้าซอย เพื่อออก ถนนพุทธมณฑณสาย1 มีทางราดยางเพื่อดู respond ของรองเท้า
สัมผัสจากการวิ่ง ไม่ต่างจากเดิมครับวิ่งช้า pace6.15สบายๆเลย ไม่โน้มตัวมาก ก็วิ่งสบาย
ลองเทไปด้านหน้ามากขึ้น เท้าควงเร็วขึ้นเอง paceลดลงทันใจ ลงเท้ากดลงปลายเท้าเมื่อไหร่ จะเจอแรงดีดที่ถึงใจครับ
Pros
1.Speed roll เป็นพระเอกเลย
2.เน้นความมั่นคง ควงเท้าง่าย เลี้ยวง่าย
3.เบาในระดับรองเท้าซ้อม วิ่งง่าย วางเท้าง่าย
4.ระบายอากาศดี ไม่มีอาการเจอhot spot
5.Fittingดี ไม่กัด ไม่กด ไม่ดันเท้า สบายเท้า
Cons
1.ไม่ได้นุ่มมาก บุคลิกมันfirmไปทางนุ่มมากกว่า แต่ไม่สะท้านนะ
2.ไม่ได้เด้ง bounce มากนัก
สรุป เหมาะกับคนที่ชอบรองเท้ามั่นคง firmมากกว่าไปทางนุ่ม น้ำหนักเบา วิ่งเรื่อยๆสบายเท้า แต่กดเมื่อไหร่ speedก็มาง่ายๆเลย
Review Saucony Endorphine speed2
โทนสี ขาว ดำ ฟ้า ลวดลาย พริ้วๆ ซิ่งๆ
รองเท้ามี technology อะไรบ้าง
1. โฟม PWRRUNPB ช่วย cushioning เนื้อโฟมช่วย absorb แรงกระแทก และมีความเด้งในตัว ในขณะที่โฟมมีน้ำหนักไม่มากนัก (245g,10.5us)
เบามากกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน zoom fly3, tempo next% ก็ร่วมๆ 300g ที่เบอร์ 10.5usเท่ากัน (เปรียบเทียบกับรองเท้าที่ผมมีนะครับ)
speed2 หนักกว่าpro2 10gและหนักกว่า speed1 5g
รองเท้ามี Offset: 8mm (35.5mm/27.5mm)
2. มี nylon plate เต็มความยาวทำหน้าแบบ carbon plate ช่วยเพิ่มแรงดีด สปริง แรงส่งในจังหวะ strike แต่นุ่มนวลกว่ารุ่นpro ช่วยประหยัดแรงได้
ลองบิดรองเท้าแบบtwist และแบบงอครึ่ง ดูการสปริง รองเท้ามีแรงต้านๆ และสปริงพอๆกับzoomfly3 งอครึ่งได้สบาย
ต่างกับพวก super shoe ที่มีcarbonพวกนั้นงอได้ยากมาก
3. SPEEDROLL Technology ช่วยให้เราโน้มตัวไปข้างหน้าได้ง่าย เพื่อความได้เปรียบเชิงกล ง่ายมากเวลาวิ่งที่จะวิ่งให้เร็ว ใส่เดินจะเดินยากหน่อยนึง
4. Upper ปรับปรุง fitting ใหม่ให้มี FORMFIT โอบเท้าได้ดี แต่ยังคงความสบาย ผ้าEngineered mono-mesh ทำให้เบา ระบายอากาศได้ดี ผมสังเกตุว่ามันมีพื้นที่เหลือให้เท้าส่ายได้น้อยกว่า endorphin pro2 นิดนึง ที่เบอร์10.5 เบอร์เดียวกัน อันนี้ขอลอง ของเพื่อนมา
5. XT-900 outsole ช่วยให้พื้นทนทานมาก แต่ยังสร้าง traction ดี (รุ่น1มี feed back ว่าลื่น) แต่น่าจะเหมือนเดิม เพราะยางแบบเดียวกัน
6. Heel counter ปรับปรุงใหม่ให้มั่นคง แข็งแรงกว่าเดิม และมีการสะท้อนแสง พอมันแน่นหนากว่า มันเลยมีพื้นที่เหลือให้ปลายนิ้วเท้าเหลือ ก่อนจะชน น้อยลง น่าจะประมาณ เกือบ0.5 cm เลยทำให้รองเท้าคู่นี้สำหรับผม ออกแนวsnug fit นิ้วไม่ชน ผูกเชือกแบบ lace lockยิ่ง มั่นคง
วิ่งจริงเป็นไงบ้าง แค่เดินก็สัมผัสการrollได้แร่ะ โน้มตัวไปด้านหน้า รองเท้าช่วยเราเทตัวไปข้างหน้าง่ายๆ
ช่วง3kmแรก pace6 warm ทั้งคนทั้งรองเท้า ถือว่าเป็นช่วงนวดmidsoleล่ะกัน รู้สึกว่าไม่ได้นุ่มเท่าไหร่แต่ไม่ได้แข็งสะท้าน ผ่าน5km pace5.5 เริ่มรู้สึกถึงความนุ่มของพื้นมากขึ้น
kmที่ 6 ใช้ pace5.3 รองเท้าตอบสนองได้ดีครับ ด้วยความที่มาทางเบา ถึงจะไม่ได้เบาขนาด super shoes ทำให้เร่งง่าย เร่งได้ตามแรงเรา ควงขาสนุก
kmที่7 ใช้ pace 4.5 โหสนุกขึ้น ครับ เพราะเราstrike แรงขึ้น แรงกดที่รองเท้ามากขึ้น ทำให้สัมผ้สถึง energy return แต่มันไม่ได้ นุ่มเด้งแบบ nike next%อะไรขนาดนั้น ถือว่าเป็นรองเท้าที่กลางๆในด้านนุ่มเด้ง แต่ในด้าน ดี วิ่งมั่นคงมากครับ ใส่แล้วสบาย ถือว่าเป็นรองเท้าที่ stackสูง แต่วิ่งเลี้ยวแล้ว เท้ากับรองเท้า เป็นอันเดียวกันได้ดีมากๆ
8-10 km กลับมา easy pace 5ปลายๆ ถึง 6ต้นๆ ก็ยังสบายๆไปเรื่อยๆ
ลอง10km อีกรอบ คราวนี้เปลี่ยนเส้นทางวิ่งบ้าง รอบที่แล้ววิ่งเส้นกาญจนาล้วนๆ มีแต่คอนกรีต รอบนี้วิ่งออกกาญจนา ตัดเข้าซอย เพื่อออก ถนนพุทธมณฑณสาย1 มีทางราดยางเพื่อดู respond ของรองเท้า
สัมผัสจากการวิ่ง ไม่ต่างจากเดิมครับวิ่งช้า pace6.15สบายๆเลย ไม่โน้มตัวมาก ก็วิ่งสบาย
ลองเทไปด้านหน้ามากขึ้น เท้าควงเร็วขึ้นเอง paceลดลงทันใจ ลงเท้ากดลงปลายเท้าเมื่อไหร่ จะเจอแรงดีดที่ถึงใจครับ
Pros
1.Speed roll เป็นพระเอกเลย
2.เน้นความมั่นคง ควงเท้าง่าย เลี้ยวง่าย
3.เบาในระดับรองเท้าซ้อม วิ่งง่าย วางเท้าง่าย
4.ระบายอากาศดี ไม่มีอาการเจอhot spot
5.Fittingดี ไม่กัด ไม่กด ไม่ดันเท้า สบายเท้า
Cons
1.ไม่ได้นุ่มมาก บุคลิกมันfirmไปทางนุ่มมากกว่า แต่ไม่สะท้านนะ
2.ไม่ได้เด้ง bounce มากนัก
สรุป เหมาะกับคนที่ชอบรองเท้ามั่นคง firmมากกว่าไปทางนุ่ม น้ำหนักเบา วิ่งเรื่อยๆสบายเท้า แต่กดเมื่อไหร่ speedก็มาง่ายๆเลย