คือว่ามีน้องคนนึง เขาไม่สบายเลยไปตรวจ แล้วผลออกว่าเป็นโควิด เมื่อวันที่ 11 ส.ค นี้เอง คือก่อนที่เขาจะตรวจผจก.ให้เขาหยุดงานตั้งแต่วันที่ 2/8แล้วเพราะน้องเขาเริ่มตัวร้อน เลยให้กักตัวไว้ก่อน แต่เรากับเขาไม่ได้เจอกันก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ก็คือไม่ได้เจอกันตั้งแต่วันที่ 1/8 แล้ว ทีนี้วันที่12/8 หัวหน้าเจ้าของบริษัทซื้อที่ตรวจโควิดมาให้ตรวจกันเองภายในที่ทำงาน 15น.รู้ผล แต่ระหว่างตรวจกัน ก็มีพวกพี่พนักงานทำความสะอาดโควิดมาพ่นยาฆ่าเชื้อให้ แล้วเราต้องถ่ายรูปเพื่อเก็บผลงาน อยากบอกว่าฉุนมาก จนแสบคอ พี่เขาบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ถ้ายังได้กลิ่นแล้วแสบคอก็ไม่เป็นโควิดหรอก5555 พอตรวจครบทุกคนแล้ว เราก็ผลัดให้คนอื่นถ่ายแล้วเราไปตรวจบ้าง ทุกคนมันเจ็บมากจนน้ำตาไหลเลยอะ พอตรวจเสร็จก็รอ 15 นาที ผลออกมาเป็นลบทุกคน ไม่มีใครติดโควิดเลย ตั้งแต่วันนั้นหัวหน้าก็เลยให้กักตัวอยู่บ้านกัน
แต่พอวันต่อมาเมื่อวานนี้ วันที่13/8 หัวหน้าบอกว่าให้ผจก.พาน้องๆทุกคนไปตรวจโควิดที่โรงพยาบาล แต่คือเรากลัวมาก กลัวว่าจะติดโควิดจากที่โรงพยาบาล วันนั้นก็ตรวจไปแล้ว แล้วทำไมต้องไปเสี่ยงตรวจกันอีก แล้วในโรงพยาบาลคนก็เยอะมาก เราไม่อยากไปเสี่ยงเลย ที่บ้านเราอาศัยกันเป็นครอบครัวใหญ่ ถึงแม้จะอยู่กันบ้านครอบครัวละหลังอาศัยบนแผ่นดินผืนเดียวกัน เราแยกอยู่คนเดียวห้องเดียว แต่ยังไงก็ต้องเจอกันบ้างอยู่ดี บ้านเรามีทั้งเด็กและผู้สูงวัย เราไม่อยากไปเสี่ยงเลย
แต่พอขอว่าไม่ไปตรวจได้ไหม เรากลัว ผจก.เขาตอบกลับเรามาว่า ถ้าเราไม่ไปตรวจวันจันทร์นี้หัวหน้าก็จะไม่ให้กลับมาทำงาน เราเลยปรึกษาพ่อ พ่อบอกว่าทำงานอาชีพนี้ก็เสี่ยงมากพอแล้ว เพราะมันต้องเจอผู้คนมากมาย ถ้าติดขึ้นมาแล้วก็ไม่คุ้มหรอก ถ้าไม่สบายใจก็ออกมาเถอะ พ่อเอ่ยมาแค่นี้เราก็เลยกลับมาห้องของตัวเองคิดไปคิดมา ทุกคนอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องแค่นี้เอง แค่ตรวจไปก็จบ แต่จริงๆมันไม่ใช่เรื่องแค่นี้ไง  
(เราอยากถามทุกคน ถ้าทุกคนเป็นเราทุกคนจะทำอย่างไรต่อไปดี?)
😣